“ซาตานไม่สนเลยว่าเรานมัสการอะไร ตราบใดที่เราไม่ได้นมัสการพระเจ้า”!
(Satan doesn’t care what we worship as long as we don’t worship God.) -D.L.Moody-
ในพจนานุกรมไทย คำว่า “นมัสการ” มีความหมายเพียงแค่“การแสดงความอ่อนน้อมด้วยการกราบไหว้”
แต่ในพจนานุกรมภาษาอังกฤษ อย่างเช่นใน Encarta, World English Dictionary ได้ให้คำนิยามภาษาอังกฤษของคำว่า “นมัสการ” ไว้ดังนี้
“Worship” (นมัสการ) มีความหมายว่า ..
- ปฏิบัติต่อบางคนหรือบางสิ่งประดุจว่าเป็นพระเจ้า(เทพ/เจ้า)
(Treat somebody or something as Deity)
และแสดงความเคารพนับถือนั้นออกมาเป็นการกระทำ ผ่านอธิษฐานภาวนา และการอุทิศตัว(ถวาย)
(Show respect by engaging in acts of prayer and devotion)
- รักใครบางคนอย่างลึกซึ้ง (Love somebody deeply)
โดยผ่านการให้ความยกย่องหรือความนับถือบุคคลนั้นหรือสิ่งนั้นอย่างใหญ่หลวง และบางทีอาจมากเกินล้นหรือปราศจากข้อสงสัยใด ๆ
- มีส่วนในพิธีกรรมทางศาสนา (Take part in religious service)
คำว่า “Worship” (นมัสการ) นี้มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า “weortscipe” ที่มีความหมายแปลตามตัวอักษรว่า “เงื่อนไขแห่งคุณค่า” (condition of worth) ดังนั้น ก่อนที่เราจะนมัสการผู้ใด หรืออะไร ให้เราแน่ใจว่า ผู้นั้นมีคุณค่าสมกับการนมัสการจริง ๆ
ในพระคัมภีร์มีคำเตือนตลอดทั้งเล่มว่า อย่าให้เรานมัสการสิ่งอื่นหรือพระอื่นแทนที่จะนมัสการพระเจ้า
คนไทยจำนวนมากรู้สึกว่ายากที่จะเชื่อในพระเจ้า เพราะว่า คนไทยชอบนมัสการทุก ๆ พระ/เจ้า โดยมีคติว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน” หรือ “ไม่เชื่อแต่อย่างลบหลู่” หรือไม่ก็อ้างว่า เป็นคนไม่ติดยึดกับอะไรเพราะเป็นคนใจกว้าง ดังนั้นสำหรับคนไทยโดยเฉพาะผู้ชาย จึงไม่ยากที่จะมีผู้หญิงคนอื่น ๆ เข้ามาในชีวิต (เป็นเมียน้อย เป็นนางบำเรอ เป็นหญิงบริการ ฯลฯ) เพราะเขาเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า เขายังรักและให้เกียรติภรรยาของเขาอยู่เหมือนเดิม และเขาไม่คิดว่า การมีผู้หญิงคนอื่น ๆ มาเป็นตัวประกอบในชีวิตจะไปกระทบอะไรต่อความจริงใจที่เขามีต่อภรรยา(หลวง) ของเขา!
ผมคิดว่า ผู้หญิงไทยที่แม้จะใจกว้างเป็นแม่น้ำ ก็คงรับทัศนคติเช่นนี้ได้ไม่ง่ายนัก จริงไหม? และก็เหมือนกับผู้หญิงทุกคนที่ต้องการเป็นภรรยาเพียงคนเดียวในชีวิตของผู้ชายที่รักเธอหรือที่เธอรัก
พระเจ้าก็เช่นกัน พระองค์ทรงประสงค์ที่จะเป็นพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวในชีวิตของเราแต่ละคน เหมือนกับที่ผู้หญิงหวงแหนสามีของตน (ซึ่งจริง ๆ แล้วผู้ชายทุกคนก็สมควรที่หวงแหนภรรยาของเขาเช่นกัน เห็นด้วยไหม?)
ใช่ครับ! พระเจ้าทรงหวงแหนมนุษย์ทุกคนที่พระเจ้าทรงสร้างและทรงรัก ในพระคัมภีร์ บันทึกไว้ว่า …
“(เจ้าอย่านมัสการพระอื่นเลย เพราะพระเจ้าผู้ทรงพระนามว่าหวงแหน เป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน)” (อพย.34:14)
ดังนั้น หากเราไม่ได้นมัสการพระเจ้าแต่เพียงผู้เดี่ยว ก็เท่ากับว่า เราไม่ได้นมัสการพระเจ้าเลย และหากเราไม่ได้จงรักภักดีต่อพระเจ้าเพียงพระองค์เดียว ซาตานก็ไม่กลัวหรือกังวลอะไรเลย เพราะว่าในไม่ช้า เราก็คงจะอยู่ใน กำมือของมันแน่นอน เพราะมันมีวิธีร้อยแปดพันเก้าที่จะดึงหรือล่อเราให้ไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้าได้ จากนั้นในไม่ช้ามันก็สามารถดึงเราให้ออกห่างจากพระเจ้าไปได้เรื่อย ๆ โดยใช้เหยื่อล่อตาล่อใจที่เราโปรดปรานหรือคลั่งไคล้ และในที่สุดก็อาจจะสายเกินไปหรือห่างไกลเกินไปจนยากที่เราจะกลับมาหาพระเจ้าผู้ที่รักเราอีกครั้ง!
ดังนั้น อย่าประมาทจนนอกใจพระเจ้า เพราะนั้นหมายถึงหายนะชั่วนิรันดร์!
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์–
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer,
(Cr. ภาพ secretangleps911.com)