Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

รอนานเกินไปแล้ว

ถวายสิบลด

“คนที่ให้ก็ต่อเมื่อได้รับการร้องขอเท่านั้น คือคนที่รอนานเกินไปแล้ว!”

(He who gives only when he is asked has waited too long.)

บางคนอาจจะให้โดยไม่ได้มีใจเมตตา แต่คนที่มีใจเมตตาที่แท้จริงย่อมไม่อาจที่จะไม่ให้

บางครั้งอาจเกิดคำถามว่า แล้วควรจะให้เมื่อไร?

คำตอบก็คือ จงให้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!

(หากการให้นั้นไม่สร้างความเสียหายอย่างไม่จำเป็นต่อผู้ที่อยู่ร่วมกับเรา!)

ใช่ครับ บางครั้งเราอาจต้องต่อสู้ในจิตใจ ระหว่าง จะให้หรือไม่ให้ดี และจะให้เมื่อไรดี?

โดยปกติแล้ว หากไม่มีหลักฐานใดบ่งชัดว่า จะเกิดผลเสียหาย จากการเสียเงิน(จำนวนที่จะช่วยเหลือนั้น) และมีความจำเป็นเร่งด่วนเห็นชัดอยู่เบื้องหน้า(ที่ไม่อาจรอคอยได้) เรามักเลือกที่จะให้มากกว่าไม่ให้!

สำหรับคริสตจักร ตัวแปรสำคัญก็คือ

  1. เรามีเงินจำนวนที่ต้องการจะให้นั้นอยู่ในมือแล้วหรือไม่?

(นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมคริสตจักรควรจะต้องได้รับเงินถวายจากการถวาย (อย่างน้อยก็สิบลด) ของสมาชิกเป็นประจำ อย่างน้อยทุกสัปดาห์ สำหรับใช้ในการกระทำพันธกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พันธกิจในการสงเคราะห์ผู้ขัดสนหรือผู้เจ็บป่วย

  1. เรามีเงินดังกล่าวอยู่ในบัญชีใดที่(เรารู้ตัวเลขจำนวนเงิน) ที่สามารถนำออกมาใช้ได้ในทันที? (นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมเราจึงควรมีงบสงเคราะห์สมาชิกหรือบุคคลภายนอกที่ลำบากเดือดร้อนพร้อมที่จะใช้อยู่ตลอดเวลา)

นี่เป็นเหตุให้แทบทุกคริสตจักรมีงบที่เรียกว่า “งบสงเคราะห์” เพื่อไว้ใช้ในวัตถุประสงค์ดังกล่าว!

อย่างไรก็ดี…โดยปกติแล้ว เวลาที่คริสตจักรได้สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้คนเดือดร้อน คริสตจักรก็มักจะลำบากใจในการรายงานให้สมาชิกโดยรวมทราบรายละเอียดว่า ได้ช่วยผู้ใดไปบ้าง เพราะบางทีอาจทำให้ผู้รับการช่วยเหลือรู้สึกอึดอัดใจ เพราะรู้สึกว่า ตนเองมาสร้างความเดือดร้อนต่อคริสตจักรหรืออาจจะอายคนรู้จักในคริสตจักรที่เขาเป็นสมาชิกอยู่!

ในทำนองเดียวกัน สมาชิกส่วนใหญ่ของคริสตจักรโดยทั่ว ๆ ไปก็มักไม่ติดใจที่จะรู้ว่า คริสตจักรได้ช่วยสงเคราะห์ผู้ใดบ้าง เพียงแต่ขอให้คริสตจักรใช้เงินที่ถวายแด่พระเจ้า(ที่มาจากการให้พวกเขา)นั้นอย่างถูกต้องตามครรลองหรือตาม คำสอนของพระวจนะของพระเจ้าก็เป็นการใช้ได้

ด้วยเหตุนี้เอง ความสามารถของคริสตจักรในการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างเร่งด่วน จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ

  1. เงินกองทุนหรือเงินถวายที่สมาชิกคริสตจักรได้สัตย์ซื่อในการนำมาถวายเป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
  2. ความสามารถในการบริหารจัดการกับเงินทองเหล่านั้นของคณะผู้นำของคริสตจักร ที่อาจมีชื่อเรียกหลากหลาย อาทิ คณะผู้อภิบาล คณะธรรมกิจ คณะมัคนายก คณะกรรมการคริสตจักร

ดังนั้น หากสมาชิกคริสตจักรทุกคนสัตย์ซื่อในการถวายทรัพย์ (อย่างน้อยสิบลด) และคณะผู้นำทุกคนรับผิดชอบ ตัดสินใจฉลาดและเมตตาในการใช้ทรัพย์เหล่านั้น (ที่พร้อมรายงานต่อพระเจ้าและสื่อสารต่อสมาชิก) เงินเหล่านั้นก็จะถูกใช้ไปอย่างที่พระเจ้าทรงประสงค์ และที่ผู้เดือนร้อนขัดสนที่มีความจำเป็นได้รับการช่วยเหลือ และหากมีเงินพร้อมอยู่เสมอ ความช่วยเหลือก็จะสามารถกระทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และจะเป็นการดียิ่งนัก หากว่าคริสตจักรสามารถจะให้ออกไปได้ทันท่วงทีหรือทันเหตุการณ์ ก่อนที่จะมีการร้องขอ!

ฉะนั้น … พี่น้องที่รัก!

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในบุคคลกลุ่มใด (สมาชิกหรือผู้นำ) คุณพร้อมที่จะทำหน้าที่ในการให้ของคุณอย่างซื่อสัตย์ด้วยใจกว้างขวาง อย่างฉลาดแล้วหรือยัง?

อย่ารอนานเกินไปที่จะให้เลย

เห็นด้วยไหมครับ?

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.