และท่านจึงทูลว่า “ข้าพระบาทมิได้กระทำความลำบากแก่อิสราเอล แต่ฝ่าพระบาทได้กระทำ และราชวงศ์บิดาของฝ่าพระบาท เพราะว่าพวกฝ่าพระบาทได้ทอดทิ้งพระบัญญัติของพระเจ้า และติดตามบรรดาพระบาอัล (1พงศ์กษัตริย์ 18:18)
เอลียาห์กลายเป็นที่ไม่ชอบใจเมื่อไปประกาศแก่กษัตริย์อาหับ ท่านไปพบอาหับที่พระราชวังและประกาศว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ซึ่งข้าพระบาทปฏิบัติทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด จะไม่มีน้ำค้างหรือฝนในปีเหล่านี้ นอกจากตามคำของข้าพระบาท” (1พงศ์กษัตริย์ 17:1)
เอลียาห์กลายเป็นที่หมายหัว จะจับเป็นหรือจับตายได้ทั้งนั้น (แต่คงอยากให้จับตายมากกว่า) แต่จู่ๆท่านก็โผล่เข้าในฉากและเผชิญหน้ากับอาหับ เมื่ออาหับเห็นเอลียาห์ก็พูดว่า “นี่ตัวเจ้าหรือ เจ้าผู้ทำความลำบากให้อิสราเอล” (1พงศ์กษัตริย์ 18:17)
น่าสนใจที่อาหับเรียกเอลียาห์ว่าผู้ทำความลำบากให้ ซึ่งหมายถึง “งูในพงหญ้า” หรือพวก “งูพิษ” (ผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถเรียกผู้ที่เรียกไฟจากสวรรค์ให้ลงมาได้ว่าเป็นงูพิษ)
แต่เอลียาห์ตอบว่า “ข้าพระบาทมิได้กระทำความลำบากแก่อิสราเอล…แต่ฝ่าพระบาทได้กระทำ และราชวงศ์บิดาของฝ่าพระบาท เพราะว่าพวกฝ่าพระบาทได้ทอดทิ้งพระบัญญัติของพระเจ้า และติดตามบรรดาพระบาอัล (ข้อ 18) พูดอีกอย่างคือ เอลียาห์กำลังบอกว่า “ท่านทำตัวท่านเองอาหับ เพราะท่านหันไปหาพระเทียมเท็จ”
ผมรู้สึกประหลาดใจทุกทีเมื่อคนที่ฝ่าฝืนพระบัญญัติของพระเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เชื่อฟังคำเตือนของพระองค์ พอเจอเรื่องเดือดร้อนก็โทษไปที่พระองค์ ทั้งๆที่ส่วนใหญ่เป็นผลจากการกระทำของตัวเองทั้งสิ้น “ทำไมพระเจ้าทำแบบนี้กับฉัน? ทำไมพระองค์ทำแบบนี้?”
ไม่ใช่เสมอไปเมื่อเวลาที่มีเรื่องเดือดร้อน แต่บางครั้งมันมีเหตุและมีผลที่เกิดขึ้น บางครั้งเราทำสิ่งที่เลวร้ายและได้เก็บเกี่ยวผลของมัน แต่เรากลับทำงงสงสัยว่าทำไม
เช่นเดียวกับอาหับ เรายังกล้าที่จะโทษพระเจ้าในผลที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่เรากำลังเก็บเกี่ยวสิ่งที่เราหว่านไป
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr. ภาพ www.en.wikipedia.org)