Categories
บทความแปล

อำนาจของความสามัญ

รักษาชายง่อย

เมื่อเขาเห็นความกล้าหาญของเปโตรกับยอห์น และรู้ว่าท่านทั้งสองขาดการศึกษาและเป็นคนสามัญ ก็ประหลาดใจ แล้วสำนึกว่าคนทั้งสองเคยอยู่กับพระเยซู (กิจการ 4:13)

เมื่อฉันได้รับเอาพระคุณแห่งความรอดที่พระเจ้าประทานเข้ามา ฉันไม่มีความรู้เรื่องพระคัมภีร์เลย วันหนึ่งฉันไปหาซื้อมาเล่มหนึ่ง รู้สึกอึ้งกับขนาดของหนังสือ ทึ่งกับหมายเหตุท้ายกระดาษและแผนที่ในปกด้านหลัง

ฉันเริ่มจากหนังสือสดุดีก่อนเพราะดูเป็นบทกวีดี แค่ได้อ่านข้อแรกก็แทบไปต่อไม่ได้ “ความสุขเป็นของบุคคล ผู้ไม่ดำเนินตามคำแนะนำของคนอธรรม หรือยืนอยู่ในทางของคนบาป หรือนั่งอยู่ในที่นั่งของคนที่ชอบเยาะเย้ย” (สดุดี 1:1)

คนบาป คนที่ชอบเยาะเย้ยหรือ? ฉันรู้จักคนพวกนี้ แต่เราใช้คำที่แตกต่าง – ชายโฉด หญิงรักสนุก แก๊ง – พวกเขาเป็นเพื่อนๆฉันเอง เพื่อนๆก่อนจะมารู้จักพระเยซู คนที่ฉันไปไหนมาไหนด้วย พูดคุย ใช้เวลาด้วยกัน อย่างที่พระคัมภีร์พูด แม้จะรักพวกเขา แต่ก็ไม่อยากไปทำสิ่งเดียวกับที่พวกเขาทำอีกแล้ว

ฉันจะเปลี่ยนแปลงได้มั้ย? เป็นคนใหม่ พระคำข้อต่อไปแสดงให้ฉันเห็นว่าคนของพระเจ้าควรเป็นอย่างไร? :  “แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน” (สดุดี 1:2)

ว้าว… ง่ายแค่นี้เอง 1) อ่านพระคัมภีร์ด้วยใจกระตือรือร้น 2) นำสิ่งที่อ่านมาคิดดู …

มิน่า เพื่อนใหม่ที่โบสถ์ต่างก็บอกให้ฉันอ่านพระคัมภีร์ เพราะในโลกที่เต็มด้วยปัญหา พระองค์มีคำตอบ

ฉันเริ่มนำพระคัมภีร์ไปที่ทำงาน หาเวลาตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยอ่านและคิดตาม แม้ไม่เข้าใจทั้งหมด ไม่รู้จักชื่อใครสักคนในนั้น และไม่รู้ว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกันอย่างไร แต่ที่รู้คือ : เป็นครั้งแรกในชีวิต พระคัมภีร์สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง

เพื่อนร่วมงาน เห็นว่าฉันตื่นเต้น เข้ามาถามว่าอ่านอะไร

“พระคัมภีร์” ฉันตอบ “คุณมีมั้ย?”

เธอหัวเราะ “มี แต่ไม่ใช่แบบนั้น”

ฉันเลยซื้อมาให้เธอเล่มหนึ่งเหมือนกับที่ฉันมี นับเป็นพระพรอย่างยิ่ง หมายเลขบอกหน้าในพระคัมภีร์ของเราเหมือนกันหมด เพราะสำหรับเรายังแยกพงศาวดารกับโครินธ์ไม่ออก แต่หมายเลขช่วยได้มาก

เราเริ่มใช้เวลาด้วยกันสัปดาห์ละครั้งที่ห้องประชุมในสำนักงาน เรามีพระคัมภีร์เหมือนกัน มีแบบฝึกหัดในหนังสือผู้เชื่อใหม่เหมือนกัน แต่ฉันมักจะทำแบบฝึกหัดล่วงหน้าไปเป็นสัปดาห์ คิดว่าถ้าเธอมีคำถามฉันอาจจะรู้คำตอบ…แต่พอมาคิด ตัวฉันนี่นะสอนพระคัมภีร์? ตาบอดนำทางตาบอดหรือเปล่า? ตอนนั้นท่องจำข้อพระคัมภีร์ได้สามข้อเอง…สามข้อ… แต่ฉันรู้ว่าฉันรู้จักกับผู้เขียนถ้อยคำในนั้นเป็นอย่างดี

สิ่งที่เรานำไปตอนใช้เวลาด้วยกันคือพระคัมภีร์ บทเรียน และพระเยซูในหัวใจ เหมือนกับพระวจนะในวันนี้ที่บอกว่า “ขาดการศึกษาและสามัญ” ฉันไม่เคยเรียน ไม่มีความรู้พระคัมภีร์ และไม่เคยรู้เรื่องการสร้างสาวก จึงเหมาะกับคำๆนี้

พวกสาวกในเยรูซาเล็ม ความกล้าหาญ ความมั่นใจของพวกเขาไม่ได้มาจากที่เรียนจบมา แต่มาจากการ “ได้อยู่กับพระเยซู” (กิจการ 4:13) และ “ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” (กิจการ 4:8)

สำหรับพวกเราที่กำลังต่อสู้กับความคิดว่า “ฉันรู้น้อยมาก” หรือ “ฉันไม่ได้เป็นคนฉลาด” พอที่จะสอนพระคัมภีร์ ต้องขอบคุณพี่น้องของเราในศตวรรษแรกที่สอนว่าควรทำอย่างไร จงใช้เวลากับพระเยซู ผ่านการนมัสการ อธิษฐาน อ่านพระวจนะ และมอบวางไว้ในองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ แล้วคุณจะรู้ว่าควรทำอย่างไร

โดย : Liz Curtis Higgs

อนุญาตโดย Encouragement for today : www.crosswalk.com

(Cr.ภาพ www.omegaopc.org)

(เนื่องจากพระธรรมยากอบบทที่ 1 ใช้เวลาเรียนติดต่อกัน 3 พฤหัสฯ จึงยังไม่มีบทเรียนที่ 2)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.