เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย (ฮีบรู 4:12)
เวลาเทศนา โดยเฉพาะเทศนาประกาศของทีมงานฮาร์เวสท์ ผมรู้สึกเสมอว่าต้องนำพระวจนะมาอ้างอิงให้มากเท่าที่เหมาะ เพราะผมเชื่อในสิทธิอำนาจของพระคัมภีร์ ไม่มีสิทธิอำนาจใดในคำพูดของนายเกร็กครับ ยกเว้นนายเกร็กนำพระวจนะมาอ้างอิง สิทธิอำนาจของผมมาจากพระคำของพระเจ้า จึงต้องนำมาใช้
หลายคนอาจไม่ชอบใจตอนผมขึ้นพูด อาจรำคาญใจ แต่ผมได้ยินเสมอว่าหลังจากเทศนาไปเป็นวัน สัปดาห์ หรือแม้แต่เป็นเดือน พวกเขาตัดสินใจมาเชื่อในพระเยซู บางคนไปรับเชื่อหลังงานเลิกในที่จอดรถ เมล็ดพันธ์ถูกหว่านออกไป เปลือกนอกเน่าเปื่อยชีวิตใหม่ที่เกิดผลกำลังงอกขึ้นมา . . . แม้จะช้ากว่าที่คาดไว้ แต่พระคำของพระเจ้าไม่มีวันกลับมาสูญเปล่าจนกว่าพระประสงค์จะสำเร็จลง ดังนั้นอย่ากลัวที่จะนำพระคำมาอ้างอิง
เมื่อสเทเฟนหนุ่มชีวิตใกล้จะจบลง มารคงกระซิบข้างหู “ดูสารรูปเจ้าสิ ยอมสละชีวิตไปโดยไม่ได้อะไรเลย” แต่เมล็ดพันธ์เล็กๆที่หว่านออกไปนั้น แม้เซาโลแห่งทาร์ซัสยังไม่รู้ตัว แต่มันกำลังเกิดผล
นี่คือชายหนุ่มสองคน ทั้งคู่ยืนหยัดในความเชื่อมั่นของตนเอง คนหนึ่งเคร่งศาสนา อีกคนมีชีวิตฝ่ายพระวิญญาณ สเทเฟนเป็นคนถ่อมสุภาพ ท่านได้รับความรอดโดยพระคุณของพระเจ้า เซาโลคิดว่าตนเองชอบธรรมดีแล้ว ภูมิใจในหน้าที่และสิ่งที่ตนเองทำลงไป สเทเฟนปกป้องข่าวประเสริฐ ขณะที่เซาโลเป็นผู้ข่มเหง แต่ในที่สุด เซาโลคือผู้ทำหน้าที่สานต่อการงานชองสเทเฟน เข้ามารับผิดชอบส่งต่อความสว่างอย่างที่สเทเฟนเคยทำ
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr. ภาพ : www.barefootpreachr.org)