“ฉะนั้นเราจึงตั้งเป้าที่จะทำให้พระองค์พอพระทัยไม่ว่าเราจะอยู่ในร่างกายนี้หรือพ้นจากกายนี้ไป เพราะเราล้วนต้องเข้าเฝ้าต่อหน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์เพื่อแต่ละคนจะได้รับสิ่งซึ่งสมกับที่เขาได้ทำขณะอยู่ในกายนี้ ไม่ว่าดีหรือชั่ว” (2โครินธ์ 5:9,10)
นี่คือถ้อยคำของผู้ที่บรรลุธรรมขั้นสูงสุดแล้ว ผู้ที่จะบรรลุธรรมเช่นนี้เขาดำเนินชีวิตด้วยตาใน ตาฝ่ายวิญญาณ เขามองทะลุโลกกายภาพ มองเห็นคุณค่าโลกฝ่ายวิญญาณสูงกว่าคุณค่าตามวิถีของโลกแห่งโลกียวิสัย ซึ่งเต็มไปด้วยอิทธิพลของความใคร่ของตา ความใคร่ของเนื้อหนัง และความทะนงในสิ่งที่ตนมีหรือทำ
ค่านิยมของสังคมโลกปัจจุบันยึดติดกับวัตถุนิยม บริโภคนิยม ลาภยศนิยมที่ไม่มีวันพอ
ยอห์นกล่าวว่า “โลกกับความปรารถนาต่างๆของโลกก็ล่วงไป แต่ผู้ที่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าดำรงอยู่ตลอดกาล” (1ยอห์น 2:17)
ผู้มีตาใจภายในกระจ่างมองเห็นพระประสงค์ของพระเจ้าคือคุณค่าสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นหรือตายในน้ำพระทัยของพระผู้เป็นเจ้าถือว่าเป็นความคุ้มค่าที่สุดในชีวิต เพราะว่าทุกคนจะต้องลาจากโลกใบนี้และทิ้งทุกสิ่งไม่ว่าทรัพย์ ชื่อเสียง เกียรติยศ และไม่นานผู้คนก็จะลืมแม้แต่ชื่อของเรา
แต่สิ่งที่จะติดตัวคือผลการกระทำของเรา เราต้องยืนต่อหน้าพระคริสต์และรายงานต่อพระองค์ ความจริงจะถูกเปิดเผยในวันนั้น แต่ละคนจะได้รับสิ่งซึ่งสมกับที่เขากระทำขณะอยู่ในโลก และสิ่งนั้นจะอยู่ถาวร ขอให้เราสร้างจิตสำนึก และสติระลึกเสมอ น้ำพระทัยของพระเจ้า คือยอดปรารถนาของข้าพเจ้า
ศ.จ. วีรชัยโกแวร์
(Cr. ภาพ : www.favim.com)