Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

คุณให้อะไร?

การให้

“คนที่ให้เงินทอง…ให้บางส่วน  คนที่ให้เวลา ….ให้มากกว่า  คนที่ให้ “ตัวเขาเอง” …ให้ทั้งหมด!”

(He who gives money gives some, He who gives time gives more and He who gives of himself gives all.)    -Thomas S. Monson-

คนที่เอาแต่รับ ก็คือ เด็ก

คนที่ให้ คือ คนที่กำลังเติบโต

คนที่ให้อย่างมีความสุข คือ คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว

การให้เป็นเครื่องหมายของคนที่มีวุฒิภาวะ เป็นคุณลักษณะของคนที่มีความสุข

ดังที่ พระเยซูคริสต์ตรัสไว้ว่า… “การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ” (กิจการ 20:35)

การให้เป็นสิ่งที่ทุกชุมชนและสังคมต้องการ

ในบ้าน …การให้เป็นสิ่งที่สมาชิกทุกคนในบ้านต้องมีส่วน

ในที่ทำงาน… การให้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ คงไม่มีใครจ้างเรามาให้นั่งเฉย ๆ โดยไม่ทำงานให้ตามที่นายจ้างคาดหวังให้ทำ

ในคริสตจักรก็เช่นกัน …การให้เป็นสิ่งที่สมาชิกทุกคนต้องกระทำตามบทบาทที่พระคริสต์กำหนดไว้ในพระคัมภีร์ สมาชิกจึงไม่ใช่ผู้ที่มาคริสตจักรเพียงเพื่อจะรับพระพร ไม่ใช่คนที่เอาแต่คาดหวังว่า จะได้โน่นได้นี่จากคริสตจักร อาทิ

…ต้องการจะได้ฟังเพลง/ดนตรีเพราะ ๆ

…ต้องการได้อาหารฝ่ายจิตวิญญาณยอดเยี่ยมจากนักเทศน์

…ต้องการได้อาหารฝ่ายกายดี ๆ อร่อย น่าพอใจ

…ต้องการได้ชั้นเด็กอ่อนหรือชั้นเรียนรวีฯ ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ

…ต้องการได้รับการต้อนรับและบริการที่เป็นมิตรอบอุ่น

…ต้องการได้สถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สะอาด ดี ครบถ้วน

…ต้องการได้ที่จอดรถใกล้ๆ สะดวก และมีคนดูแลการจอดรถอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

…ต้องการได้รับความช่วยเหลือเรื่องหนี้สิน เงินทอง

…ต้องการได้รับความช่วยเหลือในเรื่องปัญหาชีวิตส่วนตัว เช่น ปัญหาเรื่องงาน ปัญหาสุขภาพ ปัญหาเรื่องลูก หรือเรื่องครอบครัว ฯลฯ

พี่น้องที่รัก…

ในฐานะของคริสเตียน และสาวกของพระคริสต์ เราไม่ใหญ่ไปกว่าพระอาจารย์ !

หรือดังคำที่ว่า “ศิษย์ – ไม่ใหญ่กว่าครู”

หากครูอย่างองค์พระเยซูคริสต์ ได้สำแดง “การให้” เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เรา   เราก็ควรที่จะเรียนรู้จักการให้อย่างที่พระองค์กระทำ

พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในการให้แบบเสียสละตัวของพระองค์เอง!

พระองค์ทรงให้แบบไม่มีเงื่อนไข!

พระองค์ไม่ได้ให้แค่เงินทองหรือเวลา แต่พระองค์ทรงให้ทั้งหมดที่พระองค์ทรงมีและทรงเป็น

พระองค์ทรงประทานชีวิตของพระองค์เป็นค่าไถ่ เพื่อเรา และคนทั้งปวงจะได้รอดจากโทษบาป

ดังนั้น ศิษย์ของพระองค์ที่เรียกว่า “ธรรมิกชน” จึงเป็นคนใจกว้างโดยธรรมชาติใหม่

ในพระคัมภีร์กล่าวถึง บรรดาศิษย์ของพระคริสต์ที่อยู่แคว้นมาซิโดเนีย มีใจกว้างที่พร้อมช่วยพี่น้องที่ขัดสนในกรุงเยรูซาเล็ม ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเองก็ลำบาก และขัดสน แต่พวกเขาก็ยังมีใจ “ให้” อย่างสุดตัวสุดกำลัง

อ.เปาโลบอกว่า พวกเขาให้เกินความสามารถของพวกเขาด้วยซ้ำ โดยให้ตัวของพวกเขาต่อพระเจ้าก่อน

“ดู‍ก่อน​พี่‍น้อง​ทั้ง‍หลาย เรา​ใคร่​ให้​ท่าน​ทราบ​ถึง​พระ‍คุณ​ของ​พระ‍เจ้า โดย​ที่​พระ‍องค์​ได้​ทรง​โปรด​ประ‌ทาน​แก่​คริสต‌จักร​ต่างๆ ใน​แคว้น​มา‌ซิ‌โด‌เนีย เพราะ​ว่า​เมื่อ​คราว​ที่​พวก​เขา​ถูก​ทด‍ลอง​อย่าง​หนัก​ได้​รับ​ความ​ทุกข์‍ยาก ความ​ยินดี​ล้น​พ้น​ของ​เขา​และ​ความ​ลำ‌บายาก‍จน​อย่าง​ที่‍สุด​ของ​เขา​นั้น ก็​ล้น​ออก‍มา​เป็น​ใจ​ศรัท‌ธา​อย่าง​ยิ่ง เพราะ​ข้าพ‌เจ้า​เป็น​พยาน​ได้​ว่า เขาศรัทธาถวายโดยสุดความสามารถของเขา ที่จริงก็เกินความสามารถของเขาเสียอีก และ​เขา​ยัง​ได้​วิง‍วอน​เรา​มาก​มาย ขอ​ให้​เขา​มี​ส่วน​ใน​การ​ช่วย​ธรร‌มิก‌ชน​ด้วย ไม่​เหมือน​ที่​เรา​ได้​คาด‍หมาย​ไว้ แต่​ข้อ​สำ‌คัญ​ที่‍สุด ได้​ถวาย​ตัว​เขา​เอง​แด่​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า​ก่อน แล้ว​ได้​มอบ‍ตัว​ให้​เรา​ตาม​พระ‍ทัย​พระ‍เจ้า” (2โครินธ์ 8:1-5)

ขอให้เรามีใจกว้าง ในการให้แก่กันเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้ที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้ในสิ่งที่เรามีให้เขาได้ โดยขอให้เรายอมมอบถวายตัวของเราแก่พระเจ้าก่อน และมอบตัวของเราเองแก่เขาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา

จะดีไหมครับ?

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.