โมเสสจึงกราบทูลว่า “ขอทรงโปรดสำแดงพระสิริของพระองค์แก่ข้าพระองค์เถิด” (อพยพ 33:18)
ตอนเป็นคริสเตียนใหม่ๆ ผมชอบอธิษฐานขอสิ่งต่างๆเพื่อตนเอง
“ข้าแต่พระเจ้าขอทรงอวยพรข้าพระองค์ ขอประทาน…ให้ข้าพระองค์ ขอทรงจัดเตรียม…ให้กับข้าพระองค์”
แต่ เอ บี ซิมป์สันเขียนไว้ว่า :
ครั้งหนึ่งข้าอยากได้พร เดี๋ยวนี้ได้พระเจ้า
ครั้งหนึ่งพึ่งใจตัวเอง เดี๋ยวนี้พึ่งพระธรรม
ครั้งหนึ่งต้องการสิ่งของ เดี๋ยวนี้มีพระเจ้า
ครั้งหนึ่งอยากจะหายป่วย เดี๋ยวนี้ได้พระองค์
เมื่อเติบโตขึ้นฝ่ายวิญญาณ เราจะเริ่มพูดบ่อยขึ้นว่า “ข้าแต่พระเจ้า ลูกต้องการเพียงพระองค์ ต้องการพระองค์มากยิ่งขึ้น อยากรู้จักพระองค์มากขึ้น ไม่ว่าไปที่ใดทุกสิ่งล้วนดีทั้งสิ้นเมื่อพระองค์ไปด้วย และลูกได้ไปกับพระองค์” นี่เป็นตัวบ่งถึงการเติบโตฝ่ายวิญญาณ
ยาโคบ หลังจากหลายปีที่คบคิดวางแผนทำหลายสิ่ง ได้เจอคู่ปรับเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาและปล้ำสู้ด้วย เริ่มจากท่านพยายามเอาชนะทูตของพระเจ้าหรืออาจเป็นพระเจ้าเอง ในตอนจบ ยาโคบไม่ยอมปล่อย แต่กลับยึดคู่ปรับไว้แน่น สิ่งที่เริ่มจากการต่อต้านไม่ยอมแพ้ กลับกลายเป็นได้พักพิงในพระองค์
ปล้ำสู้กับพระเจ้าในคำอธิษฐานไม่ได้หมายความว่าโน้มน้าวให้พระเจ้าทำสิ่งที่เราอยากให้พระองค์ทำ แต่หมายความว่าเรายอมจำนนทั้งสิ้นกับสิ่งที่พระองค์ต้องการให้เราทำ นั่นคือเป้าหมายสูงสุด
เมื่อโมเสสทูลพระเจ้า “ขอทรงโปรดสำแดงพระสิริของพระองค์แก่ข้าพระองค์เถิด” ท่านกำลังพูดว่า “พระเจ้าครับ ผมอยากเห็นพระองค์เดี๋ยวนี้เลย อยากให้พระองค์สำแดงพระพักตร์ให้ผมเห็น”
เรื่องของการอธิษฐานคือไม่ใช่อยากขอแต่สิ่งของจากพระเจ้า การอธิษฐานถ้าไปให้ถึงจุดมุ่งหมายสูงสุด คือปรารถนาอยากเขาใกล้ อยากอยู่ใกล้ชิดพระเจ้าครับ
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr. ภาพ www.splendorofthechurch.com)