พระธรรม ฮักกัย 2:1-23
อ้างอิง อสร. 3:12;ฮบ.12:26;อพย.28:9;29:45-46;กดว.19:11-22;ปฐก.12:2;38:18;ลนต.25:21;สดด.128:1-6;ยอล.2:14;2คร.1:22
บทนำ ไม่ว่า เราตกต่ำหรือย่ำแย่มาสักเท่าไรในชีวิต ขอให้วันนี้ เราพร้อมให้พระเจ้าทรงชำระและใช้เรา เราจะมีโอกาสได้เห็นพระสิริและความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในชีวิตของเรายิ่งกว่าเดิม เพียงแต่ขอให้เราเชื่อฟังและปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์ โดยแสวงหาแผ่นดิน และความชอบธรรมของพระองค์ก่อนความต้องการของเรา แล้วเราจะพบว่า เราจะได้รับการอวยพรที่อิ่มเอมใจมีสันติสุขมากยิ่งกว่าที่เราพยายามหาด้วยตัวของเราเอง
บทเรียน
2:1 “ณ วันที่ 21 เดือนที่ 7 พระวจนะของพระยาห์เวห์มาโดยทางผู้เผยพระวจนะฮักกัย ว่า”
(In the seventh month, on the twenty-first day of the month, the word of the Lord came by the hand of Haggai the prophet, )
2:2 “จงกล่าวแก่เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล ผู้ว่าราชการแคว้นยูดาห์ กับมหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดัก และกับประชาชนที่เหลืออยู่ ว่า”
(“Speak now to Zerubbabel the son of Shealtiel, governor of Judah, and to Joshua the son of Jehozadak, the high priest, and to all the remnant of the people, and say,)
2:3 “ในพวกเจ้าที่เหลืออยู่มีใครบ้างที่เคยเห็นพระนิเวศนี้ประกอบด้วยศักดิ์ศรีเมื่อครั้งก่อน? และบัดนี้พวกเจ้าเห็นเป็นอย่างไร? มองดูแล้วเหมือนไม่มีอะไรเลยใช่ไหม?”
(‘Who is left among you who saw this house in its former glory? How do you see it now? Is it not as nothing in your eyes?)
2:4 “พระยาห์เวห์ตรัสว่า แต่บัดนี้ เศรุบบาเบลเอ๋ย จงเข้มแข็งเถิด มหาปุโรหิตโยชูวาบุตรเยโฮซาดักเอ๋ย จงเข้มแข็งเถิด และประชาชนทั้งสิ้นของแผ่นดินเอ๋ย จงเข้มแข็งเถิด พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า จงทำงานเถิด เพราะเราอยู่กับเจ้าทั้งหลาย”
(Yet now be strong, O Zerubbabel, declares the Lord. Be strong, O Joshua, son of Jehozadak, the high priest. Be strong, all you people of the land, declares the Lord. Work, for I am with you, declares the Lord of hosts,)
2:5 “ตามคำสัญญาที่เราได้ทำไว้กับพวกเจ้าเมื่อเจ้าทั้งหลายออกจากอียิปต์และวิญญาณของเราดำรงอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า อย่ากลัวเลย”
(according to the covenant that I made with you when you came out of Egypt. My Spirit remains in your midst. Fear not.)
2:6 “เพราะพระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า อีกไม่นาน เราจะเขย่าท้องฟ้าและโลก ทะเลและแผ่นดินแห้งอีกครั้งหนึ่ง”
(For thus says the Lord of hosts: Yet once more, in a little while, I will shake the heavens and the earth and the sea and the dry land.)
2:7 “เราจะเขย่าประชาชาติทั้งหมด และทรัพย์สมบัติของประชาชาติทั้งหมดจะเข้ามา แล้วเราจะบรรจุนิเวศนี้ให้เต็มด้วยศักดิ์ศรี พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสเช่นนี้”
(And I will shake all nations, so that the treasures of all nations shall come in, and I will fill this house with glory, says the Lord of hosts.)
2:8 “เงินเป็นของเรา และทองก็เป็นของเรา พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ”
(The silver is mine, and the gold is mine, declares the Lord of hosts.)
2:9 “พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า ศักดิ์ศรีของพระนิเวศหลังนี้จะยิ่งใหญ่กว่าหลังก่อน และในสถานที่นี้ เราจะให้สันติสุข” พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ”
(The latter glory of this house shall be greater than the former, says the Lordof hosts. And in this place I will give peace, declares the Lord of hosts.’”)
2:10 “ณ วันที่ 24 เดือนที่9 ในปีที่ 2 ของรัชกาลพระราชาดาริอัส พระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงผู้เผยพระวจนะฮักกัยว่า”
(On the twenty-fourth day of the ninth month, in the second year of Darius, the word of the Lord came by Haggai the prophet,)
2:11“พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า จงถามบรรดาปุโรหิตในเรื่องธรรมบัญญัติเถิดว่า”
(“Thus says the Lord of hosts: Ask the priests about the law:)
2:12 “ถ้าคนไหนถือเนื้อบริสุทธิ์ไปโดยการห่อด้วยชายเสื้อคลุม และชายเสื้อนั้นไปแตะต้องขนมปัง หรือแกง หรือเหล้าองุ่น หรือน้ำมัน หรืออาหารใดๆ สิ่งเหล่านี้จะบริสุทธิ์ไปด้วยหรือไม่?’” พวกปุโรหิตตอบว่า “ไม่”
(‘If someone carries holy meat in the fold of his garment and touches with his fold bread or stew or wine or oil or any kind of food, does it become holy?’” The priests answered and said, “No.”)
2:13 “แล้วฮักกัยจึงถามอีกว่า “ถ้าคนไหนที่เป็นมลทินเพราะไปแตะต้องศพ แล้วมาแตะต้องสิ่งเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นมลทินไปด้วยหรือไม่?” บรรดาปุโรหิตตอบว่า “เป็นมลทินด้วย”
(Then Haggai said, “If someone who is unclean by contact with a dead body touches any of these, does it become unclean?” The priests answered and said, “It does become unclean.”)
2:14 “ฮักกัยจึงตอบว่า “พระยาห์เวห์ตรัสว่า ในสายตาของเรา ประชาชนพวกนี้ก็เป็นอย่างนั้น ชนชาตินี้ก็เป็นอย่างนั้น และผลงานทุกอย่างที่มือของพวกเขาทำก็เป็นอย่างนั้น และสิ่งที่พวกเขาถวายบูชาที่นั่น ก็เป็นมลทิน”
(Then Haggai answered and said, “So is it with this people, and with this nation before me, declares the Lord, and so with every work of their hands. And what they offer there is unclean.)
2:15 “แต่บัดนี้ ให้พิจารณาดูตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนที่ศิลาก้อนหนึ่งจะวางซ้อนบนศิลาอีกก้อนหนึ่งในพระวิหารของพระยาห์เวห์”
(Now then, consider from this day onward. Before stone was placed upon stone in the temple of the Lord,)
2:16 “พวกเจ้าเป็นอย่างไร? เมื่อใครมายังกองข้าวคิดว่าจะตวงได้ 200 กิโลกรัม แต่ก็ได้เพียง 100 กิโลกรัม เมื่อใครมายังบ่อเก็บน้ำองุ่นคิดว่าจะตักได้ 100 ลิตร แต่ก็ได้เพียง 40 ลิตร”
(how did you fare? When one came to a heap of twenty measures, there were but ten. When one came to the wine vat to draw fifty measures, there were but twenty.)
2:17 “พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราได้โจมตีพวกเจ้าและผลงานทุกอย่างที่มือของพวกเจ้าทำด้วยการทำให้ข้าวม้านและขึ้นรา และด้วยลูกเห็บ แต่เจ้าทั้งหลายไม่มาหาเรา”
(I struck you and all the products of your toil with blight and with mildew and with hail, yet you did not turn to me, declares the Lord.)
2:18 “บัดนี้ จงพิจารณาดู ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คือวันที่ 24 เดือนที่ 9 คือตั้งแต่วันที่วางรากฐานพระวิหารของพระยาห์เวห์ จงพิจารณาดูเถิด”
(Consider from this day onward, from the twenty-fourth day of the ninth month. Since the day that the foundation of the Lord’s temple was laid, consider:)
2:19 “ยังมีเมล็ดข้าวตกค้างอยู่ในยุ้งฉางหรือ? เถาองุ่น ต้นมะเดื่อ และต้นทับทิม กับต้นมะกอกยังไม่เกิดผลหรือ? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะอวยพรเจ้า”
(Is the seed yet in the barn? Indeed, the vine, the fig tree, the pomegranate, and the olive tree have yielded nothing. But from this day on I will bless you.”)
2:20 “พระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงฮักกัยเป็นครั้งที่สองในวันที่ 24 ของเดือนนั้นว่า”
(The word of the Lord came a second time to Haggai on the twenty-fourth day of the month,)
2:21“จงพูดกับเศรุบบาเบลผู้ว่าราชการแคว้นยูดาห์ว่า เรากำลังจะเขย่าท้องฟ้าและแผ่นดินโลก”
(“Speak to Zerubbabel, governor of Judah, saying, I am about to shake the heavens and the earth,)
2:22 “เรากำลังจะคว่ำบัลลังก์ของบรรดาราชอาณาจักร และทำลายพลังของบรรดาราชอาณาจักรแห่งประชาชาติทั้งหลาย และเราจะคว่ำบรรดารถรบกับผู้ขับขี่ พวกม้ากับผู้ขับขี่ของมันจะต้องล้มลง คือทุกคนจะต้องล้มลงด้วยดาบพวกพ้องของเขาเอง”
(and to overthrow the throne of kingdoms. I am about to destroy the strength of the kingdoms of the nations, and overthrow the chariots and their riders. And the horses and their riders shall go down, everyone by the sword of his brother.)
2:23 “พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า ในวันนั้นเราจะรับเจ้า โอ เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล ผู้รับใช้ของเราเอ๋ย พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราจะทำเจ้าให้เป็นเหมือนแหวนตรา เพราะเราได้เลือกสรรเจ้าแล้ว” พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ”
(On that day, declares the Lord of hosts, I will take you, O Zerubbabel my servant, the son of Shealtiel, declares the Lord, and make you like a signet ring, for I have chosen you, declares the Lord of hosts.”)
ข้อมูลมีประโยชน์
2:1 “ณ วันที่ 21 เดือนที่ 7” (In the seventh month, on the twenty-first day of the month) = 17 ตุลาคมปี
520 ก่อน ค.ศ. = วันสุดท้ายของเทศกาลอยู่เพิง
= เวลาแห่งการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูร้อน (ลนต.23:34-43) แม้ว่าพืชผลจะน้อย
(1:11;ยน.7:37) ปท. ฮกก.2:10,20; -กษัตริย์ซาโลมอนก็ถวายพระวิหารในช่วงเทศกาลนี้ (1พกษ.8:2)
2:2 “เศรุบบาเบล” ( Zerubbabel) –ฮกก.1:1
“มหาปุโรหิตโยชูวา บุตรเยโฮซาดัก” (Joshua the son of Jehozadak, the high priest) –1พศด.6:15
“ประชาชนที่เหลืออยู่” (to all the remnant of the people) –ฮกก.1:12
2:3 “ที่เหลืออยู่” (Who is left) = เชลยบางคนมีอายุมาก (อาจรวมทั้งฮักกัย) พอที่เคยเห็นพระวิหารอันโอ่อ่าตระการ และยิ่งใหญ่ของซาโลมอน (ที่ถูกทำลายโดยบาบิโลนเมื่อ 66 ปีก่อน)
“พระนิเวศนี้ประกอบด้วยศักดิ์ศรีเมื่อครั้งก่อน” (who saw this house in its former glory)
= พระวิหารของเศรุบบาเบลได้รับการยอมรับว่าเป็นวิหารที่ต่อเนื่องมาจากพระวิหารของซาโลมอน (ข.7,9)
“มองดูแล้วเหมือนไม่มีอะไรเลย” (Is it not as nothing in your eyes?) = รู้สึกเทียบกันไม่ได้เลย (อสร.3:12)
2:4 “จงเข้มแข็งเถิด….จงทำงานเถิด” ( Be strong…Work) = ดาวิดก็กล่าวเช่นนี้ (ใน 1พศด.28:20) เพื่อให้กำลังใจแก่ซาโลมอนในการสร้างพระวิหารพระเจ้าให้กำลังใจแก่โยชูวา บุตรนูนด้วยถ้อยคำที่คล้าย ๆ กัน (ยชว.1:6-,9,18)
“เราอยู่กับเจ้าทั้งหลาย” (I am with you) -1:13;1พศด.28:20
= พระเจ้าเดียวกันกับที่ช่วยซาโลมอนจะช่วยเสริมกำลังให้แก่เศรุบบาเบลและประชาชน
2:5 “วิญญาณของเรา” (My Spirit) = พระวิญญาณของพระเจ้าอยู่กับโมเสสและบรรดาผู้อาวุโส 70 คน เมื่อพวกเขานำประชาชนออกจากอียิปต์ และเดินทางผ่านถิ่นทุรกันดาร (กดว.11:16-17,25;อสย.63:11;สดด.51:11;ศคย.4:6) “อย่ากลัวเลย” (Fear not) -ข.4;ยชว.1:18;อสย.41:10
2:6 “อีกไม่นาน เราจะเขย่าท้องฟ้าและโลก” (in a little while, I will shake the heavens) = คำประกาศวันพิพากษาของพระเจ้าที่ใกล้จะมาถึงบรรดาประชาชาติ และเริ่มเป็นจริงจากการที่เปอร์เซียแพ้สงครามแก่อเล็กซานเดอร์มหาราช (ปี 333-330 ก.ค.ศ.) ใน ฮบ.12:26-27,โยงพระธรรมตอนนี้เข้ากับการพิพากษาบรรดาประชาชาติ เมื่อพระคริสต์เสด็จกลับมา (เบื้องหลังจากเขย่าประชาชาติในข้อนี้และในข้อ 21-22 คือ การพิพากษาต่ออียิปต์ที่ทะเลแดง ปท. อสย.14:16-17)
2:7 “เราจะเขย่าประชาชาติทั้งหมด และทรัพย์สมบัติของประชาชาติทั้งหมดจะเข้ามา” (I will shake all nations, so that the treasures of all nations shall come in) = บางฉบับแปลว่า “เราจะเขย่ามวลประชาชาติและสิ่งที่ประชาชาติทั้งหลายพึงปรารถนาจะหลั่งไหลมา”
คำว่า “ทรัพย์สมบัติ” นี้ จะหมายถึงคนหรือสิ่งของก็ได้ หากหมายถึงสิ่งของก็เป็นทรัพย์สิ่งของที่มีค่า (2พศด.20:25;32:37) อาทิ สิ่งที่กษัตริย์ดาริอัสประทานให้แก่พระวิหาร (อสร.6:8)
-ข้อนี้จริงสอดคล้องกับ อสย.60:5 ที่บอกว่า ทรัพย์สมบัติของประชาชาติต่าง ๆ จะถูกนำมายังศิโยน
แต่หากหมายถึงคนก็เช่นเดียวกัน (ดนล.9:23) ซึ่งแปลคำฮีบรูคำเดียวกันนี้ว่า “ผู้ที่ทรงรักยิ่ง”
ปท. 1ซมอ.9:20 ในที่นี้อาจแปลว่า “ผู้ที่พึงปรารถนาจะมา” และอาจเล็งถึง “พระผู้ช่วยให้รอด”
(พระเมสิยาห์ –ดนล.11:37;มลค.3:1)
“ให้เต็มด้วยศักดิ์ศรี” (with glory) = เปี่ยมด้วยสง่าราศี
อาจหมายถึง = ความโอ่อ่าตระการทางวัตถุ (อสย.60:7,13) หรือการทรงสถิต(ด้วยพระเกียรติสิริ) ของพระเจ้า (อสย.40:34-35;1พกษ.8:10-11;อสค.10:4)
-ในความหมายหลังนี้ เชื่อมโยงกับพระสิริของพระเจ้ากับเมฆ ซึ่งปกคลุมสถานนมัสการ
-เมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา การทรงสถิตอยู่ของพระเจ้าก็จะเด่นชัดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน (ลก.2:27,32)
2:8 “เงินเป็นของเรา และทองก็เป็นของเรา” (The silver is mine, and the gold is mine) = ให้จัดเตรียมไว้สำหรับวิหารของซาโลมอน (1พศด.29:2,7) และของเศรุบบาเบล (อสร.6:5)
2:9 “ศักดิศรี….จะยิ่งใหญ่กว่าหลังก่อน” (this house shall be greater than the former) = สง่าราศีรุ่งโรจน์กว่า เพราะว่า พระเมสิยาห์จะประทับที่นั่น (ข.7)
“หลังก่อน” = พระวิหารหลังเดิมที่ซาโลมอนสร้าง “สถานที่นี้” (in this place) = เยรูซาเล็ม (ศฟย.1:4)
“เราจะให้สันติสุข” (I will give peace) = ดูคำอวยพรของปุโรหิต ใน กดว.6:26
2:10 “ ณ วันที่ 24 เดือนที่ 9 ในปีที่ 2” (On the twenty-fourth day of the ninth month, in the second year of Darius) = 18 ธันวาคม ปี 520 ก.ค.ศ. = เป็นเวลาปลูกพืชฤดูหนาว
2:11 “บรรดาปุโรหิต” (the priests) = ผู้ที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความหมายที่ถูกต้องในบทบัญญัติต่าง ๆ
–ฉธบ.31:11;ยรม.18:18;มลค.2:7-9
2:12 “เนื้อบริสุทธิ์” (holy meat) = เนื้อจากสัตว์ซึ่งแยกไว้เป็นเครื่องบูชา
“สิ่งเหล่านี้จะบริสุทธิ์ไปด้วยหรือไม่?” (does it become holy?) = คำถามเกี่ยวกับการถ่ายเทความบริสุทธิ์ เนื้อที่บริสุทธิ์ทำให้เสื้อผ้า “บริสุทธิ์” เพราะสัมผัสกับเสื้อผ้านั้นโดยตรง (ลนต.6:27) แต่เสื้อผ้านั้นส่งต่อความบริสุทธิ์ไปยังวัตถุที่สามไม่ได้
2:13 “สิ่งเหล่านี้จะเป็นมลทินไปด้วยหรือไม่? “ (does it become unclean?”) = การเป็นมลทินตามระเบียบพิธีนั้นติดต่อ(ถ่ายเท) ได้ง่ายกว่าความบริสุทธิ์มาก
= คนที่เป็นมลทินไปสัมผัสสิ่งใดสิ่งนั้นก็เป็นมลทิน (กดว.19:11-13,22)
2:14 “ประชาชนพวกนี้…ผลงานทุกอย่าง…สิ่งที่พวกเขาถวายบูชา…ก็เป็นมลทิน” (this people… every work… every work… there is unclean ) = แม้ประชาชนจะกลับมาสู่ดินแดนพระสัญญา อันบริสุทธิ์ แต่ความบริสุทธิ์นั้นไม่ได้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์แต่อย่างใด พวกเขาต้องเชื่อฟังพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างวิหารขึ้นใหม่ (ข.12-13)
2:15 “ก่อนที่ศิลาก้อนหนึ่งจะวางซ้อนบนศิลาอีกก้อนหนึ่ง” (Before stone was placed upon stone)
= ก่อนที่จะวางศิลารากฐาน = ก่อนวันที่ 24 เดือน 6 (1:14-15)
2:16 “กองข้าว” (a heap ) –ยรม.50:26
“ได้เพียง 100 กิโลกรัม…ได้เพียง 40 ลิตร” (twenty measures…… but twenty)
= บางฉบับแปลว่า “ได้เพียงสิบถึง…มีเพียง 20 ถัง”
= ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้นั้น เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับบาปของประชาชน (1:11;อสย.5:10)
“บ่อเก็บน้ำองุ่น” (the wine vat) = ปกติเป็นหลุมตื้นที่ขุดลงไปในหินแข็ง น้ำองุ่นที่ได้จากการย่ำจะไหลลงในหลุมนี้ และขังไว้จนกว่าจะเริ่มหมัก จากนั้น น้ำองุ่นจะถูกถ่ายลงไหหรือถุงหนังเพื่อหมักและเก็บรักษาต่อไป
2:17 “โจมตี…ด้วยการทำให้ข้าวม้านและขึ้นรา และด้วยลูกเห็บ” (struck …with blight and with mildew and with hail) = คำสาปแช่งเพราะการไม่เชื่อฟังใน ฉธบ.28:22 (1พกษ.8:37;อมส.4:9)
= การโจมตีหรือตัวทำลายนี้ อาจเป็นผลมาจากลมร้อนตะวันออก (ปฐก.41:6)
“ลูกเห็บ” -ถูกส่งมาทำลายพืชผลและฝูงสัตว์ในอียิปต์ (อพย.9:25;สดด.78:47-48)
“แต่เจ้าทั้งหลายไม่มาหาเรา” (yet you did not turn to me) = เจ้าไม่ยอมกลับมา (อมส.4:6,8-11)
2:18 “วันที่วางรากฐานพระวิหาร” (Since the day that the foundation of the Lord’s temple) = วันที่จะได้รับการอวยพรเช่นเดียวกับวันที่วางฐานราก ในปี 536 ก.ค.ศ. (อสร.3:11) = คำเตือนไม่ให้ทำผิดพลาดซ้ำอีก
2:19 “เถาองุ่น ต้นมะเดื่อและต้นทับทิม กับต้นมะกอกเทศ” (the vine, the fig tree, the pomegranate, and the olive tree) –องุ่น มะเดื่อ และทับทิมสุกในเดือนสิงหาคม และกันยายน ส่วนมะกอกได้ผลตั้งแต่กันยายนถึงพฤศจิกายน -ก็เหมือนกับข้าวก่อนหน้านี้ คือ เก็บเกี่ยวได้น้อย (1:11)
“เราจะอวยพรเจ้า” (I will bless you) = เนื่องจากพวกเขาสนองตอบต่อคำของฮักกัย จึงได้รับการรับรองว่า พวกเขาจะได้รับความอุดมสมบูรณ์ในอนาคต (ปท. มลค.3:10)
2:20 “วันที่ 24 ของเดือนนั้น” (on the twenty-fourth day of the month) –ฮกก.1:15;2:1,10
2:21 “เขย่าท้องฟ้า และแผ่นดินโลก” (shake the heavens and the earth) –ข.5;อสย.14:16;อสค.38:19-20
2:22 “คว่ำ…คว่ำ” (overthrow …overthrow) = คำภาษาฮีบรู 2 คำ นี้ใช้กับเมืองโสโดม และโกโมราห์ ในปฐก.19:25;อมส.4:11
“รถรบ…ผู้ขับขี่…พวกม้า” (the chariots .. their riders. .. the horses) = เปรียบเทียบกับความหายนะของกองทัพของฟาโรห์ที่ทะเลแดง (อพย.15:1,4,19,21)
“ต้องล้มลงด้วยดาบของพวกพ้องของเขาเอง” (their riders shall go down, everyone by the sword of his brother) = ชะตากรรมของกองทัพมีเดียน (วนฉ.7:22), โกก (อสค.38:21), และชนชาติต่าง ๆ ที่ต่อสู้กับเยรูซาเล็มในยุคสุดท้าย (ศดย.14:13)
2:23 “ในวันนั้น” (On that day) = วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า (อสย.2:11,17,20;10:20,27;ยอล.1:15;ศคย.2:11)
“ผู้รับใช้ของเราเอ๋ย” ( my servant) = คำศัพท์ที่ใช้กับผู้เผยพระวจนะ (อสย.20:3), ผู้นำทางการเมือง
(อสย.22:20), และพระเมสิยาห์ (อสย.41:8-9;42:1)
“แหวนตรา” (a signet ring) = ตราประทับชนิดหนึ่งซึ่งใช้เป็นดุจลงลายมือ (อสธ.8:8) ใช้สวมไว้ที่นิ้ว
(อสธ.3:16) และเช่นเดียวกับตราประทับอื่น ๆ (ปฐก.38:18) คือสามารถใช้เป็นของประกันหรือของมัดจำการจ่ายเงินให้ครบตามจำนวน
= การเอ่ยถึงการลบล้างคำสาปแช่งที่ตกแก่กษัตริย์เยโฮยาคีน ใน ยรม.22:24; ปท.วนฉ.17:2
= เศรุบบาเบลจะเป็นเครื่องรับประกันว่า พระสิริในอนาคตของพระวิหารจะเป็นที่ประจักษ์ให้เห็น
(ข้อ 6-7,9;ศคย.4:6-7)
“เราได้เลือกสรรเจ้าแล้ว” (I have chosen you) –อสย.41:8-9;42:1
คำถามนำอภิปราย
- คุณเคยมีโอกาสได้เห็น “ความยิ่งใหญ่” หรือ “ศักดิ์ศรี” ของสถานที่ใดบ้างที่ตอนนี้พังทลายหรือหายไปแล้ว? (แบ่งปัน)
- หากคุณสามารถเลือกกลับไปสู่อดีตยุคใดก็ได้ คุณอยากจะกลับไปเห็นความยิ่งใหญ่หรือความโอ่อ่าตระการของสถานที่ใด? ทำไม?
- คุณเคยได้รับมอบหมายให้ทำงานใดที่ยากมากสำหรับคุณบ้าง? งานอะไร? ใครมอบให้? ทำไมจึงยาก? แล้วคุณทำได้หรือสำเร็จหรือไม่? อย่างไร?
- คุณเคยมีประสบการณ์กับการที่พระเจ้าทรงสถิตกับคุณจนคุณไม่กลัว และสามารถทำให้งานที่ได้รับมอบหมายจาก พระเจ้าจนสำเร็จบ้างไหม? (แบ่งปัน)
- คุณยอมรับได้อย่างจริงใจหรือไม่ว่า “เงินและทองหรือทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เรามีล้วนแต่เป็นของพระเจ้า” แล้วคุณกระทำอะไรต่อทรัพย์เหล่านั้นเป็นการตอบสนองการยอมรับด้วยความเชื่อนั้นบ้าง? ต่อ 1) คริสตจักร? 2) งานของพระเจ้า?
- คุณเคยมีสันติสุขจากการได้เห็นพระเจ้าทรงทำกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในสถานที่ที่คุณอยู่บ้างหรือไม่? อย่างไร?
- ในชีวิตประจำวันของคุณ ทุกวันนี้ คุณมีชีวิตที่ 1) บริสุทธิ์ หรือ 2) เป็นมลทิน มากกว่ากัน?ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? มีอะไรที่คุณควรจะปรับเปลี่ยนแก้ไขหรือปรับปรุงบ้างไหม? อย่างไรและเมื่อไร?
- ในชีวิตที่ผ่านมาของคุณย้อนหลังไป 1 ปี คุณคิดว่า พระเจ้า 1) อวยพร หรือ 2) สาปแช่ง คุณ?ทำไมคุณคิดเช่นนั้น มีอะไรยืนยัน? (แบ่งปัน)
- คุณจะต้องทำอะไรบ้าง จึงจะมีโอกาสได้ยินพระเจ้าตรัสกับคุณว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะอวยพรเจ้า?
ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์