Categories
บทความแปล

บางทีฉันก็พูดมากไป

พูดมากไป

ความตายความเป็น อยู่ที่อำนาจของลิ้น และบรรดาผู้ที่รักมันก็จะกินผลของมัน (สุภาษิต 18:21)

ฉัน …..มีความเห็น

ฉัน…..มีแนวคิด

มีถ้อยคำมากมายที่อยากพูดออกไป แต่ถ้าไม่ระวัง คำพูดเหล่านั้นอาจจะมากไป คุ้นมั้ยคะ?

คำพูดที่ไม่ระวังและโพล่งออกไปนำมาซึ่งปัญหา ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคิดก่อนเปิดปากพูดออกไป …

  1. ฟังควรมาก่อนพูด – ที่จริง ฉันคิดว่าปัญหาความสัมพันธ์มากมายอาจแก้ไขได้ถ้าเรายอมที่จะฟังมากกว่าพูด…ยากใช่มั้ย? บางครั้งเวลาที่กำลังฟังบางคนพูด ที่อยากทำมากกว่าคือหาโอกาสโพล่งสิ่งที่อยู่ในใจออกไป แล้วสักพักก็ตระหนักว่า ถ้ามัวแต่หาช่องทางพูดแทรก เลยทำให้ไม่ใส่ใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอยู่เลย

วันนี้ถ้าฉันตั้งใจที่จะยอมฟังมากกว่าพูด ฝึกตัวเองไม่ให้แทรกขึ้นมา ฟังอย่างตั้งใจ รอจนอีกฝ่ายหยุด คิดตามและตอบด้วยความระมัดระวัง

ถ้าคนหนึ่งคนใดตอบก่อนที่เขาได้ยิน ก็เป็นความโง่และความอับอายของเขา (สุภาษิต 18:13)

  1. ก่อนพูดควรมีการไตร่ตรอง – ฉันควรใช้สมองตรองก่อนใช้ปาก พอๆกับคิดถึงเงินในธนาคารก่อนไปชอปปิ้ง คิดถึงคำพูดที่จะใช้ว่าส่งผลแบบไหนต่อความสัมพันธ์ วิธีคือ ถ้าพูดออกไปแล้วสร้างความเสียหาย ต้องถามตัวเองว่ามีคำพูดอื่นที่สามารถนำมาใช้แทนได้หรือไม่?

คนโง่ไม่เพลิดเพลินในความเข้าใจ แต่เพลิดเพลินในการแสดงความคิดเห็นของตนเท่านั้น (สุภาษิต 18:2)

  1. เมื่อพูดออกไปแล้ว ดึงกลับคืนมาไม่ได้ – ทันทีที่คำพูดหลุดจากปาก ฉันไม่อาจนำมันกลับคืนมา พอๆกับบีบยาสีฟันมากเกิน เอาคืนกลับหลอดไม่ได้ ถึงแม้จะรีบกล่าวขอโทษ หรือขออภัย พยายามทำผิดให้เป็นถูก แต่ก็ไม่อาจนำคำพูดกลับคืนมาได้

ความตายความเป็น อยู่ที่อำนาจของลิ้น และบรรดาผู้ที่รักมันก็จะกินผลของมัน (สุภาษิต 18:21)

ถ้าความต้องการอย่างยิ่งของฉันคือถวายเกียรติพระเจ้าด้วยทุกคำพูดและท่าที สามสิ่งด้านบนสำคัญยิ่งที่ต้องจดจำไว้ แทนที่จะปล่อยให้เนื้อหนังนำ จำต้องควบคุมความคิด ความเห็น และในการใช้ความจริงแห่งพระวจนะ

โดย Lysa TerKeurst

Encouragement for today : www.crosswalk.com

(Cr. ภาพ Pacificoneword.org)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.