ทั้งในยามดีและยามร้าย

เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์ (โรม 8:28)

เราสามารถขอบคุณพระเจ้าแม้ในยามยากลำบาก การขอบพระคุณในยามที่ทุกอย่างไปได้สวยเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เราสามารถขอบพระคุณเมื่อเหตุการณ์มันย่ำแย่ด้วย

หนึ่งในบทเพลงงดงามที่ดาวิดเขียนไว้และผมชอบมากคือ สดุดี 63 : “เพราะว่าความรักมั่นคงของพระองค์ดีกว่าชีวิต ริมฝีปากของข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ เช่นนั้นแหละข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ ตราบเท่าชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ชูมือต่อพระนามของพระองค์” (ข้อ 3-4)

เราอาจคิดว่าดาวิดเขียนสดุดีบทนี้ในช่วงเวลาที่ผ่อนคลายสบายๆ ไม่ใช่ครับ ดาวิดเขียนสดุดีบทนี้ในระหว่างหลบหนีการไล่ล่าของอับซาโลมบุตรชายที่กำลังพยายามแย่งชิงบัลลังก์ ไม่เพียงแค่นั้น ดาวิดเองก็ชราภาพมาก ท่านจึงเป็นทุกข์และเจ็บปวดใจแสนสาหัส

เราสามารถสรรเสริญพระเจ้าในเวลาที่ดี และเราสามารถสรรเสริญพระเจ้าได้ในยามที่ทุกข์ใจ อีกอย่างผมคิดว่าเราไม่อาจเข้าใจว่าอะไรดีหรือเลวจริงๆได้จากฟากนี้ของสวรรค์

ตอนที่อายุน้อยเราคิดว่าบางเรื่องเป็นเรื่องที่ดี และบางเรื่องเลว ความสำเร็จล่ะ ดีเสมอจริงหรือ? ความยากลำบากล่ะ เลวร้ายเสมอจริงหรือ? นี่คือวิธีคิดของเรา

แต่เมื่อเราโตขึ้น เราอาจมองย้อนกลับไปแล้วพูดว่า “ที่จริงความสำเร็จบางทีก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด และเอาเข้าจริงๆความยากลำบากของเราอาจส่งผลดีต่อผู้อื่น” เราเริ่มคิดและมีมุมมองต่างไป บางทีสิ่งที่เราคิดว่ามันดีจริงกลับกลายเป็นสิ่งเลว แต่สิ่งที่เราคิดว่าเลวร้ายกลับกลายเป็นสิ่งดีอย่างเหลือเชื่อ

พระเจ้าสามารถนำทุกสิ่ง ดีหรือเลว อย่างที่พระวจนะใน โรม 8:28 กล่าวไว้ – ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr. ภาพ : www.creativebits.org)