พระธรรม โอบาดีห์ 1-21
อ้างอิง 1พกษ.18:3-16;1พศด.3:21;7:3;8:38;9:16;12:9;27:19;2พศด.17:7;34:12;อสร.8:9;นหม.10:5;12:25; ยรม.49:9-10,14-16
บทนำ
โอบาดีห์ แปลว่า “ผู้รับใช้พระยาห์เวห์” หรือ “ผู้นมัสการพระยาห์เวห์”
ท่านอาจอยู่ร่วมสมัยกับเอลีชา (853-841 ก.ค.ศ.) หรือร่วมสมัยกับเยเรมีย์ (605-586 ก.ค.ศ)
แต่นักวิชาการเชื่อว่าน่าจะอยู่ร่วมสมัยกับ เยเรมีย์มากกว่าโอบาดีห์เป็นพระธรรมเล่มที่สั้นที่สุดในพระคัมภีร์เดิม มีเพียง 21 ข้อ!
บทเรียน
1:1 “นิมิตของโอบาดีห์ พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสเรื่องเอโดมดังนี้ว่า พวกเราได้ยินข่าวจากพระยาห์เวห์ ทูตคนหนึ่งถูกส่งไปท่ามกลางบรรดาประชาชาติให้พูดว่า “จงลุกขึ้นเถิด ให้พวกเราลุกขึ้นทำสงครามกับเอโดม”
(1The vision of Obadiah. Thus says the Lord God concerning Edom: We have heard a report from the Lord, and a messenger has been sent among the nations: “Rise up! Let us rise against her for battle!”)
1:2 “ดูเถิด เราจะทำเจ้าให้เล็กท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ให้เจ้าเป็นที่ดูหมิ่นอย่างมาก”
(Behold, I will make you small among the nations; you shall be utterly despised.)
1:3 “ใจหยิ่งจองหองของเจ้าได้ล่อลวงเจ้าเอง เจ้าผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในซอกหิน ที่อาศัยของเจ้าอยู่สูง เจ้ารำพึงอยู่ในใจว่า “ผู้ใดจะทำให้เราลงมายังพื้นดิน”
(The pride of your heart has deceived you, you who live in the clefts of the rock, in your lofty dwelling, who say in your heart, “Who will bring me down to the ground?”)
1:4 “แม้ว่าเจ้าเหินขึ้นไปสูงเหมือนนกอินทรี แม้ว่ารังของเจ้าอยู่ในหมู่ดวงดาว เราจะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่น พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ”
(Though you soar aloft like the eagle, though your nest is set among the stars, from there I will bring you down, declares the Lord.)
1:5 “ถ้าขโมยเข้ามาหาเจ้า ถ้าพวกปล้นมาในเวลากลางคืน (เจ้าจะถูกทำลายย่อยยับเพียงใด) เขาจะขโมยแค่เพียงพอแก่ตัวมิใช่หรือ? ถ้าคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า เขาจะเก็บโดยเหลือไว้บ้างมิใช่หรือ?”
(If thieves came to you, if plunderers came by night— how you have been destroyed!— would they not steal only enough for themselves? If grape gatherers came to you, would they not leave gleanings?)
1:6 “เอซาวจะถูกปล้นจนหมดตัว สมบัติที่ซ่อนไว้ก็ถูกค้นออกมา”
(How Esau has been pillaged, his treasures sought out!)
1:7 “เพื่อนร่วมสาบานทั้งสิ้นของเจ้าได้ล่อลวงเจ้า พวกเขาขับไล่เจ้าไปถึงพรมแดน พันธมิตรของเจ้าสู้ชนะเจ้าแล้ว ผู้ที่กินอาหารของเจ้าก็วางกับดักเจ้า เรื่องนี้ไม่มีใครทราบเลย”
(All your allies have driven you to your border; those at peace with you have deceived you; they have prevailed against you; those who eat your bread have set a trap beneath you— you have no understanding.)
1:8 “ในวันนั้น เราเองจะขจัดคนมีปัญญาให้สิ้นไปจากเอโดม และจะเอาความเข้าใจไปจากภูเขาเอซาวพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ”
(Will I not on that day, declares the Lord, destroy the wise men out of Edom, and understanding out of Mount Esau?)
1:9 “โอ เทมานเอ๋ย นักรบของเจ้าจะขยาด ดังนั้นแหละ ทุกคนที่มาจากภูเขาเอซาวจะถูกตัดชีวิตด้วยการสังหาร”
(And your mighty men shall be dismayed, O Teman, so that every man from Mount Esau will be cut off by slaughter.)
1:10 “เพราะความทารุณที่ทำแก่ยาโคบน้องของเจ้า ความอับอายจะคลุมเจ้าไว้ เจ้าจะถูกตัดขาดเป็นนิตย์”
(Because of the violence done to your brother Jacob, shame shall cover you, and you shall be cut off forever.)
1:11 “ในวันที่เจ้ายืนอยู่ห่างๆ อย่างเฉยเมย ในวันที่คนต่างด้าวขนทรัพย์สมบัติของน้องเจ้าไป และคนต่างชาติเข้ามาทางประตูเมือง พวกเขาจับฉลากเอากรุงเยรูซาเล็มกัน เจ้าก็เหมือนคนเหล่านั้นคนหนึ่ง”
(On the day that you stood aloof, on the day that strangers carried off his wealth and foreigners entered his gates and cast lots for Jerusalem, you were like one of them.)
1:12 “เจ้าไม่ควรมองดูด้วยความพอใจ ในวันที่น้องของเจ้ารับเคราะห์ในเวลานั้น เจ้าไม่ควรเปรมปรีดิ์เย้ยประชาชนยูดาห์ในวันที่พวกเขาถูกทำลาย เจ้าไม่ควรหัวเราะเยาะหยัน ในวันที่เขาตกทุกข์ได้ยาก”
(But do not gloat over the day of your brother in the day of his misfortune; do not rejoice over the people of Judah in the day of their ruin; do not boast in the day of distress.)
1:13 “เจ้าไม่ควรเข้าประตูเมืองแห่งประชากรของเรา ในวันนั้น เมื่อเขาถูกทำลาย เจ้าไม่ควรมองดูด้วยความพอใจในเรื่องภัยพิบัติของเขา ในวันนั้น เมื่อเขาถูกทำลาย เจ้าไม่ควรจะเข้าปล้นทรัพย์สินของเขาไป ในวันนั้น เมื่อเขาถูกทำลาย”
(Do not enter the gate of my people in the day of their calamity; do not gloat over his disaster in the day of his calamity; do not loot his wealth in the day of his calamity.)
1:14 “เจ้าไม่ควรยืนสกัดทางแยกของเขา เพื่อจะสังหารพวกหลบหนีของเขา เจ้าไม่ควรมอบผู้รอดมาได้ให้แก่ศัตรูของเขา ในวันที่เขาตกทุกข์ได้ยาก”
(Do not stand at the crossroads to cut off his fugitives; do not hand over his survivors in the day of distress.)
1:15 “เพราะวันแห่งพระยาห์เวห์มาใกล้เพื่อต่อสู้ประชาชาติทั้งสิ้นแล้ว เจ้าทำกับเขาอย่างไร ก็จะมีผู้มาทำกับเจ้าอย่างนั้น การกระทำของเจ้าจะกลับมาตกบนศีรษะของเจ้าเอง”
(For the day of the Lord is near upon all the nations. As you have done, it shall be done to you; your deeds shall return on your own head.)
1:16 “พวกเจ้าเคยดื่มอยู่บนภูเขาบริสุทธิ์ของเราฉันใด ประชาชาติทั้งสิ้นก็จะดื่มไม่หยุดหย่อนฉันนั้น พวกเขาจะดื่มแล้วกลืนลงไป และจะเป็นอย่างที่ไม่เคยเป็น”
(For as you have drunk on my holy mountain, so all the nations shall drink continually; they shall drink and swallow, and shall be as though they had never been.)
1:17 “แต่จะมีคนลี้ภัยในภูเขาศิโยน และที่นั้นจะบริสุทธิ์ และพงศ์พันธุ์ของยาโคบจะได้ครอบครอง ดินแดนอันเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา”
(But in Mount Zion there shall be those who escape, and it shall be holy, and the house of Jacob shall possess their own possessions.)
1:18 “พงศ์พันธุ์ของยาโคบจะเป็นไฟ พงศ์พันธุ์ของโยเซฟจะเป็นเปลวไฟ และพงศ์พันธุ์ของเอซาวจะเป็นตอข้าวไฟและเปลวไฟจะเผาผลาญตอนั้นพงศ์พันธุ์ของเอซาวจะไม่รอดชีวิตเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์ตรัสแล้ว”
(The house of Jacob shall be a fire, and the house of Joseph a flame, and the house of Esau stubble; they shall burn them and consume them, and there shall be no survivor for the house of Esau, for the Lord has spoken.)
1:19 “คนเหล่านั้นที่อยู่ในเนเกบจะได้ภูเขาเอซาวเป็นกรรมสิทธิ์ คนเหล่านั้นที่อยู่ในเนินเชเฟลาห์จะได้แผ่นดินฟีลิสเตียเป็นกรรมสิทธิ์พวกเขาจะยึดแผ่นดินเอฟราอิมและแผ่นดินสะมาเรียเป็นกรรมสิทธิ์ และเบนยามินจะได้กิเลอาดเป็นกรรมสิทธิ์”
(Those of the Negeb shall possess Mount Esau, and those of the Shephelah shall possess the land of the Philistines; they shall possess the land of Ephraim and the land of Samaria, and Benjamin shall possess Gilead.)
1:20 “พวกเชลยอิสราเอล ผู้อยู่คานาอันไปจนถึงศาเรฟัท และพวกเชลยชาวเยรูซาเล็มที่อยู่ในเสฟาราด จะได้เมืองต่างๆ ในเนเกบเป็นกรรมสิทธิ์”
(The exiles of this host of the people of Israel shall possess the land of the Canaanites as far as Zarephath, and the exiles of Jerusalem who are in Sepharad shall possess the cities of the Negeb.)
1:21 “พวกกู้ชาติจะขึ้นไปที่ภูเขาศิโยน เพื่อปกครองภูเขาเอซาว และอำนาจอธิปไตยนั้นจะตกเป็นของพระยาห์เวห์”
(Saviors shall go up to Mount Zion to rule Mount Esau, and the kingdom shall be the Lord’s.)
ข้อมูลมีประโยชน์
1:1 “นิมิต” ( The vision) ในพระคัมภีร์เดิม นิมิตหมายถึง การสำแดงจากพระเจ้า (สภษ.29:18;อสย.1:1)
“โอบาดีห์” (Obadiah) ชื่อของ “โอบาดีห์” แปลว่า “ผู้รับใช้หรือผู้นมัสการพระยาเวห์” น่าจะอยู่ร่วมสมัยกับเยเรมีย์
“เอโดม”(Edom) –ปฐก.25:14;อสย.11:14;34:11;63:1-6;ยรม.49:7-22;อสค.25:12-14;32:29;อสม.1:11-12
= เป็นญาติกับอิสราเอล (ข.10) แต่เป็นปฏิปักษ์กับอิสราเอลตลอดมาหลายศตวรรษ (ปฐก.27:41-45; 32:1-21;33;36;อพย.15:15;กดว.20:14-21;ฉธบ.2:1-6;23:7-8;1ซมอ.22;สดด.52;2ซมอ.8:13-14;2พกษ.8:20-22;14:7;สดด.83; อสค.35;ยอล.3:18-16;อมส.11-12;9:11-12)
“พวกเรา” (We) = อาจหมายถึง
- โอบาดีห์ กับอิสราเอล
- โอบาดีห์ กับผู้เผยพระวจนะหลายคน (กล่าวโทษเอโดม)
“ทูตคนหนึ่งถูกส่งไป” (An envoy was sent) = ถูกส่งไปชนชาติต่างๆ เพื่อเรียกมาทำสงครามกับเอโดม
–อสย.18:2
“ลุกขึ้นเถิด ให้พวกเราลุกขึ้นทำสงครามกับเอโดม” (Rise, let us go against her for battle)
= แม้เอโดมจะรู้สึกมั่นคงปลอดภัย เพราะเชื่อมั่นในภูมิประเทศที่มั่นคงในหุบเขา และในเหล่านักปราชญ์ของพวกเขา (2-4,8-9) แต่โอบาดีห์ ก็ประกาศการพิพากษาของพระเจ้าต่อพวกเขาที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอล –ยรม.6:4-5
1:2 “เราจะทำเจ้าให้เล็ก” (I will make you small) = บางฉบับแปลว่า “เราจะทำให้เจ้าเล็กกระจ้อยร่อย” หรือหมายความว่า ”เราจะทำให้เจ้าเจียมเนื้อเจียมตัว” –กดว.24:18
1:3 “ใจหยิ่งจองหองของเจ้า” (The pride of your heart) –ข.12;ยรม.49:16
“ซอกหิน” (the clefts of the rock) = “ซอกแห่งเสลา”
–เสลา เป็นเมืองหลวงของเอโดม ภายหลังคงเปลี่ยนชื่อมาเป็น “เปตรา” –ทั้งคำว่า “เสลา” และ “เปตรา” ล้วนแปลว่า “หิน” (ศิลา) หรือ “หน้าผา”
= พื้นที่ที่เต็มไปด้วยก้อนหินขรุขระ ตั้งอยู่ห่างจากปลายสุดทางใต้ของทะเลตายไปทางใต้ประมาณ 80.5 กิโลเมตร (2พกษ.14:7;อสย.16:1)
“ผู้ใดจะทำให้เราลงมายังพื้นดิน” (“Who will bring me down to the ground?”) = “ใครเล่าจะสามารถดึงเราให้ลงไปอยู่ที่พื้นได้” –2พศด.25:11-12
1:4 “นกอินทรี” (the eagle) = นกที่สง่าและโดดเด่นในเรื่องสายตาอันเฉียบคม และพละกำลังที่แข็งแรง และพลังในการบิน (ฉธบ.28:49;อสย.40:31;ยรม.4:13;49:22;อสค.17:3)
“รังของเจ้า” (your nest) –อสย.10:14
“ในหมู่ดวงดาว” (among the stars) = การเปรียบด้วยภาพเกินจริง หมายความถึงสภาพที่อยู่ในที่สูงและไม่อาจเข้าถึงได้โดยง่าย
“เราจะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่น” (I will bring you down) –อสย.14:13
1:5-6 = คู่ขนานกับ ยรม.49:9-10
1:5 “เก็บโดยเหลือไว้บ้างมิใช่หรือ?” (would they not leave gleanings?) = เหลือไว้บ้างนิดหน่อย
– ยรม.49:9
1:6 “ทรัพย์สมบัติที่ซ่อนไว้” (treasures sought out ) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกโบราณ ชื่อ ดิโอโดรัส สิคูลัส ระบุว่า ชาวเอโดม เก็บซ่อนทรัพย์สมบัติที่ได้จากการค้าขายไว้ในอุโมงค์ในซอกหิน
1:7 “ผู้ที่กินอาหารของเจ้า” (who eat your bread) = เพื่อนร่วมสำรับอาหารเดียวกับเจ้า – สดด.41:9
“วางกับดักเจ้า” (have set a trap) = การทรยศหักหลังโดยสหายที่เคยไว้ใจกันมาก่อน –ยรม.30:14;สดด.41:9
1:8 “ในวันนั้น” (on that day ) = วันหายนะของเอโดม (หรือวันในอนาคต –ข.15)
-ในพระคัมภีร์เดิม เอโดมมักเป็นภาพตัวแทนของมหาอำนาจในโลกที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้า และอาณาจักรของพระองค์
-การพิพากษาเอโดมจึงเป็นการเล็งถึงการที่พระเจ้าจะพิพากษาและกำจัดอำนาจที่ต่อต้านพระองค์อย่างสิ้นเชิงในภายหน้า (อมส.9:12)
“คนมีปัญญา” ( the wise men) = เอโดมเชื่อมั่นในบรรดาปราชญ์ของตนว่า พวกเขาจะทำให้เอโดมมั่นคงปลอดภัย (ยรม.49:7) ปท. โยม 5:12;อสย.29:14; “เอลีฟัท” เพื่อนคนหนึ่งของโยบก็เป็นชาวเทมาน (ข.9)
“ภูเขาเอซาว” (Mount Esau) –เอซาวเป็นอีกชื่อหนึ่งของเอโดม (ปฐก.36:1)
1:9 “เทมานเอ่ย” (O Teman ) = เอโดมทั้งหลาย เหมือนใน ยรม.49:7,20;อมส.1:12
“เทมาน” แปลว่า”ใต้” –ปฐก.36:11,34
เอโดม คือ แดนใต้ (บางคนเชื่อว่า เทมานคือทาวิลานซึ่งอยู่ห่างจากเปตรา ไปทางตะวันออกประมาณ 5 กิโลเมตร)
1:10 “ความทารุณ” (the violence) = ความอำมหิตที่ทำต่อน้อง (ยอล.3:19)
“ยาโคบน้องของเจ้า” (your brother Jacob) = เอโดมนั้น โหดร้าย และสมควรถูกประณามและพิพากษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อกระทำต่อพี่น้องชนชาติของพวกเขาเอง –สดด.137:7;อมส.1:11-12
“ความอับอาย” (shame ) = มักเกี่ยวกับความเปลือยเปล่า
“ถูกตัดขาดเป็นนิตย์” (cut off forever) = ถูกทำลายให้หมดไปตลอดกาล
1:11 “จับฉลาก” (cast lots ) –โยบ 6:27;อสค.24:6; “เอากรุงเยรูซาเล็มกัน” (for Jerusalem)
“คนแปลกหน้า…คนต่างชาติ” ( that strangers …. foreigners) = เอโดมปฏิบัติตัวเหมือนคนแปลกหน้าหรือต่างชาติ เมื่อมองดูหรือปล่อยให้คนแปลกหน้ามายึดบ้านเมืองหรือทรัพย์ของพี่น้อง(ยูดาห์)ของตนไป โดยไม่ช่วยอะไร โดยทำตัวเป็นเหมือนคนเหล่านั้น – อสค.24:6;อมส.1:6
1:12-14 = คำเตือนต่อเอโดมที่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ มีคำเตือน 8 ครั้งที่ดำเนินจากเรื่องทั่วไปสู่เรื่องที่เจาะจง
-มีตัวอย่างปฏิกิริยาของเอโดมต่อความหายนะของยูดาห์ใน สดด.137:7;อสค.35:13
1:12 “เจ้าไม่ควรมองดูด้วยความพอใจ” ( do not gloat over) = บางฉบับแปลว่า “เจ้าไม่ควรหยามหน้า
(น้องชาย)” -สภษ.24:17
“ในวันที่น้องของเจ้ารับเคราะห์” (the day of your brother in the day of his misfortune) –โยบ 31:29
“ไม่ควรเปรมปรีดิ์เย้ย” (do not rejoice over) = ไม่ควรกระหยิ่มยิ้มย่องทับถม –อสค.35:15
“ในวันที่พวกเขาถูกทำลาย” (in the day of distress) = ในวันที่พวกเขาพินาศ –สภษ.17:5
“ไม่ควรหัวเราะเยาะหยัน” (do not boast) = ไม่ควรคุยโวโอ้อวด –ข.3;ยรม.49:16;สดด.137:7
“ในวันที่เขาตกทุกข์ได้ยาก”(in the day of distress)=ในวันที่พวกเขาเดือดร้อน–อสค.25:6;มคา.4:11;7:8
1:13 “ไม่ควรมองดูด้วยความพอใจในเรื่องภัยพิบัติของเขา” (do not loot his wealth in the day of his calamity) บางฉบับแปลว่า “ไม่ควรสมน้ำหน้าที่พวกเขาป่นปี้” –อสค.35:5
1:14 “เจ้าไม่ควรยืนสกัดทางแยกของเขาเพื่อจะสังหารพวกหลบหนีของเขา” (Do not stand at the crossroads to cut off his fugitives) = เจ้าไม่ควรดักรออยู่ที่ทางแยก เพื่อคอยเล่นงานพวกเขาซึ่งหนีภัยมา –1พกษ.18:4
1:15 “วันแห่งพระยาห์เวห์” ( For the day of the Lord ) = วันแห่งองค์ผู้เป็นเจ้า ในยุคสุดท้ายที่จะนำการพิพากษามาสู่ชนชาติต่าง ๆ (ทั้งเอโดม และชนชาติอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนภาพในยุคสุดท้าย และความรอดสำหรับพงศ์พันธุ์ของยาโคบ (ข.17;อมส.5:18;ยอล.1:5)
“มาใกล้” (is near ) = ใกล้เข้ามาแล้ว –ยรม.46:10;อสค.30:3;ยอล.2:31;อมส.5:18
“ก็จะมีผู้มาทำกับเจ้าอย่างนั้น” (As you have done, it shall be done to you) = จะได้รับสิ่งนั้นตอบแทนกรรมที่เจ้าก่อขึ้น –ยรม.50:29;ฮบก.2:8
“จะกลับมาตกบนศีรษะของเจ้าเอง” (shall return on your own head) = กรรมที่เจ้าก่อไว้จะย้อนกลับมาตกบนหัวของเจ้า
= สถานการณ์จะกลับตาลปัดมาสนองคืนเอโดมที่เป็นปรปักษ์กับคนของพระเจ้า (ข.11-14) ในเอเสเคียล (35) สะท้อนหลักการลงโทษที่คล้ายกันคือ ลงโทษอย่างสมกับความผิดที่พวกเอโดมกระทำ
1:16 “พวกเจ้าเคยดื่มอยู่บนภูเขาบริสุทธิ์ของเราฉันใด” (For as you have drunk on my holy mountain) = พวกเอโดมเคยดื่มและดูหมิ่นภูเขาศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ด้วยการสำมะเลเทเมา –อสย.51:17;อพย.15:17
“ประชาชาติทั้งสิ้นก็จะดื่มไม่หยุดหน่อยฉันนั้น” (so all the nations shall drink continually)
“ดื่ม” สัญลักษณ์ของการลงโทษ –ยรม.25:15-16;49:12
= ประชาชาติจะดื่มแล้วดื่มอีก ในสิ่งที่พวกเขาถูกบังคับให้ดื่มอย่างไม่หยุด นั่นคือ การพิพากษาของพระเจ้าที่เปรียบประดุจยาพิษอันขมขื่น
1:17 “แต่จะมีคนลี้ภัยในภูเขาศิโยน” (But in Mount Zion there shall be those who escape) = บนภูเขาศิโยนจะมีการช่วยกู้ พระพรจะมีแก่พงศ์พันธุ์ของยาโคบในยุคสุดท้ายจะมีการพิพากษาศัตรูของพระเจ้าและมีพระพรแก่ประชากรของพระองค์ –สดด.69:35;อสย.14:1-2;ยอล.2:32;อมส.9:11-15
“และที่นั่นจะบริสุทธิ์” ( and it shall be holy) –สดด.74:2;อสย.4:3
“เป็นกรรมสิทธิ์” (their own possessions) = เป็นดินแดนที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาจะมอบให้แก่พวกเขา
–ยรม.3:19;12:7;ศคย.8:12
1:18 “พงศ์พันธุ์ของยาโคบจะเป็นไฟ พงศ์พันธุ์ของโยเซฟจะเป็นเปลวไฟ” ( The house of Jacob shall be a fire, and the house of Joseph a flame) –ในข้อ 7 พระเจ้าบอกว่า จะทำลายโดยใช้ชนชาติอื่น ๆ
(ข.7) แต่ในตอนนี้จะบอกว่า ประชากรของพระเจ้าจะเป็นผู้ทำลายเอโดม
“พงศ์พันธุ์ของเอซาวจะไม่รอดชีวิตเลย” (there shall be no survivor for the house of Esau)
= พงศ์พันธุ์ของเอซาวเป็นดุจตอข้าวที่จะถูกเผาไหม้ (อสย.1:31ว ศคย.12:6) คำพิพากษาสูงสุดต่อ พงศ์พันธ์ของเอซาวที่ชนชาติของเขาจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง –ยรม.49:10 ปท. อมส.9:12 กับ กจ.15:17
1:19 “คนเหล่านั้น…จะได้ภูเขาเอซาวเป็นกรรมสิทธิ์” (Those … shall possess Mount Esau) = เมื่อเอโดมสูญสิ้น คนอื่น ๆ จะเข้ามายึดครองดินแดนของเอโดม (ซึ่งน่าจะหมายถึงอิสราเอล)
“เนเกบ” (Negeb) –ปฐก.12:9;ยรม.33:13; “เนินเชเฟลาห์” (Shephelah) หรือเชิงเขา –มคา.1:10-15
“แผ่นดินฟิลิสเตีย”(the land of the Philistines)–ปฐก.10:14; “กิเลอาด”(Gilead)–ปฐก.31:21;พซม.4:1
1:20 “เศราฟัท” (Zarephath) –1พกษ.17:9-10;ลก.4:26
“เสฟาราด” (Sepharad) = ซาร์ดิสในเอเชียน้อย (ตุรกีในปัจจุบัน) แต่บางคน คิดว่า น่าจะเป็นสปาร์ตา (นครในกรีซ)
1:21 “พวกกู้ชาติ” (Saviors) –มาจากศิโยน และปกครองเทือกเขาของเอซาว ภูเขาศิโยนได้รับการเชิดชูเหนือภูเขาของเอซาว = เล็งถึงพระเมสาห์เป็นพระผู้ช่วยกู้ที่ล้ำเลิศ –ฉธบ.28:29;วนฉ.3:9
“อำนาจอธิปไตยนั้นจะตกเป็นของพระยาห์เวห์” (the kingdom shall be the Lord’s ) = ผลลัพธ์สุดท้ายที่จะเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์โลกนี้ –สดด.22:28; 47:9;66:4;ดนล.2:44;ศคย.14:9,16;มคล.1:14; วว.11:15
คำถามนำอภิปราย
- คุณพร้อมจะเป็นโอบาดีห์ (ผู้รับใช้/ผู้นมัสการ) ของพระเจ้าในคริสตจักรที่คุณเป็นสมาชิกอยู่หรือไม่? ทำไม?
- เวลานี้คุณกำลังหยิ่งผยองหรือทระนงในความมั่นคงของตัวเองอยู่หรือไม่?
- บทเรียนในพระธรรม โอบาดีห์ นี้สอนอะไรคุณเป็นพิเศษและจะส่งผลกระทบต่อตัวของคุณมากน้อยแค่ไหน? และอย่างไร?
- เวลานี้มีใครที่เป็นญาติพี่น้องของคุณที่คุณไม่ชอบเขาหรือเป็นศัตรูกับเขาบ้าง? คุณไม่ชอบเขาเรื่องอะไร?
- เวลานี้มีใครในหมู่ญาติมิตรของคุณที่ตั้งหน้าตั้งตาเป็นศัตรูที่จ้องเล่นงานคุณบ้างหรือไม่? ทำไมเขาจึงเป็นปฏิปักษ์ต่อคุณ? คุณจะแก้ไขความเป็นศัตรูกันนั้นให้หมดไปได้หรือไม่? อย่างไร?
- คุณเคยสะใจที่เห็นญาติมิตรหรือคนที่คุณไม่ชอบประสบเคราะห์กรรมบ้างหรือไม่? คุณจะทำเช่นนั้นต่อไปหรือไม่?ทำไม?
- คุณเคยเห็นคนที่เย่อหยิ่งทระนงตัวตกต่ำลงหรือไม่? เขาเป็นใคร? และมีบทเรียนสอนใจอะไรคุณบ้าง?
- คุณเคยถูกพระเจ้าทำให้ต้องถ่อมตัวถ่อมใจลงบ้างหรือไม่? เพราะอะไร? และอย่างไร และผลที่ตามมาคืออะไร?
- คุณเคยได้รับการกู้หรือช่วยเหลือในยามที่โจมตีเล่นงาน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนที่ควรจะอยู่เคียงข้างและปกป้องคุณบ้างหรือไม่) ? อย่างไร?
- คุณเคยมีประสบการณ์กับการที่ได้เห็นพระเจ้าเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ที่ดูไม่มีทางออกและทำให้เกิดผลลัพธ์ในบั้นปลายที่ดีเกินความคิดของคุณบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร และอย่างไร?
ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์