“จงระวังวิถีที่คุณดำเนินชีวิต เพราะว่า คุณอาจจะเป็นพระคัมภีร์เล่มเดียวที่คนบางคนได้อ่าน (ในชีวิตของเขา)”
(Be careful how you live; you will by the only Bible some people ever read.) -William J. Toms-
นี่จะเป็นเพราะความจริงนี้!
อ.เปาโล จึงได้กำชับทิโมธีศิษย์รัก ให้ระมัดระวังตัวในการดำเนินชีวิต และในการรับใช้ อีกทั้งยังกำชับให้ทิโมธีเป็นแบบอย่างในสิ่งที่เขาพูด และทำ ดังที่ปรากฏในพระธรรม 1ทิโมธี ดังนี้ว่า…
“11จงสั่งและสอนสิ่งเหล่านี้ 12อย่าให้ผู้ใดหมิ่นประมาทความหนุ่มแน่นของท่าน แต่จงเป็นแบบอย่างแก่คนที่เชื่อทั้งปวง ทั้งในทางวาจาและการประพฤติ ในความรัก ในความเชื่อ และในความบริสุทธิ์13จงใฝ่ใจในการอ่านพระคัมภีร์ในที่ประชุม ในการเทศนาและในการสั่งสอนจนกว่าเราจะมา 14อย่าละเลยความสามารถที่มีอยู่ในตัวท่าน ซึ่งได้ทรงประทานแก่ท่านตามคำพยากรณ์ เมื่อคณะผู้ปกครองได้เอามือวางบนท่าน 15จงปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้ โดยถือเป็นชีวิตจิตใจ เพื่อความเจริญของท่านจะได้ปรากฏแก่คนทั้งปวง 16จงเอาใจใส่ทั้งตัวท่านและคำสอนของท่าน จงยึดข้อที่กล่าวนี้ให้มั่น เพราะเมื่อกระทำดังนั้น ท่านจะช่วยทั้งตัวท่านเองและคนทั้งปวงที่ฟังท่านให้รอดได้” (1ทิโมธี 4:11-16)
ในพระธรรมตอนนี้ อ.เปาโลไม่เพียงแต่ประสงค์จะให้ทิโมธีเป็นแบบอย่างที่ดี แต่ท่านยังกำชับให้ทิโมธี สั่งและสอนคนอื่น ๆ ให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อคนอื่นต่อๆ ไปด้วย
อ.เปาโลเตือนสติทิโมธีตรง ๆ ว่า อย่าปล่อยตัวให้ผู้อื่น “หมิ่นประมาทความอ่อนวัย” ของเขา แต่ให้เขาเป็นแบบอย่างในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- ในทางวาจา
- ในการประพฤติ
- ในความรัก
- ในความเชื่อ
- ในความบริสุทธิ์
ทั้งหมดที่ อ.เปาโลกำชับนี้ คือคุณลักษณะชีวิต ของผู้ที่มีวุฒิภาวะฝ่ายจิตวิญญาณ ในทางของพระเจ้า และท่าน เพื่อที่จะสามารถมีชีวิตที่เป็นแบบอย่างตามที่กล่าวมาแล้วได้ อ.เปาโลเตือนทิโมธี รวมทั้งเราทุกคน ให้เอาจริงเอาจังในการอุทิศตัวอุทิศเวลาเพื่อกระทำสิ่งต่อไปนี้
- อุทิศเวลาให้กับการอ่านพระคัมภีร์ (ในที่ประชุม)
- อุทิศเวลาให้กับการเทศนา
- อุทิศเวลาให้กับการสั่งสอน
- ไม่ละเลยของประทานที่มีอยู่ในตัว
- ให้ปฏิบัติหน้าที่ และทุ่มเทตัวเองให้กับหน้าที่ดังกล่าว จนใคร ๆ ก็เห็นการเปลี่ยนแปลง หรือความก้าวหน้าในชีวิตของเรา
- ให้เอาใจใส่ทั้งตัวของเราและคำสอนของเรา
- ให้ประพฤติสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ
ท่านเชื่อมั่นว่า หาก ทิโมธี หรือพวกเราในปัจจุบันประพฤติตัวให้เป็นแบบอย่างอย่างเอาจริงเอาจังในเรื่องทั้งหลายที่กล่าวมาแล้ว ผลที่ตามมาจะคุ้มค่ามาก นั่นคือ
- ตัวของเราเอง – จะรอดตลอดรอดฝั่ง
- ทุกคนที่ฟังเรา – ก็จะรอดเช่นกัน
ดังนั้น วันนี้ อย่าให้เราเป็นคริสเตียนที่เก่งแต่หู คือ ชอบฟังเทศน์ ฟังคำสอน อย่างเดียว หรือเก่งแต่พูด แต่ชีวิตและคำพูดของเรากลับขัดกันหรือไปด้วยกันไม่ได้จนใคร ๆ ก็สับสน แต่ขอให้เราตั้งใจที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีในการเรียนรู้ การฟัง การพูด การเทศน์ การสอน การดำเนินชีวิตและการรับใช้ เพื่อว่า ตัวของเรา และคนอื่นที่ฟังเราจะได้รอดไปด้วยกันจนตราบนิรันดร์
…ดีไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์–
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer
(Cr. ภาพ “ปอ ชลวิชญ์” por_nonthawasee_msc)