“คนที่ให้ก็ต่อเมื่อได้รับการร้องขอเท่านั้น คือคนที่รอนานเกินไปแล้ว!”
(He who gives only when he is asked has waited too long.)
บางคนอาจจะให้โดยไม่ได้มีใจเมตตา แต่คนที่มีใจเมตตาที่แท้จริงย่อมไม่อาจที่จะไม่ให้
บางครั้งอาจเกิดคำถามว่า แล้วควรจะให้เมื่อไร?
คำตอบก็คือ จงให้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!
(หากการให้นั้นไม่สร้างความเสียหายอย่างไม่จำเป็นต่อผู้ที่อยู่ร่วมกับเรา!)
ใช่ครับ บางครั้งเราอาจต้องต่อสู้ในจิตใจ ระหว่าง จะให้หรือไม่ให้ดี และจะให้เมื่อไรดี?
โดยปกติแล้ว หากไม่มีหลักฐานใดบ่งชัดว่า จะเกิดผลเสียหาย จากการเสียเงิน(จำนวนที่จะช่วยเหลือนั้น) และมีความจำเป็นเร่งด่วนเห็นชัดอยู่เบื้องหน้า(ที่ไม่อาจรอคอยได้) เรามักเลือกที่จะให้มากกว่าไม่ให้!
สำหรับคริสตจักร ตัวแปรสำคัญก็คือ
- เรามีเงินจำนวนที่ต้องการจะให้นั้นอยู่ในมือแล้วหรือไม่?
(นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมคริสตจักรควรจะต้องได้รับเงินถวายจากการถวาย (อย่างน้อยก็สิบลด) ของสมาชิกเป็นประจำ อย่างน้อยทุกสัปดาห์ สำหรับใช้ในการกระทำพันธกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พันธกิจในการสงเคราะห์ผู้ขัดสนหรือผู้เจ็บป่วย
- เรามีเงินดังกล่าวอยู่ในบัญชีใดที่(เรารู้ตัวเลขจำนวนเงิน) ที่สามารถนำออกมาใช้ได้ในทันที? (นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมเราจึงควรมีงบสงเคราะห์สมาชิกหรือบุคคลภายนอกที่ลำบากเดือดร้อนพร้อมที่จะใช้อยู่ตลอดเวลา)
นี่เป็นเหตุให้แทบทุกคริสตจักรมีงบที่เรียกว่า “งบสงเคราะห์” เพื่อไว้ใช้ในวัตถุประสงค์ดังกล่าว!
อย่างไรก็ดี…โดยปกติแล้ว เวลาที่คริสตจักรได้สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้คนเดือดร้อน คริสตจักรก็มักจะลำบากใจในการรายงานให้สมาชิกโดยรวมทราบรายละเอียดว่า ได้ช่วยผู้ใดไปบ้าง เพราะบางทีอาจทำให้ผู้รับการช่วยเหลือรู้สึกอึดอัดใจ เพราะรู้สึกว่า ตนเองมาสร้างความเดือดร้อนต่อคริสตจักรหรืออาจจะอายคนรู้จักในคริสตจักรที่เขาเป็นสมาชิกอยู่!
ในทำนองเดียวกัน สมาชิกส่วนใหญ่ของคริสตจักรโดยทั่ว ๆ ไปก็มักไม่ติดใจที่จะรู้ว่า คริสตจักรได้ช่วยสงเคราะห์ผู้ใดบ้าง เพียงแต่ขอให้คริสตจักรใช้เงินที่ถวายแด่พระเจ้า(ที่มาจากการให้พวกเขา)นั้นอย่างถูกต้องตามครรลองหรือตาม คำสอนของพระวจนะของพระเจ้าก็เป็นการใช้ได้
ด้วยเหตุนี้เอง ความสามารถของคริสตจักรในการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างเร่งด่วน จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ
- เงินกองทุนหรือเงินถวายที่สมาชิกคริสตจักรได้สัตย์ซื่อในการนำมาถวายเป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
- ความสามารถในการบริหารจัดการกับเงินทองเหล่านั้นของคณะผู้นำของคริสตจักร ที่อาจมีชื่อเรียกหลากหลาย อาทิ คณะผู้อภิบาล คณะธรรมกิจ คณะมัคนายก คณะกรรมการคริสตจักร
ดังนั้น หากสมาชิกคริสตจักรทุกคนสัตย์ซื่อในการถวายทรัพย์ (อย่างน้อยสิบลด) และคณะผู้นำทุกคนรับผิดชอบ ตัดสินใจฉลาดและเมตตาในการใช้ทรัพย์เหล่านั้น (ที่พร้อมรายงานต่อพระเจ้าและสื่อสารต่อสมาชิก) เงินเหล่านั้นก็จะถูกใช้ไปอย่างที่พระเจ้าทรงประสงค์ และที่ผู้เดือนร้อนขัดสนที่มีความจำเป็นได้รับการช่วยเหลือ และหากมีเงินพร้อมอยู่เสมอ ความช่วยเหลือก็จะสามารถกระทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และจะเป็นการดียิ่งนัก หากว่าคริสตจักรสามารถจะให้ออกไปได้ทันท่วงทีหรือทันเหตุการณ์ ก่อนที่จะมีการร้องขอ!
ฉะนั้น … พี่น้องที่รัก!
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในบุคคลกลุ่มใด (สมาชิกหรือผู้นำ) คุณพร้อมที่จะทำหน้าที่ในการให้ของคุณอย่างซื่อสัตย์ด้วยใจกว้างขวาง อย่างฉลาดแล้วหรือยัง?
อย่ารอนานเกินไปที่จะให้เลย
เห็นด้วยไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์–
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer