แต่จงเข้าใจข้อนี้ คือว่าในสมัยจะสิ้นยุคนั้น จะเกิดเหตุการณ์กลียุค เพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน… รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า (2ทิโมธี 3:1-2, 4)
เราไม่เคยพบวัฒนธรรมที่แสวงหาแต่ความสุขใส่ตัวอย่างบ้าคลั่งมากเท่ากับยุคนี้อีกแล้ว ดูเหมือนเราไม่เคยพอกับความสุขที่มี เรามีโฆษณาทุกรูปแบบที่ยัดเยียดภาพความหวังและคำสัญญาว่าจะมอบให้แต่ความสุข สนุก และสะดวกสบาย ทุกอย่างที่นำเสนอล้วนแล้วแต่เพื่อความสุขส่วนตัวทั้งสิ้น
ที่จริง อาจมีคนพูดว่า “สำหรับฉัน ชีวิตคือความสุข สนุก สะดวกสบาย รอคอยวันหยุด รอคอยปาร์ตี้ยามค่ำคืน รอคอยเรื่องตื่นเต้นที่จะเข้ามาในชีวิต”
ปรัชญาเดิมๆครับ ไม่มีอะไรใหม่ บุคคลในยุคเดียวกับ อ.เปาโล จักรพรรดิเนโร เชื่อว่าจุดมุ่งหมายของชีวิตคือชีวิตที่ดีมีความสุข ความปรารถนาเติมเต็ม และงานเลี้ยงเฉลิมฉลองไม่ขาดสาย และนี่คือสิ่งเดียวกับที่คนยุคนี้แสวงหา
ยังมีกลุ่มนักปรัชญาชาวกรีกในยุคนั้นที่เรียกตนเองว่าเอพิคูเรียน กลุ่มคนเหล่านี้คือคนที่แสวงหาความสุขในชีวิต ทุกวันนี้ผู้คนยังยึดตามปรัชญานี้อยู่ ที่จริงพระคัมภีร์บอกเราว่าหนึ่งในหมายสำคัญสำหรับยุคสุดท้ายคือผู้คนจะ “รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า” (2ทิโมธี 3:4) น่าเสียดายเหลือเกิน และพระคัมภีร์กล่าวไว้อีกว่า “ส่วนผู้หญิงที่ปล่อยตัวนั้นก็ตายทั้งเป็น” (1ทิโมธี 5:6)
อ.เปาโลกล่าวว่า “เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้านั้น การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร” (ฟีลิปปี 1:21)
จอย เดวิดแมน ภรรยาของ ซี เอส ลูวิส กล่าวว่า “มีชีวิตเพื่อความสุขส่วนตัวเป็นความสุขระดับต่ำที่สุดที่มนุษย์ทำได้ ถ้าเพื่อนบ้านไม่ฆ่าเขาทิ้งเพราะความรังเกียจ เขาก็จะค่อยๆตายไปเองเพราะเบื่อหน่ายและไร้พลัง”
คุณมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรครับ? ใครทำให้เลือดในกายคุณสูบฉีด? คุณจะบอกว่าอะไรคือสิ่งที่คุณลุ่มหลงที่สุดในชีวิต?
มีแต่คนที่พูดว่า “เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้านั้น การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร” เท่านั้นครับที่อยู่อย่างคุ้มค่า
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514