สวัสดีพี่น้องในพระคริสต์ทุกคนครับ (10 พฤศจิกายน 2009)
เมื่อคืน(4/11/09) ผมไปดูหนังที่ Michael Jackson ซ้อมคอนเสิร์ต (This is it) ไปดูคนเดียวครับด้วยความไม่ตั้งใจอย่างยิ่ง!!! เนื่องจากวันนี้ผมไม่มีงานดนตรี แต่ก็ไม่เชิงว่าง ต้องนำรถเต่าไปให้ใช้เช่าถ่าย MV เสร็จแล้วตั้งใจจะไปคุยงานกับเพื่อน ตามที่วางแผนนัดกันไว้ เพื่อสรุปเรื่องเสื้อทีม และหนังสือที่จะทำ
แต่ทุกสิ่งไม่ได้เป็นไปตามที่วางแผนไว้ โทรไปหาพี่ ดร.โอ๋ เรื่องเสื้อเพราะเคยเกริ่นกันไว้ แต่พี่โอ๋บอกว่า “เอ่อมม..จ๊อก ตอนนี้พี่อยู่เจนีวานะ ไว้กลับไทยค่อยคุยกัน“….ไม่เป็นไรครับพี่โอ๋ ยังทันอยู่ ขอบคุณครับพี่ อีกเรื่องคือผมนัดเพื่อนไว้อีก 3 คนให้มาเจอกันหลังเลิกงาน เพื่อสรุปเรื่องหนังสือที่จะผลิตให้ทันงานรถโฟล์คครั้งใหญ่ประจำปีในวันที่ 20 ธันวาคมนี้
เชื่อมั้ยครับ!!! ทั้ง3คนที่นัดไว้ไม่มีใครว่างสักคนเดียว จำเป็นต้องเลื่อนออกไป ตอนนั้นผมมาจ่ายค่าไฟที่เอสพลานาดตามลำพังคนเดียว (เหงาจริงๆ) เสร็จแล้วก็เดินไปเดินมาไม่รู้จะยังไงต่อ จะกลับห้องไปเล่นอินเตอร์เน็ต ก็เพิ่งจะโดนตัดสัญญานไป …เฮ้อ อะไรกันนี่ พรุ่งนี้จะไปจ่ายถึงที่ตึกทรูเลยทีเดียว 555+……เอางี้!! ดูหนังคนเดียวดีกว่า ดูเรื่อง “This is it ” นี่แหละ คนไม่ค่อยเยอะดี
ตลอดเวลา 2 ชั่วโมง สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นแค่ความบันเทิงฆ่าเวลา กลับตรึงผมไว้กับเก้าอี้ ไม่แม้แต่คิดจะไปห้องน้ำ ตลอดเวลาที่ผมชมอยู่นั้น นอกจากความยิ่งใหญ่ของโชว์ การเตรียมการสุดยอดระดับโลกแล้ว เหนือไปกว่านั้น ผมกลับซาบซึ้งถึงความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้า …..ยังไงเหรอครับ!!! คิดดูสิครับ ศิลปินยิ่งใหญ่ระดับโลกขนาดนี้ ตลอดเวลาการซ้อมเขาได้แสดงให้เห็นชีวิตที่เป็นพระพรกับผมมากๆ บ่อยครั้งที่ MJ สื่อความต้องการกับนักดนตรี ซึ่งแน่นอนทุกคนให้เกียรติเขาอยู่แล้ว แต่คำพูด และท่าทีของเขาหลังจากออกความเห็นจะต่อด้วยคำว่า “WITH THE LOVE ” คือติเพื่อก่อจริงๆ (เอ่อมม..ผมอ่านจาก subtitle น่ะครับ 555) ผมเห็นถึงความทุ่มเทอย่างสุดตัวของเขา และอีกคำที่เขามักบอกกับทีมงานคือ ” GOD BLESS YOU “… เป็นอย่างนี้ตลอด
ในตอนท้ายพวกเขาจับมือล้อมวงกัน แล้ว MJ กล่าวกับทีมงานทุกคนด้วยท่าทีสุภาพมากๆ ให้กำลังใจทุกคน ให้มุ่งมั่นและเชื่อศรัทธาทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นนี้ออกมาอย่างเต็มกำลัง เพราะมันจะสำเร็จแน่นอน!! แล้วทีมงานรวมทั้ง MJ ก็ อาเมน (เลยทำให้ผมรู้อีกว่าพวกเขากำลังอธิษฐานกันอยู่ 555) MJ สุภาพ ถ่อมตนสูงและมีความรักที่มาจากพระเจ้า อย่างชัดเจน ชีวิตเขาเป็นพระพรกับผม และเชื่อว่ากับอีกหลายๆคนทั่วโลกที่ได้ชม “THIS IS IT ”
ในหนังมีเพลงที่กล่าวถึงความห่วงใยที่เขามีต่อโลกที่กำลังทรุดโทรมเสื่อมลง เขามีความรักยิ่งใหญ่จริงๆ รวมถึงเพลง ” Heal the world” ด้วย ซึ่งแค่ชื่อก็สุดยอดแล้ว….ทำให้ผมมีพลังมากจริงๆ เป็น พลังความรักที่มาจากพระเจ้าไงล่ะครับ บางเวลาที่อ่อนล้า ผมรู้ว่าพระเจ้าทรงรับรู้และอยู่กับผมเสมอ ทำให้รู้ว่า ดีแล้วที่ผมไม่มีเน็ตเล่นในตอนนั้น แล้วทำให้รู้อีกว่า บางครั้งการที่ได้นั่งดูหนังคนเดียวทำให้มีสมาธิ และจดจ่อกับสิ่งที่เป็นพรจากความรักของพระเจ้าผ่านทางชีวิตของ MJ
ผมหวังว่าสิ่งที่ผมถ่ายทอดจะเป็นพรกับหลายๆคน อยากจะหนุนใจว่า ไม่ว่าเราทำหน้าที่อะไรอยู่ ขอให้ทำดีที่สุดเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า และเพื่อแสดงให้โลกนี้สัมผัสได้ถึงความรักของพระองค์กันเถอะครับ…. GOD BLESS YOU ALL…
“ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจเหมือนกระทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เหมือนกระทำแก่มนุษย์ ท่านรู้ว่าท่านจะได้รับมรดกจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นบำเหน็จ ท่านปรนนิบัติพระคริสตเจ้าอยู่” (โคโลสี 3:23-24)
(CJ – JOCK SPARROW คร้าบบบบบ)
ข่าวประชาสัมพันธ์
- จ๊อกบอก ช่วงนี้งานเยอะ อาจหายหน้าไปบ้าง แต่ไม่หลงหาย ฝากอธิษฐานเผื่อการเดินทางไปทำงานให้ปลอดภัยด้วย
- เราสามารถเห็นพระเจ้าได้จากทุกหนแห่ง แม้แต่ในหนังที่จ๊อกไปดู ถ้าเรามีมุมมองเดียวกับพระเยซูคริสต์นะคะ
- ใครประทับใจอะไรแบบนี้ในชีวิตประจำวัน เขียนมาแบ่งปันได้ค่ะ
- อธิษฐานเผื่อผู้คนที่กำลังเผชิญกับพายุฝนน้ำท่วมในหลายๆจังหวัด และในที่ๆอากาศเริ่มหนาวเย็น
- เผื่อความขัดแย้งภายในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านข้างเคียง
9 replies on “พลังรักของพระเจ้า”
ขอพระเจ้าเสริมกำลังและอวยพรนะ
ขอพระเจ้าอวยพรในสื่งที่คุณจ๊อกตั้งใจทำนะครับ
อธิษฐานเผื่อเพื่อนมนุษย์ เผื่อโลกนี้ เผื่อประเืทศไทยค่ะ
จ๊อกเรามีพระเจ้าเป็นเพื่อนอยู่แล้วแม้นอยู่คนเดีนว มีพี่น้องที่cjให้กำลังใจด้วย พี่เล็กจะอธิฐานเผื่อนะ ขอให้หนังสือเค้าตอบรับเร็วๆ GBU ครับ
ต้ิองไปดูบ้างซะแล้วครับ แฟน MJ เหมือนกัน
ได้ไปดูมาแล้วเหมือนกันคับ ต้องยอมรับว่าMJเค้าไม่ธรรมดาจริงๆแหละ(ปกติก็ไม่ได้ชื่นชอบMJมาก่อนนะ) แต่พี่Jockของเราพิเศษกว่า…ตรงที่ได้สัมภัสและรู้จักพระเจ้าจริงๆนี่ละคับ เอาใจช่วยคับพี่
With the love…God Bless P’Jock krab
ที่เอสพละนาดบอกว่ามีไปถึงวันที่17นี้
ลองมาดูกันนะครับ…
เช้าวันนี้เฝ้าเดี่ยวอธิษฐานตามปกติ
ก่อนหน้านี้(เมื่อวาน) ปวดหัวมาก ปวดจิ๊ดเลย คงจะเป็นเพราะเครียดเป็นแน่
เรื่องหนังสือเวลาก็ไล่มาเรื่อย แต่ยังไม่ได้คำตอบอะไรเลย ยอมรับเลยว่าแอบกลัวๆคำตอบอยู่เหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าจะทำไรต่อ….กลัวไม่ทันงานใหญ่
ผมแต่งตัวออกจากบ้านสายๆจะไปทำงาน แล้วก็อธิษฐานซ้ำอีกให้พระเจ้านำการเจรจาพูดคุย
หลังจากนั้นผมก็โทรศัพท์ไปหาพี่เค้า “ผมจ๊อกนะพี่”
‘ว่าไง’
“ผมต้องทำไงต่อครับ”
‘พรุ่งนี้เอางานเข้ามาที่ออฟฟิตพี่’
ผมน้ำตาซึมเลย ขอบคุณพระเจ้า ขนลุกจับใจพระองค์สัมผัสผมอยู่จริงๆ
ทุกขั้นตอนที่เหลือฝากอธิษฐานเผื่อด้วยนะครับ
พระเจ้ารักอยู่กับเราเสมอนะจ๊อก เพราะงั้นม่ายต้องเหงา เพราะจ็อกม่ายได้อยู่คนเดียว มีอีกเพียบที่ CJนะน้องฮัก เจ๊เป็นกำลังใจให้ซาเหมอ