ความยินดีในท่ามกลางความเศร้าโศก
พระธรรม 2โครินธ์ 7:1-16
อ้างอิง 1คร.10:14;5:12;2:3,13;2คร.1:3,4;2:2-4,9,13;4:8;10-13;17-18;7:4-8,13;10:6
บทนำ ชีวิตเราอาจเผชิญกับเรื่องน่าเศร้าเสียใจ แต่เราสามารถมีความยินดีในท่ามกลางสถานการณ์เหล่านั้นได้ หากเรามีพระเจ้าและเพื่อนดี ๆ อยู่เคียงข้าง และคุณเองก็อาจได้รับการหนุนใจและหนุนใจผู้อื่นได้ในเวลาเดียวกัน!
พระธรรม
7:1 “ท่านที่รักทั้งหลาย ในเมื่อเรามีพระสัญญาเช่นนี้ ขอให้เราชำระตัวเองให้ปราศจากมลทินทุกอย่างของเนื้อหนังและวิญญาณ จงมีความบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า”
(Since we have these promises, beloved, let us cleanse ourselves from every defilement of body and spirit, bringing holiness to completion in the fear of God.)
7:2 “จงเปิดใจรับเราเถิด เราไม่ได้ทำผิดต่อใคร หรือทำลายใคร หรือเอาเปรียบใครเลย”
(Make room in your hearts for us. We have wronged no one, we have corrupted no one, we have taken advantage of no one.)
7:3 “ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อจะลงโทษพวกท่าน เพราะข้าพเจ้าได้บอกก่อนหน้านี้แล้วว่า ท่านทั้งหลายอยู่ในใจของเรา จะตายหรือจะเป็นก็อยู่ด้วยกัน”
(I do not say this to condemn you, for I said before that you are in our hearts, to die together and to live together.)
7:4 “ข้าพเจ้าไว้ใจและภูมิใจในพวกท่านมาก ข้าพเจ้าได้รับการหนุนใจอย่างบริบูรณ์ และมีความยินดีอย่างเหลือล้นในความยากลำบากทุกอย่างของเรา”
(I am acting with great boldness toward you; I have great pride in you; I am filled with comfort. In all our affliction, I am overflowing with joy.)
7:5 “เพราะว่าเมื่อมาถึงแคว้นมาซิโดเนียแล้ว ร่างกายของเราไม่ได้พักผ่อนเลย แต่พบความลำบากรอบด้าน ภายนอกมีการต่อสู้ ภายในมีความกลัว”
(For even when we came into Macedonia, our bodies had no rest, but we were afflicted at every turn—fighting without and fear within.)
7:6 “แต่พระเจ้าผู้ทรงหนุนใจคนที่ท้อใจ ได้ทรงหนุนใจเราด้วยการมาของทิตัส”
(But God, who comforts the downcast, comforted us by the coming of Titus,)
7:7 “และไม่เฉพาะเพียงการมาของเขาเท่านั้น แต่ยังด้วยการหนุนน้ำใจที่เขาได้รับจากพวกท่าน เขาบอกเราถึงความอาลัยและความโศกเศร้าของท่าน ทั้งความกระตือรือร้นของท่านทั้งหลายที่มีต่อข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งมีความยินดีมากขึ้น”
(and not only by his coming but also by the comfort with which he was comforted by you, as he told us of your longing, your mourning, your zeal for me, so that I rejoiced still more.)
7:8 “เพราะถึงแม้ว่าข้าพเจ้าทำให้ท่านเสียใจเพราะจดหมายฉบับนั้น ข้าพเจ้าก็ไม่เสียใจ (แม้ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าจะเสียใจ เพราะข้าพเจ้าเห็นว่าจดหมายฉบับนั้นทำให้พวกท่านเสียใจแม้เพียงชั่วขณะ)”
(For even if I made you grieve with my letter, I do not regret it—though I did regret it, for I see that that letter grieved you, though only for a while.)
7:9 “แต่บัดนี้ข้าพเจ้ามีความยินดี ไม่ใช่เพราะพวกท่านเสียใจ แต่เพราะความเสียใจนั้นทำให้ท่านกลับใจ เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความเสียใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า ท่านจึงไม่ได้รับผลร้ายจากเราเลย”
(As it is, I rejoice, not because you were grieved, but because you were grieved into repenting. For you felt a godly grief, so that you suffered no loss through us.)
7:10 “เพราะว่าความเสียใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า ทำให้เกิดการกลับใจ ซึ่งจะนำไปสู่ความรอดและจะไม่ทำให้เสียใจ แต่ความเสียใจอย่างโลกนั้นย่อมนำสู่ความตาย”
(For godly grief produces a repentance that leads to salvation without regret, whereas worldly grief produces death.)
7:11 “จงดูสิว่าความเสียใจตามพระประสงค์ของพระเจ้าเช่นนี้ นำไปสู่การเอาจริงเอาจังเพียงไร และยังทำให้เกิด การขวนขวายที่จะพิสูจน์ตัวเอง เกิดความขุ่นเคือง ความตื่นตัว ความอาลัย ความกระตือรือร้น และเกิดการลงโทษ พวกท่านพิสูจน์ตัวเองในทุกด้านแล้วว่าเป็นผู้ปราศจากความผิดในเรื่องนี้”
(For see what earnestness this godly grief has produced in you, but also what eagerness to clear yourselves, what indignation, what fear, what longing, what zeal, what punishment! At every point you have proved yourselves innocent in the matter.)
7:12 “ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านทั้งหลาย ก็ไม่ใช่เพราะเห็นแก่คนที่ทำผิด หรือเพราะเห็นแก่คนที่ต้องทนต่อการร้าย แต่เพื่อให้การเอาจริงเอาจังที่ท่านมีต่อเรา ปรากฏกับพวกท่านเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า”
(So although I wrote to you, it was not for the sake of the one who did the wrong, nor for the sake of the one who suffered the wrong, but in order that your earnestness for us might be revealed to you in the sight of God.)
7:13 “เพราะเหตุนี้เราจึงได้รับการหนุนใจ นอกจากได้รับการหนุนใจแล้ว เรายังมีความยินดีมากยิ่งขึ้นเนื่องจากความยินดีของทิตัส เพราะพวกท่านทุกคนทำให้จิตใจของเขาสงบ”
(Therefore we are comforted. And besides our own comfort, we rejoiced still more at the joy of Titus, because his spirit has been refreshed by you all.)
7:14 “เพราะที่ข้าพเจ้าอวดเรื่องของท่านแก่ทิตัส ข้าพเจ้าก็ไม่ต้องละอายเลย แต่ทุกสิ่งที่เราพูดกับท่านทั้งหลายเป็นความจริงอย่างไร สิ่งที่เราอวดกับทิตัสก็ปรากฏเป็นจริงอย่างนั้น”
(For whatever boasts I made to him about you, I was not put to shame. But just as everything we said to you was true, so also our boasting before Titus has proved true. )
7:15 “และความรักที่เขามีต่อพวกท่านก็เพิ่มพูนขึ้น เมื่อเขาระลึกถึงความเชื่อฟังของพวกท่าน และการที่พวกท่านทุกคนต้อนรับเขาด้วยความเกรงกลัวและตัวสั่น”
(And his affection for you is even greater, as he remembers the obedience of you all, how you received him with fear and trembling.)
7:16 “ข้าพเจ้าชื่นชมยินดี เพราะข้าพเจ้ามั่นใจพวกท่านได้อย่างเต็มที่”
(I rejoice, because I have complete confidence in you.)
ข้อมูลมีประโยชน์
7:1 “จงมีความบริสุทธิ์” (holiness) –1ธส.4:7;1ยน.3:3
7:2 “จงเปิดใจรับเราเถิด” (Make room in your hearts) = สรุปความคิดของ 6:13
“เราไม่ได้ทำผิด….ทำลาย…หรือเอาเปรียบใครเลย” (We have wronged …. corrupted … taken advantage of no one) = ผู้สอนผิดกล่าวหาเปาโลในหลายเรื่อง รวมทั้งว่า เปาโลไม่ยุติธรรม บ่อนทำลายและฉ้อฉล (ซึ่งล้วนแต่เป็นความผิดที่พวกเขาทำเอง)
7:3 “ท่านทั้งหลายอยู่ในใจของเรา” (you are in our hearts) = อีกครั้งที่เปาโลยืนยันถึงความรักอันลึกซึ้งที่ท่านมีต่อผู้เชื่อในเมืองโครินธ์และโน้มนำเขา (6:11-13 ให้พวกเขาสนองตอบด้วยความรักต่อท่าน)
7:4 “ข้าพเจ้าไว้ใจและภูมิใจในพวกท่านมาก” (I am acting with great boldness toward you)
–2คร.7:14;8:24
“ข้าพเจ้าได้รับการหนุนใจอย่างบริบูรณ์และมีความยินดีอย่างเหลือล้น” (I have great pride in you; I am filled with comfort ) = ข่าวคราวจากโครินธ์ ที่ อ.เปาโลรอคอยอย่างกระวนกระวายเป็นไปในทางดี และทำให้ อ.เปาโลมั่นใจขึ้นอีกครั้ง และมีความยินดีชื่นชมอย่างท่วมท้น เมื่อได้รับข่าวนั้น
7:5 “เพราะว่าเมื่อมาถึงแคว้นมาซิโดเนีย” ((For even when we came into Macedonia) = เมื่อ อ.เปาโลและทิตัสมาถึง ตอนนี้ อ.เปาโลกลับไปเล่าเรื่องต่อจากที่เริ่มไว้ใน 2:12-13 ซึ่งท่านได้บรรยายว่า ผิดหวังที่ไม่ได้พบกับทิตัสที่เมืองโตรอัส และกล่าวถึงการตัดสินใจเดินทางต่อไปยังแคว้นมาซิโดเนีย เพราะร้อนใจอยากทราบข่าวจากคริสตจักรที่เมืองโครินธ์
-ในตอนนี้ อ.เปาโลอธิบายว่า เมื่อมาถึงมาซิโดเนียท่านรับการปลอบโยน เพราะทิตัสมาถึง ซึ่งทิตัสก็ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในเมืองโครินธ์ และให้ความมั่นใจแก่ อ.เปาโล (ข.7) ถึงความ “อาลัย” และความ “กระตือรือร้น” ของชาวโครินธ์ ที่มีต่อท่าน รวมทั้ง “ความโศกเศร้า” หรือความเศร้าเสียใจอย่างลึกซึ้ง ที่พวกเขาได้แสดงออกเนื่องจากทำให้ อ.เปาโลทุกข์โศก เป็นเหตุที่ทำให้ อ.เปาโลมีความยินดีมากขึ้นกว่าก่อน –ปท.1:1;ฟป.4:14
7:6 “พระเจ้าผู้ทรงหนุนใจคนที่ท้อใจ” (God, who comforts the downcast) = ทรงปลอบประโลมคนที่ท้อแท้ (1:3; ปท. สดด.42:5,11;43:5)
7:8 “ทำให้ท่านเสียใจ เพราะจดหมายฉบับนั้น” ( I made you grieve with my letter) –อ.เปาโลเสียใจที่จำเป็นต้องเขียนจดหมายที่ทำให้ชาวโครินธ์เศร้าโศก จดหมายที่กล่าวถึงนี้ อาจหมายถึง 1 โครินธ์ หรือ 2โครินธ์ 10-13 แต่ดูเหมือน อ.เปาโลกล่าวถึง จดหมายฉบับที่หายไปแล้วมากกว่า และเป็นจดหมายที่ท่านเขียนขึ้น หลังจากที่ท่านแวะไปและทำให้พวกเขาเกิดความทุกข์โศกใน 2:1
7:10 “ความเสียใจตามพระสงค์ของพระเจ้า…ความเสียใจอย่างโลก” (godly grief produces …whereas worldly) = ความเศร้าเสียใจที่อยู่ในทางของพระเจ้า ที่แสดงออกมาโดยการกลับใจใหม่และมีประสบการณ์
กับพระคุณของพระเจ้า
แต่ความเสียใจอย่างโลกนั้นนำไปสู่ความตาย เพราะแทนที่จะเสียใจ ตามพระประสงค์ของพระเจ้า หรือเสียใจและกลับใจจากความชั่วร้ายของบาป กลับไปโศกเศร้าเสียใจโดยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และเสียใจเพราะต้องรับผลอันเจ็บปวดเพราะบาปที่ตนเองก่อเกิดขึ้น
7:11 “ความกระตือรือร้น” (eagerness) –2คร.7:7
7:12 “ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านทั้งหลาย” (I wrote to you) -2คร.2:3,9;7:8
“ก็ไม่ใช่เพราะเห็นแก่คนที่ทำผิด” (it was not for the sake of the one who did the wrong)
–1คร.5:1,2
7:13 “ทิตัส” ( Titus) –2คร.2:13;7:6
7:14 “ข้าพเจ้าอวดเรื่องท่านแก่ทิตัส” (I made to him about you ) –2คร.7:4
“สิ่งที่เราอวดกับทิตัส” (our boasting before Titus) –2คร.7:6
7:15 “ความเชื่อฟัง” ( obedience) = ดูเหมือนว่า เมื่อทิตัสออกจากเมืองโครินธ์ และรายงานต่อเปาโลก็ไม่มีกลุ่มต่อต้านที่แข็งแรงอีกแล้ว (10:1)
คำถามนำอภิปราย
- ในเวลานี้มีอะไรที่ทำให้กายและจิตวิญญาณของคุณแปดเปื้อนบ้าง? และคุณจะชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ได้อย่างไร?
- เวลานี้คุณยังเปิดใจรับใครไม่ได้บ้าง? เพราะอะไร? และคุณจะอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปหรือจะทำให้ดีกว่านั้น?และอย่างไร?
- คุณเคยเป็นเหตุให้ใครทำบาป หรือคุณเคยฉกฉวยหาประโยชน์จากใคร และเวลานี้คุณรู้สึกเสียใจ และกลับใจใหม่แล้วบ้างหรือไม่? หรือมีใครที่ทำบาปหรือหาประโยชน์จากคุณ แต่เวลานี้กลับใจใหม่แล้ว? อย่างไร?
- มีใครที่ทำผิดต่อคุณมาหลายครั้งแล้ว แต่คุณยังรักและให้อภัยเขาอยู่เสมอ? แล้วผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร? คุณรู้สึกอย่างไร?
- คุณเคยได้รับกำลังใจอย่างใหญ่หลวงจากใครบ้าง ในยามที่คุณเผชิญกับความยากลำบากจนคุณซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก? (แบ่งปัน)
- คุณเคยประสบกับสภาวะที่ถูกก่อกวนจนไม่ได้พัก และมีใจหวาดหวั่น แต่พระเจ้าทรงช่วยคุณไว้ บ้างหรือไม่?อย่างไร?
- คุณเคยช่วยหรือปลอบประโลมใจผู้ใดที่ทำให้เขามีกำลังต่อสู้ชีวิตต่อไปได้? แบ่งปัน
- คุณเคยทำให้ผู้ใดเสียใจ แต่คุณไม่เสียใจที่คุณได้ทำเช่นนั้นบ้างหรือไม่? ทำไม? และอย่างไร?
- เคยมีผู้ใดทำให้คุณเสียใจ แต่ได้เห็นคุณไม่โกรธเขาบ้างหรือไม่? ทำไม? และเรื่องอะไร?
- คุณเคยสุขใจ เพราะคนบางคนสุขใจบ้างหรือไม่? ทำไม? และอย่างไร?
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์