ขออย่าให้ข้าพเจ้าอวดอะไรเว้นไว้แต่ไม้กางเขนขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า (กาลาเทีย 6:14)
นิสัยชอบโอ้อวดติดมาตั้งแต่เด็ก เราอวดเพราะเราต้องการความสนใจ และต้องการที่จะสื่อว่าเรามีบางอย่างที่ผู้อื่นไม่มีหรือเรามีมากกว่าที่คนอื่นมี หรือเราทำอะไรที่ดีกว่าที่ผู้อื่นได้ทำหรือกำลังทำอยู่
ในการอวดนั้นบางคนอวดตามความเป็นจริง บางคนอวดเกินความเป็นจริงที่เรียกว่าราคาคุยหรือโม้นั่นเอง อ.เปาโลมีอะไรที่จะอวดมากมายในชีวิต และความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่อาจารย์ไม่นำสิ่งต่างๆเหล่านั้นมาอวด เพราะท่านเกรงว่าจะไปบดบังไม้กางเขน
ทุกวันนี้เราเกือบไม่ได้ยินคำว่า “กางเขน” ในเพลงนมัสการ ไม่มีคำว่ากางเขนในคำเทศนา ไม่มีกางเขนในพระกิตติคุณ ดูเหมือนเราละอายคำว่า “กางเขน”
อ. เปาโลภูมิใจในไม้กางเขนเพราะที่ๆนั้นความบาปของท่านได้รับการชำระ และอำนาจเนื้อหนังหมดพลัง คือท่านเอาวิสัยของโลกภายในและอิทธิพลโลกภายนอกไปตรึงร่วมกับพระเยซู และให้พระเยซูผู้เป็นขึ้นสถิตย์อยู่ภายใน “โลกถูกตรึงไว้จากข้าพเจ้าแล้ว และข้าพเจ้าถูกตรึงไว้จากโลกแล้ว”
อ. เปาโลอวดความสำเร็จของไม้กางเขนในชีวิตมากกว่าอวดชีวิตที่สำเร็จในงาน อวดไม้กางเขนไม่ได้หมายถึงเอาไม้กางเขนไม้ เงิน หรือทองมาอวด แต่ขอให้สำแดงชีวิตให้สมกับที่พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา
อนุญาตโดย ศาสนาจารย์ วีรชัย โกแวร์