ข้าพเจ้ายินดี เมื่อเขากล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “ให้เราไปยังพระนิเวศพระเจ้าเถิด” (สดุดี 122:1)
ผมคิดว่าบางครั้งเรามาโบสถ์ด้วยจุดยืนเดียวกับผู้บริโภคมากกว่ามาร่วมรับใช้ เราอาจเห็นการมาโบสถ์เหมือนกับไปดูหนัง :
“เอ๊ะ หนังฉายกี่โมง? หนึ่งทุ่มเหรอ? แต่ยี่สิบนาทีแรกมีแต่หนังตัวอย่างและโฆษณา งั้นไปสักทุ่มกว่าๆแล้วกัน จอดรถแล้วไปหาอะไรกินก่อน” แล้วพอหนังเลิก เราไม่อยู่รอจนรายชื่อผู้มีส่วนในการผลิตฉายจนจบ เรารีบออกไปก่อน
เราอาจคิดในแง่เดียวกันกับการไปโบสถ์ : “ไม่เป็นไรตอนนี้ร้องเพลงกันอยู่ไม่ต้องรีบ … ขออ่านไลน์ อ่านเมล์ ส่งข้อความก่อน … อ้อ วันนี้มีธุระด้วยต้องออกก่อนเลิกสักครึ่งชั่วโมง”
แต่นี่ไม่ใช่วิธีการมาโบสถ์นะครับ โบสถ์คือสถานนมัสการ เป็นพระนิเวศของพระเจ้า และผู้เชื่อคือครอบครัวของพระองค์ เราจึงต้องปรับวิธีคิดใหม่ นมัสการไม่ใช่การแสดงฉากแรก แต่เป็นการอธิษฐานด้วยเสียงเพลง เป็นเวลาที่เราใช้สื่อสารพูดคุยกับพระเจ้าผ่านบทเพลงต่างๆ
และเราไม่ควรไปโบสถ์เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ มีผู้เชื่อบางคนไปโบสถ์นั้นทีโบสถ์นี้ที ร่อนเร่ไปเรื่อยๆ เพราะพวกเขาชอบการนมัสการของบางโบสถ์ แต่ชอบคำเทศนาของอีกโบสถ์ สิ่งนี้ไม่ดีกับชีวิตฝ่ายวิญญาณของใครเลย
เราจำเป็นต้องไปโบสถ์ของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อวางรากฐานและเรียนรู้เรื่องพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง เรายังจำเป็นต้องมีที่ๆได้รับความไว้วางใจจากคนรอบข้าง คนที่ช่วยเราในยามทุกข์ยากหรือผิดพลาด … และเราเองต้องคอยช่วยเหลือผู้อื่นด้วย เราจำเป็นต้องมีที่ๆช่วยให้เราพัฒนาของประทานฝ่ายวิญญาณเพื่อร่วมรับใช้พระเจ้ากับพี่น้องผู้เชื่อ
คริสตจักรจึงเป็นเหมือนโอเอซิสแห่งความหวังในดินแดนที่แห้งผาก ท้อแท้ และสิ้นหวัง
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514