เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย (ฮีบรู 4:12)
ในปี ค.ศ. 1804 เรือเดินสมุทรของสหราชอาณาจักรอังกฤษชื่อ เอช เอ็ม เอส อพอลโล่ นำกองเรือสิ้นค้าทั้งหมด 69 ลำมุ่งสู่หมู่เกาะอินดีสตะวันตกบนเส้นทางขนานไปกับชายฝั่งของสเปนและปอร์ตุเกส ห่างจากแผ่นดินไปราวร้อยไมล์ พอวันที่ 1 เมษายน แม้จะเป็นวันที่เรียกว่าวันโกหกโลก (April Fools’ Day) กัปตันก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเข็มทิศทำให้เขามั่นใจว่าเรือกำลังออกสู่ทะเลเปิด แต่ในช่วงหลังเที่ยงคืนก่อนรุ่งสาง เรือก็ชนเข้ากับหินโสโครกริมชายฝั่ง
เขย่ากลาสีที่นอนบนดาดฟ้าให้วิ่งเข้าประจำที่และพยายามช่วยกันกู้เรือไม่ให้จมลงในทะเลที่เย็นเฉียบ คลื่นกระแทกเข้ากับลำเรือ น้ำท่วมขึ้นมาอย่างรวดเร็วได้ยินแต่เสียงหวีดร้องของคนที่กำลังถูกน้ำพัดไป
พ่อรุ่งสาง กลาสีที่รอดตายรู้สึกตกใจที่เห็นว่าพวกเขาอยู่ห่างจากชายฝั่งปอร์ตุเกสแค่ไม่กี่ร้อยไมล์ มีเศษซากเรือหลายลำแตกกระจายอยู่ทั่วผิวน้ำ จากกองเรือ 69 ลำที่เดินทางไปกับ เอช เอ็ม อพอลโล สี่สิบลำอับปางลง บางลำสูญเสียทั้งเรือและลูกเรือ เป็นหายนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเดินเรือของสหราชอาณาจักร
กัปตันเรือ เอช เอ็ม อพอลโล ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหา แต่ได้รับการยกฟ้องเมื่อหลักฐานแสดงว่าไม่ใช่ความผิดของเขา – แต่เป็นความผิดพลาดของเข็มทิศ
เรืออพอลโลบันทุกแท็งค์ใส่เหล็กขนาดใหญ่มาด้วย แรงดึงดูดของเข็มทิศจึงค่อยๆเบนออกจากขั้วทีละนิด – ทีละสี่องศา – แต่ความผิดพลาดนี้ค่อยๆสะสมไป และในฐานะเป็นเรือนำหน้า กัปตันจึงนำกองเรือมุ่งสู่หายนะโดยไม่เจตนาเพราะความผิดพลาดของเข็มทิศ
ที่น่าเศร้าคือพวกเราหลายคนใช้ชีวิตเหมือนมุ่งสู่สภาพเรือแตกเพราะเข็มทิศผิดพลาด พระวจนะเป็นเข็มทิศเดียวที่เราวางใจได้ว่าถูกต้องและเป็นจริง นำเราไปในเส้นทางมุ่งสู่แหล่งน้ำแห่งชีวิตในแต่ละวันอย่างมั่นใจ หนังสือโรม 10:17 กล่าวว่า “ฉะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เพราะการประกาศพระคริสต์”
เราสามารถวางใจในพระคัมภีร์ สามารถเชื่อถือทุกคำที่กล่าวในนั้น ถ้านี่คือความจริง ทำไมเราถึงชอบสงสัยพระเจ้า? เมื่อเผชิญหน้ากับพายุ ทำไมอารมณ์ของเราถึงกลายเป็นความกลัวมากกว่าความเชื่อ?
คุณอาจเคยได้ยินคำกล่าวโบราณของจีน “เราต่างก็มีสุนัขดีและเลวต่อสู้กันอยู่ภายในเรา ตัวที่จะชนะคือตัวที่เราให้อาหารมันมากที่สุด” เป็นจริงในเรื่องของความเชื่อและความสงสัย เราทำให้ความสงสัยอ่อนแอลงโดยสร้างความเชื่อในพระเจ้าให้แกร่งขึ้น พระวจนะเป็นอาหารจากพระเจ้าที่ทำให้เรายอมจำนน มีธรรมชาติของพระองค์ในเรา ทำให้เริ่มแกร่งขึ้น ธรรมชาติบาปเดิมอ่อนกำลังลง … และเมื่อธรรมชาติเดิมอ่อนแรง ความเชื่อในพระเจ้าของเราจะแกร่งยิ่งขึ้น
เมื่อป้อนอาหารแห่งพระวจนะเพื่อสร้างให้ความเชื่อแข็งแรง อ่านพระวจนะทุกวัน ท่องจำให้ได้ทุกสัปดาห์ ยิ่งสะสมพระวจนะในความคิดจิตใจมากเท่าไร เข็มทิศแห่งความจริงของพระเจ้าจะยิ่งเติบโตมากเท่านั้น
เช็คเข็มทิศชีวิตของคุณหรือยังคะ?
โดย Mary Southerland
อนุญาตโดย Girlfriends in God : www.crosswalk.com
(Cr.ภาพ www.dreamstime.com)