แต่ขอบพระคุณพระเจ้า ผู้ทรงนำเราเสมอมาโดยพระคริสต์ด้วยความมีชัย และทรงโปรดประทานกลิ่นหอมแห่งความรู้ของพระองค์ ให้ปรากฏด้วยตัวเราทุกแห่ง เพราะว่าเราเป็นกลิ่นอันหอมหวาน ที่พระคริสต์ถวายพระเจ้าในหมู่คนที่กำลังจะรอด และคนที่กำลังประสบความพินาศ ฝ่ายหนึ่งเป็นกลิ่นแห่งความตายซึ่งนำไปสู่ความตาย และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นกลิ่นหอมแห่งชีวิตซึ่งนำไปสู่ชีวิต ใครเล่าจะมีความสามารถเหมาะสมกับพันธกิจเหล่านี้ (2โครินธ์ 2:14-16)
“เป็นปกติ” อาจจะเป็นสิ่งที่ดี
อย่างเช่นโรงพยาบาลโทรมาแจ้งผลตรวจว่า “เป็นปกติ” หรือเมื่อช่างซ่อมรถบอกคุณว่าเสียงแปลกๆที่ได้ยิน ไม่มีอะไรมากแค่อะไหล่บางตัวถึงเวลาต้องเปลี่ยน “เป็นปกติ” ราคาก็ไม่ได้แพงอะไร
แต่เมื่อเป็นเรื่องชีวิตฝ่ายวิญญาณ – “เป็นปกติ” อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีก็ได้
ฉันเป็นภรรยาศิษยาภิบาล และดีใจมากที่พระเจ้าเรียกให้มารับใช้เคียงข้างสามี แต่บางคนคิดว่าภรรยาศิษยาภิบาลควรเป็นแบบไหน การวางตัว การแต่งตัว คำพูด และท่าทีควรเป็นอย่างไร ทำให้ชอบคิดว่าพระเจ้าเรียกฉันมาเป็นนางมารีย์หรือไร … การทรงเรียกเช่นนั้นไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอ ฉันเป็นเพียงภรรยาศิษยาภิบาลธรรมดาๆ
เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตของบรรดาคนที่สร้างความแตกต่างยิ่งใหญ่ให้กับแผ่นดินของพระเจ้า พวกเขาเป็นคนปกติทั่วไป เป็นเหมือนถั่วอบหลากชนิดในกระป๋อง พวกผู้ชายที่ทำตัวประหลาดๆ ผู้หญิงที่ผ่านชิวิตเหลวแหลกมา คนเหล่านี้ที่ทุ่มเทให้กับพระเจ้า – อุทิศชีวิตแต่ละวันเพื่อสิ่งที่พระคริสต์ทรงทำให้พวกเขา เป็นคนธรรมดาสามัญ สามารถเข้าไปปะปนกับคนนอกศาสนา หรืออยู่กับคนที่ถูกตราหน้าโดยพวกเคร่งศาสนาได้ คนเหล่านี้แหละที่พระบิดาทรงรักนักหนา
แต่สิ่งที่คนเหล่านี้ไม่ธรรมดาคือความรักที่พวกเขามีให้พระเจ้าและมีให้กันและกัน … และการยอมอุทิศตนอย่างทุ่มเทให้กับพระเจ้าและสิ่งที่พระองค์ทำเพื่อพวกเขา
เมื่อสตรีธรรมดาคนหนึ่งได้พบกับพระเจ้าที่ไม่ธรรมดา ชีวิตที่เคยเป็นปกติก็ได้พบกับความหมายใหม่ การรู้จักกับพระเจ้าเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง เราไม่สามารถพบพระเจ้าแล้วชีวิตเป็นปกติธรรมดาได้อีกต่อไป
การมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้าก่อให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจแค่มีชีวิตที่ว่างเปล่า แต่กระหายอยากมีชีวิตเหนือธรรมดา มีประสบการณ์มหัศจรรย์กับพระองค์ในทุกๆวัน
ผู้คนต่างก็มองหาหญิงธรรมดาอย่างคุณและฉันที่ชีวิตเปลี่ยนไปเพราะได้พบกับพระเจ้าที่ไม่ธรรมดา – พระเจ้าที่เรียกเราให้เข้าไปแตะรอยพระหัตถ์และพระบาท เพื่อนำความจริงนี้ไปสู่ผู้ที่ไม่เชื่อว่าโลกนี้มีพระเจ้า
- ฉันอยากจะฟังข้ออ้าง ข้อสงสัยต่างๆที่อยู่ในความคิดของผู้ไม่เชื่อ
- ฉันอยากให้คนที่สงสัยเห็นบางอย่างในตัวฉันที่อัศจรรย์จนพวกเขาหาคำอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
- ฉันอยากให้คนที่วิญญาณเจ็บปวดได้เห็นและได้ยินสิ่งที่อยากจะร้องบอกพวกเขาถึงพระเมตตาและการให้อภัยของพระเจ้า
- ฉันอยากกระหายหาพระเจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- ฉันอยากจะให้ชีวิตที่ “เป็นปกติ” ของฉันไม่เป็นปกติต่อไปเพราะพระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ และทรงทำการในฉันและคนรอบๆตัว
คุณล่ะคะ? …. พร้อมจะก้าวออกไปในความเชื่อหรือไม่?
พร้อมที่จะมีชีวิตไม่ธรรมดาในท่ามกลางผู้คนและสถานการณ์ที่พูดไม่ได้เลยว่า “เป็นปกติ” เพราะนี่คือฤทธิอำนาจและการทรงสถิตอยู่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
โดย : Mary Southerland
อนุญาตโดย Girlsfriend in God : www.crosswalk.com
(Cr.ภาพ : www.lynnehartke.com)