ลิ้น
จงควบคุมมัน ก่อนที่มันจะทำลายคุณ!
พระธรรม ยากอบ 3:1-18
อ้างอิง อฟ.4:11;ยก.5:19;2:18;1:17;มธ.7:1-16;5:9;1คร.11:7;รม.2:21;3:9-20;14:19;12:9;1พกษ.8:46; สดด.39:1;32:9; 12:3-4;73:8-9;140:3;ฟป.1:11
บทนำ
ลิ้นเป็นอวัยวะที่เล็ก ๆ แต่สามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ ทั้งต่อคนพูด คนรอบข้าง และต่อโลกนี้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
ลิ้นสามารถฆ่าคนหรือรักษาคนให้รอดได้
ดังนั้น จงระวังคำพูดที่ออกจากลิ้นของคุณ!
บทเรียน
3:1“พี่น้องของข้าพเจ้า อย่าเป็นอาจารย์กันมากนักเลย เพราะท่านทั้งหลายก็รู้ว่าเราที่เป็นคนสอนนั้น จะต้องถูกพิพากษาที่เข้มงวดยิ่งขึ้น”
(Not many of you should become teachers, my brothers, for you know that we who teach will be judged with greater strictness.)
3:2 “เพราะว่าเราทำผิดพลาดมากมายกันทุกคน ถ้าใครไม่เคยทำผิดทางคำพูด คนนั้นก็เป็นคนดีพร้อมและสามารถบังคับทั้งตัวได้ด้วย”
(For we all stumble in many ways. And if anyone does not stumble in what he says, he is a perfect man, able also to bridle his whole body.)
3:3“ถ้าเราเอาบังเหียนใส่ปากม้าเพื่อให้พวกมันเชื่อฟัง เราก็สามารถบังคับมันได้ทั้งตัว”
(If we put bits into the mouths of horses so that they obey us, we guide their whole bodies as well.)
3:4“หรือดูเรือซิ แม้ว่ามันจะใหญ่และถูกพัดให้แล่นไปด้วยลมแรง เรือเหล่านั้นก็ยังถูกบังคับด้วยหางเสือเล็กๆ ไปในทิศทางที่นายท้ายต้องการจะให้ไป”
(Look at the ships also: though they are so large and are driven by strong winds, they are guided by a very small rudder wherever the will of the pilot directs. )
3:5“ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็กๆ แต่คุยอวดในเรื่องใหญ่โตคิดดูซิ ไฟเพียงนิดเดียวแต่สามารถทำให้ป่าใหญ่ลุกไหม้ได้”
(So also the tongue is a small member, yet it boasts of great things.How great a forest is set ablaze by such a small fire! )
3:6“และลิ้นนั้นเป็นไฟ ลิ้นเป็นโลกชั่วร้ายที่ตั้งอยู่ท่ามกลางอวัยวะต่างๆ ของเรา มันทำให้ทั้งกายเป็นมลทิน และเผาผลาญวงจรของชีวิต และตัวมันเองก็ถูกเผาผลาญโดยไฟนรก”
(And the tongue is a fire, a world of unrighteousness. The tongue is set among our members, staining the whole body, setting on fire the entire course of life, and set on fire by hell. )
3:7“เพราะว่าสัตว์ทุกชนิด ทั้งนก ทั้งสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ในทะเลนั้นทำให้เชื่องได้และมนุษย์ทำให้พวกมันเชื่องมาแล้ว”
(For every kind of beast and bird, of reptile and sea creature, can be tamed and has been tamed by mankind, )
3:8“แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถทำให้เชื่องได้ ลิ้นเป็นสิ่งชั่วร้ายที่อยู่ไม่สุขและเต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย”
(but no human being can tame the tongue. It is a restless evil, full of deadly poison. )
3:9 “เราสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระบิดาด้วยลิ้นนั้น และเราก็แช่งด่ามนุษย์ผู้ที่พระเจ้าทรงสร้างตามพระฉายาของพระองค์ด้วยลิ้นนั้น”
(With it we bless our Lord and Father, and with it we curse people who are made in the likeness of God.)
3:10“คำสรรเสริญและคำแช่งด่าออกมาจากปากเดียวกัน พี่น้องของข้าพเจ้า อย่าให้เป็นอย่างนั้น”
(From the same mouth come blessing and cursing. My brothers, these things ought not to be so. )
3:11“บ่อน้ำพุจะมีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มพุ่งออกมาจากช่องเดียวกันได้หรือ?”
(Does a spring pour forth from the same opening both fresh and salt water? )
3:12“พี่น้องของข้าพเจ้า ต้นมะเดื่อจะออกผลเป็นมะกอกได้หรือ? และเถาองุ่นจะออกผลเป็นมะเดื่อได้หรือ? บ่อน้ำพุเค็มย่อมทำให้เกิดน้ำจืดไม่ได้”
(Can a fig tree, my brothers, bear olives, or a grapevine produce figs? Neither can a salt pond yield fresh water.)
3:13“มีใครบ้างในท่านทั้งหลายที่มีปัญญาและมีความเข้าใจ? ให้เขาแสดงออกมาด้วยความประพฤติที่ดีงาม คือด้วยการกระทำที่สุภาพอ่อนโยนพร้อมด้วยปัญญาของเขา”
(Who is wise and understanding among you? By his good conduct let him show his works in the meekness of wisdom.)
3:14 “แต่ถ้าหากในใจของพวกท่านมีความขมขื่นเพราะริษยาและมีความมักใหญ่ใฝ่สูง ก็อย่าโอ้อวดและอย่าต่อต้านความจริงด้วยการโกหก”
(But if you have bitter jealousy and selfish ambition in your hearts, do not boast and be false to the truth. )
3:15“ปัญญาอย่างนี้ไม่ใช่ปัญญาที่มาจากเบื้องบน แต่เป็นปัญญาฝ่ายโลก ฝ่ายเนื้อหนังและฝ่ายผีปีศาจ”
(This is not the wisdom that comes down from above, but is earthly, unspiritual, demonic. )
3:16“เพราะว่าที่ไหนมีความริษยาและความมักใหญ่ใฝ่สูง ที่นั่นก็มีความวุ่นวายและการทำชั่วทุกอย่าง”
(For where jealousy and selfish ambition exist, there will be disorder and every vile practice.)
3:17 “แต่ปัญญาจากเบื้องบนนั้นบริสุทธิ์เป็นประการแรก แล้วจึงเป็นความสงบสุข การผ่อนหนักผ่อนเบา การยอมรับฟัง การเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาและผลดีต่างๆ ไม่มีการลำเอียง ไม่มีการหน้าซื่อใจคด”
(But the wisdom from above is first pure, then peaceable, gentle, open to reason, full of mercy and good fruits, impartial and sincere.)
3:18“และพวกที่สร้างสันติ ซึ่งหว่านด้วยสันติ ก็จะได้รับผลคือความชอบธรรม”
(And a harvest of righteousness is sown in peace by those who make peace.)
ข้อมูลมีประโยชน์
3:1 “อย่าเป็นอาจารย์กันมากนักเลย” (Not many of you should become teachers) –อฟ.4:11
“ต้องถูกพิพากษาที่เข้มงวดยิ่งกว่า” (will be judged with greater strictness.) –เพราะอาจารย์มีอิทธิพลต่อชีวิตผู้อื่นมากกว่า จึงต้องรับผิดชอบมากกว่าในสิ่งที่พูดสอน และทำ -ปท. มธ.23:1-33;
ลก.20:46-47;ฮบ.13:17
3:2 “เราทำผิดพลาดมากมายกันทุกคน” (we all stumble in many ways) –1พกษ.8:46;รม.3:9-20; ยก.2:10;1ยน.1:8
“ใครไม่เคยทำผิดทางคำพูด” (anyone does not stumble in what he says ) –สดด.39:1;สภษ.10:19; 1ปต.3:10
“คนนั้นก็เป็นคนดีพร้อม” (he is a perfect man ) = เพราะลิ้นเป็นสิ่งที่ควบคุมยากที่สุด ดังนั้นหากใคร
ควบคุมลิ้นของตนได้เป็นอย่างดี ก็เท่ากับว่า เขาสามารถควบคุมด้านอื่นๆ ในชีวิตของเขาได้ด้วย
–มธ.12:37
“สามารถบังคับทั้งตัวได้ด้วย” (able also to bridle his whole body )- ยก.1:26
3:3 “เราก็สามารถบังคับมันได้ทั้งตัว” (we guide their whole bodies as well.) –สดด.32:9
3:5 “แต่คุยอวดในเรื่องใหญ่โต” (yet it boasts of great things) –สดด.12:3-4;78:8-9
3:6 “ลิ้นนั้นเป็นไฟ” (the tongue is a fire) –สภษ.16:27
“ลิ้นเป็นโลกชั่วร้าย” (a world of unrighteousness.) –บางฉบับแปลว่า “โลกแห่งความชั่วร้าย”=โลกที่ตกต่ำทำบาป
“มันทำให้ทั้งกายเป็นมลทิน” ( staining the whole body) -บางฉบับแปลว่า “ทำให้คนทั้งคนเสื่อมทรามไป” –มธ.15:11,18-19
= เพราะลิ้นเป็นสาเหตุของบาปหลาย ๆ อย่าง เปรียบเทียบ –มก.7:20-23
“ตัวมันเองก็ถูกเผาผลาญโดยไฟนรก” (setting on fire the entire course of life, and set on fire by hell.) = สำนวน เปรียบเทียบเพื่อบอกแหล่งที่มาของความชั่วร้ายของลิ้น ว่ามาจากมารร้ายที่ตัวมันเองก็ต้องลงนรก –ยน.8:44;มธ.5:22;ลก.16:23
3:8 “เต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย” (full of deadly poison) = เต็มด้วยพิษร้ายที่ทำลายชีวิต –สดด.140:3; รม.3:13
3:9 “ทรงตามพระฉายาของพระองค์” (who are made in the likeness of God.) –เพราะว่ามนุษย์ถูกสร้างตามแบบอย่างของพระองค์ ให้มีคุณลักษณะเป็นเหมือนพระองค์ – ปฐก.1:26-27
ดังนั้น การแช่งด่า/สาปแช่งมนุษย์ ก็เปรียบเหมือนการแช่งสาปพระเจ้า (ปฐก.9:6;1คร.11:7)
3:11-12 – คำพูดที่สะอาดบริสุทธิ์จะออกมาจากใจที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่จากพระเจ้าเท่านั้น
3:11 “น้ำจืดและน้ำเค็ม” (both fresh and salt water) –ในภาษากรีกใช้คำว่า “ขม”–มีรากศัพท์เดียวกันใน 3:15 –“ขมขื่น”
3:12 “เถาองุ่นจะออกผลเป็นมะเดื่อได้หรือ?” (a grapevine produce figs) –มธ.7:16
3:13 “แสดงออกมา” (show) –ยก.2:18; “การกระทำ” (his works) –1ปต.2:12
“พร้อมด้วยปัญญาของเขา” ( wisdom) –บางฉบับแปลว่า “ซึ่งมาจากสติปัญญา” -ยก.1:5
3:14 “มีความมักใหญ่ใฝ่สูง” (ambition) –ในบางฉบับแปลว่า “ทะเยอทะยานอย่างเห็นแก่ตัว”
–2คร.12:20;ยก.3:16
“อย่าต่อต้านความจริงด้วยการโกหก”(do not boast and be false to the truth.) –ยก.5:19
3:15 “ปัญญาที่มาจากเบื้องบน” (the wisdom that comes down from above ) = ปัญญาที่มาจากสวรรค์ คือมาจากพระเจ้า -1:5,17;3:17;1คร.2:6-16;ดนล.4:26
“เป็นปัญญาฝ่ายโลก ฝ่ายเนื้อหนังและฝ่ายผีปีศาจ” (is earthly, unspiritual, demonic) = ไม่ได้อยู่ฝ่ายพระวิญญาณของพระเจ้า –1ทธ.4:1
3:16 “ความมักใหญ่ใฝ่สูง” (selfish ambition exist) = ความทะเยอทะยานอย่างเห็นแก่ตัว – ยก.3:14; กท.5:20-21
“ที่นั่นก็มีความวุ่นวาย” (there will be disorder) –แต่พระเจ้าไม่ใช่พระเจ้าแห่งความวุ่นวาย พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งสันติ(สุข) –1คร.14:33
3:17 “ความสงบสุข” (then peaceable) = การรักสันติ –ฮบ.12:11
“เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตา” (full of mercy) –ลก.6:36
“ไม่มีความลำเอียง” (impartial) -2:1-13; “ไม่มีการหน้าซื่อใจคด” (sincere) –มีความจริงใจ –รม.12:9
3:18 “ พวกที่สร้างสันติ” (those who make peace) = ตรงข้ามกับข้อ 16 ความบาดหมางกันไม่มีทางทำให้พระเจ้าพอพระทัยได้ –มธ.5:9;รม.14:19
“จะได้รับผลคือ ความชอบธรรม” (harvest of righteousness) = จะได้เก็บเกี่ยวผลแห่งความชอบธรรม–สภษ.11:18;อสย.32:17;ฮชย.10:12;ฟป.1:11
คำถามนำอภิปราย
- คุณเคยคิดจะเป็นอาจารย์สอนพระคัมภีร์หรือไม่? ทำไม?
- คุณรู้หรือไม่ว่า การเป็นอาจารย์นั้นมีความรับผิดชอบสูง และต้องถูกพิพากษาอย่างเข้มงวด? แล้วคุณยังอยากจะเป็นต่อไปหรือไม่?
- คุณได้เตรียมตัวเองอย่างไร เพื่อให้พระเจ้าสามารถใช้คุณได้อย่างมีประสิทธิภาพในฐานะอาจารย์ผู้สอน พระคัมภีร์?
- คุณต้องระมัดระวัง ในเรื่องอะไรบ้าง ในการทำหน้าที่เป็นอาจารย์ผู้สอนพระคัมภีร์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการพูดจา?)
- คุณเคยเป็นคนดีพร้อมบ่อยครั้งไหม? หมายความว่า มีกี่วันที่คุณไม่ได้ทำผิดทางวาจาเลย (ไม่ว่าจะโดยการพูด การเขียน หรือการพิมพ์(โพสต์) ต่าง ๆ ? คุณทำได้อย่างไร?
- คุณเคยได้รับผลกระทบที่ทำให้คุณเจ็บปวดเพราะ
- คำพูดของคุณเอง?
- คำพูดของคนอื่น?
หรือไม่? ทำไม? และอย่างไร? (แบ่งปัน)
- คริสตจักรของคุณเคยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงหรือเสียหายเพราะคำพูดของคุณหรือของคนอื่น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำคริสตจักร) บ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร? และอย่างไร?
- คุณคิดว่าคุณเป็นคนที่สามารถควบคุม ลิ้นหรือปากของคุณได้ในระดับใด
…..1) ดีมาก (ได้หมด)
…..2) ได้ค่อนข้างมาก (ได้ส่วนใหญ่)
…..3) ได้บ้าง (ปานกลาง)
…..4) ไม่ค่อยได้ (ได้น้อยมาก/หรือไม่ได้เลย)
ทำไมคุณคิดเช่นนั้น?
- ในเวลานี้ยังมีสิ่งใดต่อไปนี้บ้างที่ทำให้คุณรู้สึกขมขื่น
…..1) ความริษยา
…..2) ความมักใหญ่ใฝ่สูง
…..3) การโอ้อวด
…..4) การโกหก/การต่อต้านความจริง
…..5) ความวุ่นวาย
…..6) การทำชั่วทุกอย่าง
เรื่องเป็นอย่างไร? แล้วคุณรับมือกับมันอย่างไร?
- คุณมีประสบการณ์ที่ดีอันเป็นผลของการมี “ปัญญา” และ “ความเข้าใจ” ในเรื่องใดต่อไปนี้ ในชีวิตและในคริสตจักรของคุณบ้าง? (แบ่งปัน)
…..1) การประพฤติที่ดีงาม การกระทำที่สุภาพอ่อนโยนพร้อมปัญญา
…..2) ความบริสุทธิ์
…..3) ความสงบสุข
…..4) การผ่อนหนักผ่อนเบา
…..5) การยอมรับฟัง
…..6) กาเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตา และผลดีต่าง ๆ
…..7)การไม่ลำเอียง
…..8) การไม่หน้าซื่อใจคด
…..9) การสร้างสันติ
….10) ความชอบธรรม
ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์