Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

บทเรียนพระธรรมฮักกัย

พระธรรม        ฮักกัย 1:1-15

อ้างอิง             เอสรา 3:12;4:24-5:2;6:14

บทนำ             พระธรรมฮักกัย เป็นสารที่มาจากพระเจ้า ผ่านผู้เผยพระวจนะฮักกัย ในราวปี 520 ก.ค.ศ. หลังจากที่ชาวอิสราเอลเดินทางกลับมาจากเป็นเชลยในบาบิโลนแล้ว เป็นเวลานานพอควร แต่ก็ยังคงปล่อยให้พระวิหารอยู่ในสภาพปรักหักพังโดยไม่ได้บูรณะซ่อมแซมให้ดี พระเจ้าจึงตรัสผ่านฮักกัยเพื่อกระตุ้นเตือนพวกเขาให้สร้างพระวิหารขึ้นมาใหม่ และพระองค์สัญญาว่าจะประทานความรุ่งเรือง ความมั่งคั่ง และสันติภาพให้แก่ประชาชนที่ได้รับการชำระแล้ว

บทเรียน

1:1 “ณ วัน‍ที่ 1 เดือน​ที่ 6 ปี​ที่ 2 แห่ง​รัช‌กาล​พระ‍ราชา​ดา‌ริ‌อัส พระ‍วจนะ​ของ​พระ‍ยาห์‌เวห์​มา​โดย​ทาง​ผู้‍เผย‍พระ‍วจนะ​ฮัก‌กัย ถึง​เศ‌รุบ‌บา‌เบล​บุตร​เช‌อัล‌ทิ‌เอล ผู้‍ว่า‍ราช‌การ​แคว้น​ยู‌ดาห์ และ​ถึง​มหา‍ปุ‌โร‌หิต​โย‌ชู‌วา​บุตร​เย‌โฮ‌ซา‌ดัก​ว่า” 

   (In the second year of Darius the king, in the sixth month, on the first day of the month, the word of the Lord came by the hand of Haggai the prophet to Zerubbabel the son of Shealtiel, governor of Judah, and to Joshua the son of Jehozadak, the high priest: )

1:2“พระ‍ยาห์‌เวห์​จอม‍ทัพ​ตรัส​ดัง‍นี้​ว่า ประ‌ชา‍ชน​พวก‍นี้​กล่าว​ว่า ‘ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ที่​จะ​สร้าง​พระ‍นิ‌เวศ​ของ​พระ‍ยาห์‌เวห์’”

     (“Thus says the Lordof hosts: These people say the time has not yet come to rebuild the house of the Lord.”)

1:3 “แล้ว​พระ‍วจนะ​ของ​พระ‍ยาห์‌เวห์​จึง​มา​โดย​ผู้‍เผย‍พระ‍วจนะ​ฮัก‌กัย ว่า” 

     (Then the word of the Lord came by the hand of Haggai the prophet, )

1:4 “นี่‍เป็น​เวลา​ที่​พวก‍เจ้า​เอง​อาศัย​อยู่​ใน​บ้าน​ที่​มี​ไม้​บุ แต่​พระ‍นิ‌เวศ​นี้​ถูก​ทิ้ง​ให้​พัง‍ทลาย​หรือ? 

     (“Is it a time for you yourselves to dwell in your paneled houses, while this house lies in ruins? )

1:5 “เพราะ‍ฉะนั้น​บัด‍นี้​พระ‍ยาห์‌เวห์​จอม‍ทัพ​จึง​ตรัส​ว่า จง​พิจาร‌ณา​ความ​เป็น​อยู่​ของ​พวก‍เจ้า” 

     (Now, therefore, thus says the Lord of hosts: Consider your ways. )

1:6 “พวก‍เจ้า​หว่าน​มาก แต่​เก็บ‍เกี่ยว​น้อย พวก‍เจ้า​รับ‍ประ‌ทาน แต่​ไม่​เคย​อิ่ม พวก‍เจ้า​ดื่ม แต่​ก็​ไม่​หยุด​กระ‌หาย พวก‍เจ้า​นุ่ง‍ห่ม แต่​ก็​ไม่​อบอุ่น คน​ที่​ได้​ค่า‍จ้าง ก็​ได้​ค่า‍จ้าง​มา​ใส่​ถุง​ที่​มี​รู‍รั่ว”

     (You have sown much, and harvested little. You eat, but you never have enough; you drink, but you never have your fill. You clothe yourselves, but no one is warm. And he who earns wages does so to put them into a bag with holes.)

1:7“พระ‍ยาห์‌เวห์​จอม‍ทัพ​ตรัส​ดัง‍นี้​ว่า จง​พิจาร‌ณา‍ดู​ความ​เป็น​อยู่​ของ​พวก‍เจ้า 

   (“Thus says the Lord of hosts: Consider your ways. )

1:8 “พระ‍ยาห์‌เวห์​ตรัส​ว่า จง​ขึ้น​ไป​บน​เนิน‍เขา​และ​นำ​ไม้​มา​สร้าง​พระ‍นิ‌เวศ แล้ว​เรา​จะ​มี​ความ​พอ‍ใจ​ใน​พระ‍นิ‌เวศ​นั้นและ​เรา​จะ​ได้​รับ​เกียรติ”

   (Go up to the hills and bring wood and build the house, that I may take pleasure in it and that I may be glorified, says the Lord.)

1:9 “เจ้า​ทั้ง‍หลาย​คาด‍หวัง​มาก แต่​ดู‍ซิ​กลับ​ได้​น้อย และ​เมื่อ​พวก‍เจ้า​นำ​ผล​มา​ที่​บ้าน เรา​ก็​เป่า​มัน​ไป​เสีย เพราะ​เหตุ‍ใด? พระ‍ยาห์‌เวห์​จอม‍ทัพ​ตรัส​ว่า ก็​เพราะ​นิ‌เวศ​ของ​เรา​พัง‍ทลาย​อยู่ ส่วน​พวก‍เจ้า​ต่าง​ก็​ยุ่ง​อยู่​กับ​เรื่อง​บ้าน​ของ​ตัว​เอง” 

   (You looked for much, and behold, it came to little. And when you brought it home, I blew it away.  Why? declares the Lord of hosts. Because of my house that lies in ruins, while each of you busies himself with his own house.)

1:10 “เพราะ‍ฉะนั้น ท้อง‍ฟ้า​ที่​อยู่​เหนือ​พวก‍เจ้า​จึง​ระงับ​น้ำ‍ค้าง​ไว้ และ​แผ่น‍ดิน​ก็​ระงับ​พืช‍ผล​ของ​มัน​เสีย” 

   (Therefore the heavens above you have withheld the dew, and the earth has withheld its produce.)

1:11 “และ​เรา​ก็​เรียก​ความ​แห้ง‍แล้ง​มา​สู่​แผ่น‍ดิน​และ​เนิน‍เขา​ต่างๆ มา​สู่​ข้าว เหล้า‍องุ่น​ใหม่​และ​น้ำ‍มัน มา​สู่​ผล‍ผลิต​ต่างๆ ที่​มา​จาก​พื้น‍ดิน มา​สู่​มนุษย์​และ​สัตว์‍เลี้ยง และ​มา​สู่​ผล‍งาน​ทั้ง‍หมด​ที่​ทำ​จาก​มือ

   (And I have called for a drought on the land and the hills, on the grain, the new wine, the oil, on what the ground brings forth, on man and beast, and on all their labors.”)

1:12 “แล้ว​เศ‌รุบ‌บา‌เบล​บุตร​เช‌อัล‌ทิ‌เอล​และ​มหา‍ปุ‌โร‌หิต​โย‌ชู‌วา​บุตร​เย‌โฮ‌ซา‌ดัก​พร้อม​กับ​ประ‌ชา‍ชน​ทั้ง‍หมด​ที่​เหลือ​อยู่​ได้​เชื่อ‍ฟัง​พระ‍สุร‌เสียง​ของ​พระ‍ยาห์‌เวห์​พระ‍เจ้า​ของ​พวก‍เขา และ​ถ้อย‍คำ​ของ​ผู้‍เผย‍พระ‍วจนะ​ฮัก‌กัย เพราะ‍ว่า​พระ‍ยาห์‌เวห์​พระ‍เจ้า​ของ​เขา‍ทั้ง‍หลาย​ทรง​ใช้​ท่าน​มา และ​ประ‌ชา‍ชน​ก็​เกรง‍กลัว​เฉพาะ‍พระ‍พักตร์​พระ‍ยาห์‌เวห์” 

   (Then Zerubbabel the son of Shealtiel, and Joshua the son of Jehozadak, the high priest, with all the remnant of the people, obeyed the voice of the Lord their God, and the words of Haggai the prophet, as the Lord their God had sent him. And the people feared the Lord.)

1:13 “แล้ว​ฮัก‌กัย ทูต​ของ​พระ‍ยาห์‌เวห์​จึง​กล่าว​ถ้อย‍คำ​ของ​พระ‍องค์​แก่​ประ‌ชา‍ชน​ว่า “พระ‍ยาห์‌เวห์​ตรัส​ว่า เรา​อยู่​กับ​เจ้า​ทั้ง‍หลาย” 

   (Then Haggai, the messenger of the Lord, spoke to the people with the Lord’s message, “I am with you, declares the Lord.” )

1:14 “และ​พระ‍ยาห์‌เวห์​ทรง​เร้า​วิญ‌ญาณ‍จิต​ของ​เศ‌รุบ‌บา‌เบล​บุตร​เช‌อัล‌ทิ‌เอล ผู้‍ว่า‍ราช‌การ​แคว้น​ยู‌ดาห์ และ​ทรง​เร้า​วิญ‌ญาณ‍จิต​ของ​มหา‍ปุ‌โร‌หิต​โย‌ชู‌วา​บุตร​เย‌โฮ‌ซา‌ดัก และ​ทรง​เร้า​วิญ‌ญาณ‍จิต​ของ​ประ‌ชา‍ชน​ทั้ง‍หมด​ที่​เหลือ​อยู่ เขา‍ทั้ง‍หลาย​ก็​มา​และ​สร้าง​พระ‍นิ‌เวศ​ของ​พระ‍ยาห์‌เวห์​จอม‍ทัพ พระ‍เจ้า​ของ​เขา‍ทั้ง‍หลาย” 

     (And the Lord stirred up the spirit of Zerubbabel the son of Shealtiel, governor of Judah, and the  spirit of Joshua the son of Jehozadak, the high priest, and the spirit of all the remnant of the  people. And they came and worked on the house of the Lord of hosts, their God,)

1:15 “ณ วัน‍ที่ 24 ของ​เดือน​นั้น​คือ​เดือน​ที่ 6 ใน​ปี​ที่ 2 ของ​รัช‌กาล​พระ‍ราชา​ดา‌ริ‌อัส”

       (on the twenty-fourth day of the month, in the sixth month, in the second year of Darius the king.)

 

ข้อมูลมีประโยชน์

1:1       “ณ วันที่ 1 เดือนที่ 6 ปีที่ 2” (In the second year of Darius the king, in the sixth month, on the first day of the month) = ตรงกับวันที่ 29 สิงหาคม ปี 520 ก.ค.ศ.

“วันที่ 1” = วันขึ้นหนึ่งค่ำ เป็นวันซึ่ง (บางครั้ง) ผู้คนจะไปขอคำแนะนำชี้แนะจากผู้เผยพระวจนะ (2พกษ.4:22-23;อสย.1:14)

“พระราชาดาริอัส” (King Darius) = ดาริอัส ฮิสทาสเพส ผู้ปกครองเปอร์เซีย ตั้งแต่ปี 522 – 486 ก.ค.ศ.

-ดาริอัส เป็นผู้บัญชาให้จารึกข้อความอักษรคูนิฟอร์ม 3 ภาษา บน ผาเบฮิสทัน (ซึ่งอยู่ในอิหร่านในปัจจุบัน) ซึ่งทำให้เข้าใจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เมโสโปเตเมียโบราณ กระจ่างชัดมากขึ้น

“พระวจนะของพระยาห์เวห์” (the word of the Lord) –บางฉบับแปลว่า พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า (ข.3;2:2;ฮชย.1:1)

“ฮักกัย” (Haggai) -อสร.4:24-5:2;6:14

ชื่อ “ฮักกัย” แปลว่า “การรื่นเริง การเลี้ยงเฉลิมฉลอง”

“เศรุบาเบล” (Zerubbabel) –อสร.1:8

“บุตรเชอัลทิเอล” (son of Shealtiel) –1พศด.3:17-19,เชชบัสซาร์

“ผู้ว่าราชการ …มหาปุโรหิต” (governor ….the high priest) = ผู้นำพลเรือนและผู้นำศาสนาของชุมชนยิว ที่ได้รับการรื้อฟื้น

“โยชูวา” (Joshua) –อสร.2:2 = ได้รับการเอ่ยถึงร่วมกับเศรุบบาเบล –ในข้อ 12,14;2:2,4

“เยโฮซาดัก” (Jozadak) = ถูกเนบูคัดเนสซาร์ จับไปเป็นเชลยในบาบิโลน –1พศด.6:15

1:2       “พระยาห์เวห์จอมทัพ” (the Lord of hosts) = พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ใช้มากกว่า 90 ครั้งในพระธรรมฮักกัย , เศคาริยาห์ และมาลาคี – ดู 1ซมอ.1:3;อสย.13:4

“ประชาชนพวกนี้” (These people) = ประชากรเหล่านี้ -2:14,

เพราะบาปพวกเขาถึงไม่ได้ถูกเรียกว่าเป็น    “ประชากรของเรา” – อสย.6:9-10;8:6,11-12;ยรม.14:10-11;อพย.17:4;ฮชย.1:9

“ยังไม่ถึงเวลา” (the time has not yet) = หลังจากที่วางรากฐานพระวิหารเสร็จแล้ว ในปี 536 ก.ค.ศ.      (ดู อสร. 3:8-10) ประชาชนก็ท้อใจและหยุดทำงานจนถึงปี 520 ก.ค.ศ. (อสร.4:2-5,24)

1:4       “บ้านที่มีไม้บุ” (paneled houses) = บ้านซึ่งกรุไม้อย่างดี ปกติพระราชวังมักกรุด้วยไม้สนสีดาห์ (1พกษ.7:3,7;ยรม.22:14-15)

1:5       “จงพิจารณาความเป็นอยู่ของพวกเจ้า” (Consider your ways) = จงใคร่ครวญให้ดี – ถูกกล่าวซ้ำ ในข้อ 17,2:15,18

1:6       “พวกเจ้าหว่านมากแต่เก็บเกี่ยวน้อย” (  You have sown much, and harvested little) = คำสาปของการไม่เชื่อฟัง (ฉธบ.28:38-39) ใน ลนต.26:20 ยังบรรยายถึงแผ่นดินที่ไม่เกิดผล เพราะถูกพระเจ้าสาป หรือพิพากษา

“ดื่ม…ไม่หยุดกระหาย” (you drink, but you never have your fill.) ปท. อสย.55:1-2 ประชาชนทำสิ่งใดก็จะไร้ผล ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกต้องหรือไม่ –ปท. ฮชย.4:10-11;มคา.6:13-15

“ใส่ถุงที่มีรูรั่ว” ( put them into a bag with holes ) = การกันดารอาหารทำให้ราคาสินค้าสูงมากขึ้น

1:8       “เนินเขา…ไม้” ( Go up to the hills … wood) = คงเป็นไม้ที่มาจากภูเขาบริเวณใกล้เคียง เพื่อเพิ่มเติมไม้สนสีดาร์ที่ซื้อมาจากเลบานอนแล้ว (อสร.3:7)

“ความพึงพอใจ” (take pleasure) = ความพึงพอใจในพระนิเวศ และเครื่องบูชาที่ถวายที่พระนิเวศ (ปท.อสย.1:11)

“เราจะได้รับเกียรติ” (I may be glorified) = ชนชาติที่เชื่อฟังพระเจ้าจะนำคำสรรเสริญและการถวาย   พระเกียรติมาสู่พระเจ้า (ยรม.13:11)

1:9       “ต่างก็ยุ่งอยู่กับ”(busies himself with) = “สาละวนอยู่กับ” แปลได้ตรงตัวว่า “วิ่งไปหา”

1:10     “น้ำค้าง” (the dew) = ปกติมักมีมากในช่วงฤดูเพาะปลูก และมีค่าเทียบเท่ากับฝน (2ซมอ.1:21;  1พกษ.17:1)

1:11     “สู่แผ่นดินและเนินเขา” (the land and the hills) = ป่าเขา มีการเพาะปลูกบนภูเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบขั้นบันได (สดด.104:13-15;อสย.7:25;ยอล.3:18)

“ข้าว เหล้าองุ่นใหม่และน้ำมัน” (the grain, the new wine, the oil) =พืชหลัก 3 ชนิดของแผ่นดินมักถูกเอ่ยถึงในบริบทของพระพรหรือคำสาปแช่ง (ฉธบ.7:13;ยอล.1:10)

“น้ำมัน” = น้ำมันมะกอก ถูกนำมาใช้เป็นอาหารและยา

1:12     “ประชาชนทั้งหมดเหลืออยู่” (all the remnant of the people) –อสย.1:9

“ได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์” = เชื่อฟังพระดำรัสของพระยาห์เวห์

= แสดงถึงความเคารพยำเกรงและเชื่อฟัง –ปฐก.20:11;ฉธบ.31:12-13;มลค.1:6;3:5,16

1:13     “ทูตของพระยาห์เวห์” ( the messenger of the Lord) = ผู้สื่อสาร เป็นอีกชื่อหนึ่งสำหรับผู้เผยพระวจนะ

(2พศด.36:15-16;อสย.42:19) หรือปุโรหิต (มลค.2:7)

“เราอยู่กับเจ้าทั้งหลาย” (I am with you  ) = บ่งบอกว่าจะประสบความสำเร็จแน่นอน (2:4;ปฐก.26:3; กดว.14:9)

1:14     “เร้าวิญญาณจิต” (the spirit) = ดลใจ (อสร.1:5)

-พระเจ้าดลใจ(เร้าใจ) คนกลุ่มเดียวกันนี้ให้กลับสู่แผ่นดินมาตุภูมิและสร้างพระวิหารขึ้นใหม่

1:15     “ณ วันที่ 24 ของเดือนนั้น คือ เดือนที่ 6 ในปีที่ 2” (on the twenty-fourth day of the month, in the sixth month, in the second year) = วันที่ 21 กันยายน ปี 520 ก.ค.ศ.

คำถามนำอภิปราย

  1. ชื่อของ “ฮักกัย” หมายความว่าอะไร? ท่านเกิดที่ไหน ? และมีใครเป็นผู้เผยพระวจนะร่วมสมัยด้วย?
  2. หัวข้อหลักของพระธรรมฮักกัยคืออะไร? ทำไมวิหารหรือการสร้างพระวิหารจึงเป็นประเด็นสำคัญในชีวิตของอิสราเอล? (2ปต.2:5)
  3. ทำไมพระธรรมฮักกัยจึงได้รับการเรียกขานว่าเป็น “ผู้เผยพระวจนะ ผู้ประสบความสำเร็จ” และสิ่งที่ท่านเขียนถูกเรียกว่า “หนังสือแห่งการหนุนใจ”?
  4. พระธรรมตอนนี้ สอนบทเรียนคุณเกี่ยวกับเรื่อง “การผัดวันประกันพรุ่ง” ไว้อย่างไรบ้าง?
  5. คุณคิดว่า สิ่งที่มีความสำคัญลำดับแรก ๆ ในชีวิตของคริสเตียนคืออะไร? (มัทธิว 6:3) และคุณกำลังปฏิบัติตามนั้นอยู่หรือไม่? ทำไม?
  6. ทำไมการเชื่อฟังพระเจ้า จึงเป็นกุญแจสำคัญของการดำรงอยู่ในน้ำพระทัยของพระเจ้า? คุณคิดว่า คุณสอบผ่านในเรื่องนี้แล้วหรือไม่? ทำไม?
  7. คำตรัสของพระเจ้าที่ว่า “เราอยู่กับเจ้าทั้งหลาย” มีความหมายอะไรต่อชีวิตของคุณบ้าง? อย่างไร?(อพย.3:12;ยรม.1:8;มธ.28:20)ในวันนี้คริสตจักรไทยจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นเตือนในเรื่องใด?   ทำไม?
  1. ข้อพระธรรมในฮักกัย 1:9 “เจ้า​ทั้ง‍หลาย​คาด‍หวัง​มาก แต่​ดู‍ซิ​กลับ​ได้​น้อย และ​เมื่อ​พวก‍เจ้า​นำ​ผล​มา​ที่​บ้าน เรา​ก็​เป่า​มัน​ไป​เสีย เพราะ​เหตุ‍ใด? พระ‍ยาห์‌เวห์​จอม‍ทัพ​ตรัส​ว่า ก็​เพราะ​นิ‌เวศ​ของ​เรา​พัง‍ทลาย​อยู่ ส่วน​พวก‍เจ้า​ต่าง​ก็​ยุ่ง​อยู่​กับ​เรื่อง​บ้าน​ของ​ตัว​เอง” เรื่องนี้สะกิดใจคุณในเรื่องอะไรบ้าง? อย่างไร

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.