Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

บทเรียนพระธรรมฟิเลโมน

ฟิเลโมนเพื่อนรัก

พระธรรม        ฟิเลโมน 1:1-25

อ้างอิง             คส.4:9-12,14,17,คส.1:7;กจ.12:12,25;13:13;15:37-39;19:29;27:2;1ทธ.4:10;2ทธ.4:11

บทนำ             มีใครบางคนที่ต้องการได้รับโอกาสใหม่ในชีวิต แต่คงจะเป็นไปไม่ได้ หากไม่มีผู้ใดช่วยเขาให้เริ่มต้นใหม่

หากคุณเป็นบุคคลคนนั้นที่จะช่วยเขาได้ คุณจะยอมหรือไม่?

บทเรียน

1:1      “จากเปาโลผู้ถูกคุมขังเพื่อพระเยซูคริสต์ และทิโมธีน้องของเรา ถึง ฟีเลโมนเพื่อนรักและผู้ร่วมงานของเรา” 

(Paul, a prisoner for Christ Jesus, and Timothy our brother,To Philemon our beloved fellow worker)

1:2      “และอัปเฟียน้องสาว ทั้งอารคิปปัส ผู้เป็นเพื่อนทหารร่วมกับเรา และคริสตจักรที่อยู่ในบ้านของท่าน”

(and Apphia our sister and Archippus our fellow soldier, and the church in your house:)

1:3      “ขอพระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ดำรงอยู่กับท่านทั้งหลาย”

(Grace to you and peace from God our Father and the Lord Jesus Christ.)

1:4      “ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าของข้าพเจ้าเสมอ เมื่อระลึกถึงท่านในการอธิษฐานของข้าพเจ้า” 

(I thank my God always when I remember you in my prayers,)

1:5      “เพราะข้าพเจ้าได้ยินเรื่องความรักและความเชื่อของท่านที่มีต่อพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า และต่อธรรมิกชนทุกคน” 

(because I hear of your love and of the faith that you have toward the Lord Jesus and for all the saints,)

1:6      “ข้าพเจ้าอธิษฐานขอให้การที่ท่านมีส่วนร่วมในความเชื่อจะเกิดผลมากในความรู้ซึ้งถึงสิ่งดีทุกอย่างที่เรามีในพระคริสต์”

(and I pray that the sharing of your faith may become effective for the full knowledge of every good thing that is in us for the sake of Christ.) 

1:7      “น้องเอ๋ย ความรักของท่านทำให้ข้าพเจ้ามีความยินดีและได้รับการชูใจอย่างมาก เพราะจิตใจของพวกธรรมิกชนแช่มชื่นขึ้นเนื่องจากท่าน”

(For I have derived much joy and comfort from your love, my brother, because the hearts of the saints have been refreshed through you.)

1:8      “เพราะเหตุนี้ แม้โดยพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้ามีใจกล้าพอจะสั่งให้ท่านทำในสิ่งที่ควรทำ” 

(Accordingly, though I am bold enough in Christ to command you to do what is required,)

1:9      “แต่โดยความรัก ข้าพเจ้าจะขอร้องท่านดีกว่า ข้าพเจ้าเปาโลผู้เป็นทูตของพระเยซูคริสต์ และขณะนี้ถูกคุมขังเนื่องจากการประกาศพระองค์”

(yet for love’s sake I prefer to appeal to you—I, Paul, an old man and now a prisoner also for Christ Jesus—)

1:10    “ข้าพเจ้าขอร้องท่านเรื่องโอเนสิมัสลูกของข้าพเจ้า ผู้ซึ่งได้มาเป็นบุตรระหว่างที่ข้าพเจ้าถูกคุมขังอยู่”

(I appeal to you for my child, Onesimus, whose father I became in my imprisonment.) 

1:11    “(เมื่อก่อนนั้นเขาไม่เป็นประโยชน์ต่อท่าน แต่เดี๋ยวนี้เขาเป็นประโยชน์ทั้งต่อท่านและข้าพเจ้า)” 

(Formerly he was useless to you, but now he is indeed useful to you and to me.)

1:12    “ข้าพเจ้าส่งเขาผู้ซึ่งเป็นดังดวงใจของข้าพเจ้ามายังท่าน” 

(I am sending him back to you, sending my very heart.)

1:13    “ข้าพเจ้าอยากจะหน่วงเหนี่ยวตัวเขาไว้เพื่อปรนนิบัติข้าพเจ้าแทนท่าน ในระหว่างที่ข้าพเจ้าถูกคุมขังเพราะ​ข่าวประเสริฐ” 

(I would have been glad to keep him with me, in order that he might serve me on your behalf during my imprisonment for the gospel,) 

1:14    “แต่ว่าข้าพเจ้าไม่ต้องการจะทำสิ่งใดลงไปนอกจากท่านจะเห็นชอบด้วย เพื่อว่าความดีของท่านจะไม่เป็นไปด้วยความฝืนใจ แต่เป็นไปด้วยความเต็มใจ”

(but I preferred to do nothing without your consent in order that your goodness might not be by compulsion but of your own accord.) 

1:15    “อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้เขาจากท่านไปชั่วระยะหนึ่ง เพื่อท่านจะได้เขากลับคืนมาตลอดไป” 

(For this perhaps is why he was parted from you for a while, that you might have him back forever,) 

1:16    “เขาไม่ได้เป็นทาสอีกต่อไป แต่ดียิ่งกว่าทาส คือเป็นพี่น้องที่รัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับข้าพเจ้า และสำหรับท่านเขาเป็นมากยิ่งกว่านั้นอีก ทั้งในฐานะที่เขาเป็นอยู่ในสังคมและในฐานะที่เป็นคนขององค์พระผู้เป็นเจ้า” 

(no longer as a bondservant but more than a bondservant, as a beloved brother—especially to me, but how much more to you, both in the flesh and in the Lord.)

1:17    “เพราะฉะนั้นหากท่านถือว่าข้าพเจ้าเป็นเพื่อนร่วมงาน ก็จงรับเขาไว้เหมือนที่รับข้าพเจ้า” 

(So if you consider me your partner, receive him as you would receive me.)

1:18    “ถ้าเขาทำผิดต่อท่านหรือเป็นหนี้อะไรไว้ จงคิดเอาจากข้าพเจ้า”

(If he has wronged you at all, or owes you anything, charge that to my account.) 

1:19    “ข้าพเจ้า เปาโลเขียนด้วยมือของข้าพเจ้าเองว่า ข้าพเจ้าจะชดใช้ให้ ข้าพเจ้าจะไม่พูดเรื่องที่ท่านเป็นหนี้ข้าพเจ้า แม้กระทั่งตัวของท่านเอง”

(I, Paul, write this with my own hand: I will repay it—to say nothing of your owing me even your own self.) 

1:20    “นี่แน่ะ น้องเอ๋ย ขอให้ข้าพเจ้าได้ประโยชน์จากท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด และให้ใจของข้าพเจ้าแช่มชื่นในพระคริสต์”

(Yes, brother, I want some benefit from you in the Lord. Refresh my heart in Christ.)

1:21    “ข้าพเจ้ามั่นใจว่าท่านจะเชื่อฟังจึงได้เขียนจดหมายถึงท่าน เพราะรู้ว่าท่านจะทำยิ่งกว่าที่ข้าพเจ้าขอ”

(Confident of your obedience, I write to you, knowing that you will do even more than I say.)

1:22    “นอกจากนั้น ขอท่านจัดเตรียมที่พักไว้ให้ข้าพเจ้าด้วย เพราะข้าพเจ้าหวังว่าจะกลับไปหาท่านทั้งหลายอีกตามคำอธิษฐานของพวกท่าน”

(At the same time, prepare a guest room for me, for I am hoping that through your prayers I will be graciously given to you.)

1:23    “เอปาฟรัส ผู้ที่ถูกขังร่วมกับข้าพเจ้าเพื่อพระเยซูคริสต์ ฝากคำทักทายมายังท่าน”

 Epaphras, my fellow prisoner in Christ Jesus, sends greetings to you, 

1:24    “มาระโก อาริสทารคัส เดมาส และลูกาซึ่งเป็นพวกเพื่อนร่วมงานของข้าพเจ้าก็ฝากคำทักทายมายังท่านด้วย”

(and so do Mark, Aristarchus, Demas, and Luke, my fellow workers.)

1:25    “ขอพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าดำรงอยู่กับจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายเถิด”

(The grace of the Lord Jesus Christ be with your spirit.)

ข้อมูลมีประโยชน์

1:1-2 –เปาโล เขียนจดหมายฉบับนี้ร่วมกับทิโมธี แต่เปาโลใช้สรรพนาม “ข้าพเจ้า” แทนสรรพนาม “เรา” ซึ่งเป็น   “พหูพจน์”

1:1       “เปาโล” (Paul) –รม.1:1

ในสมัยก่อนผู้เขียนจดหมายจะใส่ชื่อของตนไว้ตอนต้นของจดหมาย –เรื่องราวของเปาโลปรากฏอยู่ใน

กจ.9:1-30;13:1-28:31;2คร.6:3-10;11:21-12:10;กท.1:13-24;ฟป.3:4-14;1ทธ.1:12-16

“ผู้ถูกคุมขัง” (a prisoner) = นักโทษ – อฟ.3:1;ฟป.1:13;ฟม.9,23

“ทิโมธี” (Timothy) –คส.1:1;2คส.ฟป., 1-2ธส; ฟม.;กจ.16:1; “น้องของเรา” (our brother) –2คร.1:1

“ฟิเลโมน” (Philemon) = ผู้เชื่อในพระคริสต์คนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองโคโลสีหรือบริเวณใกล้เคียงและเป็นนายของทาสคนหนึ่งที่มีนามว่า โอเนสิมัส

“ผู้ร่วมงานของเรา” (fellow worker) –ฟป.2:25

1:2      “อัปเฟีย” (Apphia) = อาจเป็นภรรยาของฟิเลโมน

“อารคิปปัส” (Archippus) = เพื่อนร่วมงานของเปาโลที่ถูกเรียกว่า “เพื่อนทหาร” –คส.4:17

“คริสตจักรที่อยู่ในบ้านของท่าน” (the church in your house) –รม.16:5

1:3     “พระคุณและสันติสุข” (Grace to you and peace)

“พระคุณ” = การได้รับในสิ่งที่เราไม่สมควรจะได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระคุณที่พระเจ้าประทานให้แก่มนุษย์ผู้เป็นคนบาป ผ่านการสละพระชนม์ของพระคริสต์เพื่อไถ่บาปมนุษย์อย่างเรา

“สันติสุข”(peace) = การอยู่อย่างดีมีสุข และปลอดภัยที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้ (เฉพาะสำหรับผู้ที่พักสงบอยู่ในพระองค์) –รม.5:1;ฟป.4:7;กท.1:3;อฟ.1:2;ยน.14:27;20:19

                   “ดำรงอยู่กับท่านทั้งหลาย” (to you) = มีแก่ท่าน – รม.1:7

1:4      “ข้าพเจ้าขอบคุณพระเจ้าของข้าพเจ้าเสมอ” (I thank my God always when) –รม.1:8;ฟป.1:3-4

“เมื่อระลึกถึงท่านในการอธิษฐาน” (I remember you in my prayers) -รม.1:10

1:5       “ความรักและความเชื่อ….ที่มีต่อพระเยซูคริสต์พระผู้เป็นเจ้า” (your love and of the faith …. have toward the Lord Jesus) –กจ.20:21

“…และต่อธรรมิกชนทุกคน” (for all the saints) = ประชากรของพระเจ้า –รม.1:7;อฟ.1:1;คส.1:4;

                   1ธส.3:6

1:7       “ความรักของท่าน ทำให้ข้าพเจ้ามีความยินดีและได้รับการชูใจอย่างมาก” (I have derived much joy and comfort from your love ) -บางฉบับแปลว่า “ความรักของท่านเป็นกำลังใจให้ข้าพเจ้า และทำให้ข้าพเจ้าชื่นชมยินดียิ่งนัก” –2คร.7:4,13

“จิตใจของพวกธรรมิกชนแช่มชื่นขึ้นเนื่องจากท่าน” (the hearts of the saints have been refreshed through you) –เพราะได้รับความเห็นอกเห็นใจและความรัก –ฟม.12,20;รม.15:32;1คร.16:18

1:9       “จะขอร้องท่านดีกว่า” (I prefer to appeal to you) –1คร.1:10

“ถูกคุมขังเนื่องจากการประกาศพระองค์” (a prisoner also for Christ Jesus) –อฟ.3:1;ฟม.1,23

1:10     “โอเนสิมัส” (Onesimus) –คส.4:9; “ลูกของข้าพเจ้า” (my child) –1ธส.2:11;1ทธ.1:2;

                   “ข้าพเจ้าถูกคุมขังอยู่” (my imprisonment) –กจ.21:33

1:11     “ไม่เป็นประโยชน์…เป็นประโยชน์” (useless … useful) –เปาโลเล่นคำจากความหมายของโอเนสิมัส ชื่อ “โอเนสิมัส” แปลว่า “มีประโยชน์” (useful)

1:13     “ถูกคุมขัง” (imprisonment) = ถูกจำจอง –กจ.21:33;ฟม.10

1:14     “ไม่เป็นไปด้วยความฝืนใจ” (not be by compulsion) –2คร.9:7;1ปต.5:2

1:16     “เขาไม่ได้เป็นทาสอีกต่อไป” (no longer as a bondservant) –1คร.7:22

“เป็นพี่น้องที่รัก” (beloved brother) –มธ.23:8;กจ.1:16;1ทธ.6:2

1:17-19 –มาร์ติน ลูเธอร์ ให้ภาพเปรียบเทียบว่า เหมือนกับที่พระเยซูคริสต์ทูลขอพระเจ้าพระบิดาเพื่อมนุษย์อย่าง

เรา เปาโลก็ขอร้องฟิเลโมน เพื่อโอเนสิมัส

1:17     “เป็นเพื่อนร่วมงาน” (partner) = เป็นหุ้นส่วน –2คร.8:23

1:18     “จงคิดเอาจากข้าพเจ้า” (charge that to my account.) –ปฐก.43:9

1:19     “ข้าพเจ้าเปาโล เขียนด้วยมือของข้าพเจ้าเอง” (I, Paul, write this with my own hand) –1คร.16:21

“เรื่องที่ท่านเป็นหนี้ข้าพเจ้า” (your owing me) = อาจเป็นเพราะเปาโลเป็นผู้นำฟิเลโมนมาเชื่อในพระคริสต์

1:20     “ขอให้ข้าพเจ้าได้ประโยชน์…ให้ใจของข้าพเจ้าแช่มชื่นในพระคริสต์” (I want some benefit … Refresh my heart in Christ) –เป็นการเล่นคำตามชื่อของโอเนสิมัส อีกครั้ง –1คร.16:18;ฟม.7

1:21     “มั่นใจ” (Confident) –2คร.2:3

1:22    “นอกจากนั้น” (At the same time) = อีกอย่างหนึ่ง หมายถึงเรื่องรองที่เกี่ยวข้องกับผู้เขียนที่วางแผนจะได้พบผู้รับอีกครั้ง เมื่อไร และอย่างไร

          “หวังว่า” (hoping) –ฟป.1:25;2:24;ฮบ.13:19

                   “ตามคำอธิษฐานของพวกท่าน” (your prayers) –2คร.1:11;ฟป.1:19

1:23     “เอปาฟรัส” (Epaphras) –คส.1:7;4:12; ชื่อนั้นแปลว่า “มีเสน่ห์” หรือ “หล่อ”

“เพื่อนนักโทษ” ( fellow prisoner) –รม.16:7;คส.4:10;ฟม.1

1:24     “มาระโก อาริสทารคัส” (Mark, Aristarchus) –กจ.12:12;19:29

“เดมาสและลูกา” (Demas, and Luke) –คส.4:14;2ทธ.4:10

1:25     “พระคุณ” (The grace) –รม.1:7

“ดำรงอยู่กับจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายเถิด” (be with your spirit) –กท.6:18

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยสูญเสียหรือถูกคุมขังเพราะการประกาศเรื่องราวของพระเยซูคริสต์บ้างหรือไม่? อย่างไร? (แบ่งปัน)
  2. มีใครที่นับว่าเป็นเพื่อนรักหรือเพื่อนร่วมงานของคุณ ที่คุณประทับใจมากที่สุด? ทำไม?
  3. คุณเคยไปร่วมนมัสการหรือสามัคคีธรรมกับพี่น้องในคริสตจักรตามบ้านบ้างหรือไม่? ที่ไหน? แล้วคุณรู้สึกอย่างไร?
  4. เวลาคุณอธิษฐานคุณมักคิดถึงผู้ใด ที่ทำให้อธิษฐานเผื่อเขา? เรื่องอะไร? ทำไม?
  5. มีผู้ใดบ้างที่ทำให้คุณยินดีและได้รับการชูใจอย่างมาก จากชีวิต คำพูด และการกระทำของเขา? อย่างไร?
  6. คุณเคยต้องการสิ่งใด และใช้การขอร้องแทนที่จะสั่งบ้างหรือไม่? แล้วได้ผลเป็นอย่างไร? หรือคุณได้รับบทเรียนอะไรจากเรื่องดังกล่าวบ้าง?
  7. คุณเคยขอร้องอะไรเพื่อใครบางคนเป็นพิเศษหรือไม่? ในเรื่องอะไร? จากใคร? แล้วผลเป็นอย่างไร?
  8. คุณเคยยอมเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อเห็นแก่ผู้ใดบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? และผลที่ตามมาคืออะไร?
  9. คุณเคยได้ผู้ใดที่เมื่อก่อนเป็นคนที่อยู่ใต้อำนาจของคุณ มาเป็นพี่น้องในความเชื่อของคุณบ้างหรือไม่? อย่างไร? แล้วผลเป็นอย่างไร?
  10. คุณเคยได้รับประโยชน์อะไรจากคนที่คุณเคยนำมาเชื่อพระคริสต์ หรือคนที่อยู่ในทีมของคุณ? แล้วคุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.