Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

2โครินธ์ บทที่ 2

จงให้อภัยเถิด!

พระธรรม        2โครินธ์ 2:17

อ้างอิง             2คร.12:21;10:6;9:13;8:18-22;7:6-13;15-16;5:12;4:3-4;3:5-6;1คร.5:1-2,4-8;1:18

บทนำ           อาจจะมีคนบางคนกระทำผิดบางอย่างที่ต้องได้รับการลงวินัย หรือการลงโทษ อาจจะมีบางเวลาที่การลงโทษ/ลงวินัยคน ๆ นั้นสมควรยุติลง และเป็นเวลาแห่งการเล้าโลมใจให้โอกาสเริ่มต้นใหม่แก่คนผู้นั้น การให้อภัยแก่คนทำผิดที่กลับใจใหม่เป็นสิ่งที่เราสมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง!

บทเรียน

 2:1 “เพราะข้าพเจ้าตั้งใจไว้ว่าจะไม่มาทำให้พวกท่านเกิดความทุกข์โศกอีก” 

               (For I made up my mind not to make another painful visit to you.)

2:2 “เพราะถ้าข้าพเจ้าทำให้พวกท่านทุกข์โศก ใครเล่าจะทำให้ข้าพเจ้ายินดี ถ้าไม่ใช่คนที่ข้าพเจ้าทำให้ทุกข์โศก?” 

               (For if I cause you pain, who is there to make me glad but the one whom I have pained? )

2:3 “ข้าพเจ้าเขียนข้อความนั้นเพื่อว่า เมื่อมาถึงแล้วข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความทุกข์โศกจากคนเหล่านั้นที่ควรจะทำให้ข้าพเจ้าชื่นชมยินดี ข้าพเจ้ามั่นใจในท่านทุกคนว่า เมื่อข้าพเจ้ายินดี พวกท่านทุกคนก็จะยินดีด้วย” 

     (And I wrote as I did, so that when I came I might not suffer pain from those who should have  made me rejoice, for I felt sure of all of you, that my joy would be the joy of you all. )

2:4 “เพราะว่าข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงพวกท่านด้วยความยากลำบากและระทมใจอย่างยิ่งรวมทั้งน้ำตาไหลมากมาย ไม่ใช่เพื่อจะทำให้พวกท่านทุกข์โศก แต่เพื่อให้ท่านรู้จักความรักมากมายที่ข้าพเจ้ามีต่อท่านทั้งหลาย”

     (For I wrote to you out of much affliction and anguish of heart and with many tears, not to cause  you pain but to let you know the abundant love that I have for you.)

2:5 “ถ้าคนไหนทำให้เกิดความทุกข์โศก คนนั้นก็ไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าทุกข์โศกเพียงคนเดียว แต่ยังทำให้พวกท่านเป็นทุกข์ด้วยบ้าง (ที่ว่า “บ้าง” นั้นก็เพื่อจะไม่พูดแรงเกินไป)” 

     (Now if anyone has caused pain, he has caused it not to me, but in some measure—not to put it  too severely—to all of you.)

2:6 “การที่คนส่วนมากได้ลงโทษคนนั้นก็พอแล้ว” 

     (For such a one, this punishment by the majority is enough,)

2:7 “ฉะนั้นท่านทั้งหลายควรจะยกโทษและปลอบใจคนนั้นมากกว่า เพื่อว่าเขาจะไม่จมลงในความทุกข์มากมาย”

(so you should rather turn to forgive and comfort him, or he may be overwhelmed by excessive sorrow.) 

2:8 “ดังนั้นข้าพเจ้าขอร้องพวกท่านให้ยืนยันความรักต่อคนนั้นใหม่” 

     (So I beg you to reaffirm your love for him.)

2:9 “นี่คือเหตุที่ข้าพเจ้าได้เขียนถึงพวกท่านก่อนหน้านี้ คือจะทดสอบพวกท่านดูว่าท่านจะยอมเชื่อฟังในทุกเรื่อง หรือไม่” 

     (For this is why I wrote, that I might test you and know whether you are obedient in everything.)

2:10 “ถ้าพวกท่านยกโทษให้ใคร ข้าพเจ้าก็จะยกโทษให้เขาด้วย และถ้าข้าพเจ้ายกโทษเรื่องอะไรไป (ถ้ามีเรื่องใดที่ข้าพเจ้าจะต้องยกโทษให้) ข้าพเจ้าก็ทำเฉพาะพระพักตร์พระคริสต์เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลาย” 

     (Anyone whom you forgive, I also forgive. Indeed, what I have forgiven, if I have forgiven anything, has been for your sake in the presence of Christ,)

2:11 “เพื่อไม่ให้ซาตานได้เปรียบเรา เพราะเรารู้กลอุบายของมันแล้ว”

     (so that we would not be outwitted by Satan; for we are not ignorant of his designs.)

2:12 “เมื่อข้าพเจ้าไปถึงเมืองโตรอัสเพื่อประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์นั้น มีช่องทางเปิดให้กับข้าพเจ้าโดยองค์พระผู้เป็นเจ้า”

       (When I came to Troas to preach the gospel of Christ, even though a door was opened for me in the Lord,)

2:13 “แต่ข้าพเจ้ายังไม่มีความสบายใจเลย เพราะไม่พบทิตัสน้องของข้าพเจ้าที่นั่น ข้าพเจ้าจึงอำลาพวกนั้นและเดินทางไปยังแคว้นมาซิโดเนีย”

       (my spirit was not at rest because I did not find my brother Titus there. So I took leave of them  and went on to Macedonia.)

2:14 “แต่ขอบพระคุณพระเจ้า ผู้ทรงนำเราด้วยความมีชัยในขบวนฉลองชัยเสมอมาในพระคริสต์ และพระองค์ประ‌ทานกลิ่นหอมที่เกิดจากการรู้จักพระองค์ ให้ปรากฏทั่วทุกแห่งโดยเรา” 

     (But thanks be to God, who in Christ always leads us in triumphal procession, and through us  spreads the fragrance of the knowledge of him everywhere.)

2:15 “เพราะว่าเราเป็นกลิ่นหอมหวานที่พระคริสต์ถวายแด่พระเจ้าในหมู่คนที่กำลังจะรอด และในหมู่คนที่กำลังจะพินาศ”

                 (For we are the aroma of Christ to God among those who are being saved and among those  who are perishing, )

2:16 “สำหรับพวกหนึ่งเป็นกลิ่นของความตายที่นำไปสู่ความตาย และอีกพวกหนึ่งเป็นกลิ่นของชีวิตที่นำไปสู่ชีวิตใครเล่าเหมาะสมกับพันธกิจที่กล่าวมานี้” 

         (to one a fragrance from death to death, to the other a fragrance from life to life. Who is sufficient  for these things? )

2:17 “เพราะว่าเราไม่เหมือนคนมากมายที่หากำไรจากพระวจนะของพระเจ้า แต่เรากล่าวโดยพึ่งพระคริสต์อย่างคนที่จริงใจ เหมือนอย่างคนที่มาจากพระเจ้า และอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า”

    (For we are not, like so many, peddlers of God’s word, but as men of sincerity, as commissioned by God, in the sight of God we speak in Christ.)

 ข้อมูลมีประโยชน์

 2:1       “…จะไม่ทำให้พวกท่านเกิดความทุกข์โศกอีก” (…not to make another painful visit to you) = จะไม่แวะมาทำให้เจ็บปวดอีกครั้ง (2คร.1:23) อ.เปาโล ทำให้ชาวโครินธ์เจ็บปวดมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงไม่อยากไปเยี่ยมในลักษณะเดียวกันอีก แม้ว่าท่านจะมีสิทธิอำนาจที่สามารถใช้ได้เมื่อจำเป็น (ปท.13:2)

-ไม่ใช่เกิดขึ้นในครั้งแรกตอนที่ตั้งคริสตจักร ดังนั้น ต้องเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งยืนยันใน 12:14;13:1

-อ.เปาโลบอกว่า จะไปเยี่ยมอีกเป็นครั้งที่ 3

-การไปเยี่ยมครั้งที่ 2 อาจอยู่ในช่วงระหว่างการเขียน 1 โครินธ์ กับ 2 โครินธ์

2:2       “เพราะถ้าข้าพเจ้าทำให้พวกท่านทุกข์โศก” (if I cause you pain) –2คร.7:8

2:3       “ข้าพเจ้าเขียนข้อความนั้น” (I wrote as I did) –2คร.2:4,9;7:8,12

“จะไม่ได้รับความทุกข์โศก” (I might not suffer pain) –2คร.12:21

“ข้าพเจ้ามั่นใจ” (I felt sure ) –2คร.7:16;8:22;กท.5:10;2ธส.3:4;ฟม.21

2:4       “เพราะว่าข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงพวกท่าน” (I wrote to you) – 2คร.2:3,9;7:8,12

2:5-11  -ในตอนนี้กำลังกล่าวถึง สมาชิกคนหนึ่งในคริสตจักร โครินธ์ ที่ทำผิดร้ายแรง และคริสตจักรได้ลงวินัยเขา และในเวลานี้ อ.เปาโลปรามชาวโครินธ์ว่า พวกเขาควรยุติการลงโทษได้แล้ว เพราะว่า ผู้กระทำผิดได้สำนึกผิดจริง ๆ และกลับใจจากบาปนั้นแล้ว พวกเขาจึงควรเห็นใจและต้อนรับคน ๆ นั้นให้กลับคืนสู่สามัคคีธรรมของคริสตจักร (เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นในตอนที่ อ.เปาโลไปเยี่ยมเยียน และอาจส่งให้มีการลงวินัยผู้นั้น (3-4) แต่บางทัศนะเชื่อว่า อ.เปาโล หมายถึงเหตุการณ์ใน 1 โครินธ์ 5)

2:5       “ถ้าคนไหนทำให้เกิดความทุกข์โศก” (if anyone has caused pain) -1คร.5:1,2

2:6       “ได้ลงโทษ” (this punishment) –1คร.5:4,5;2คร.7:11

2:7       “ท่านทั้งหลายควรจะยกโทษและปลอบใจคนนั้นมากกว่า” (you should rather turn to forgive and comfort him) -กท.6:1;อฟ.4:32;คส.3:13;2คร.1:3-7

2:9       “จะทดสอบพวกท่านดูว่า ท่านจะยอมเชื่อฟังในทุกเรื่องหรือไม่?“ (I might test you and know whether you are obedient in everything.) –2คร.7:15;10:6

2:11     “เพื่อไม่ให้ซาตานได้เปรียบเรา” (so that we would not be outwitted by Satan) –เพื่อไม่ให้เสียทีซาตาน (มธ.16:23;1ยน.3:8; ปท.อุบายของซาตาน –ปฐก.3:1;ลก.22:31;ยน.8:44;1ปต.5:8

2:12     “เมืองโตรอัส” (Troas ) –เปาโล เดินทางจากเอเฟซัสขึ้นไปเมืองโตรอัส (ซึ่งอยู่บนชายฝั่งทะเล อีเจียน กจ.16:8) หวังจะพบทิตัสที่นั่น และอาจได้ข่าวเกี่ยวกับคริสตจักรโครินธ์ จึงเดินทางไปแคว้นมาซิโดเนีย     (ข.13) บางทีอาจไปเมืองฟิลิปปี

“มีช่องทางเปิดให้กับข้าพเจ้า” (a door was opened for me) -กจ.14:27;วว.3:8;

ปท. 1คร.16:9;คส.4:3

2:13     “น้องของข้าพเจ้า” (my brother ) –ปท.8:23 -อ.เปาโลให้เกียรติและวางใจมอบหมายให้ทิตัสเป็นผู้จัดการรวบรวมทุนในโครินธ์ เพื่อช่วยเหลือคริสเตียนที่ขัดสนในกรุงเยรูซาเล็ม (8:6) และให้เขาถือจดหมายไปยังเมืองโครินธ์ (8:16-17)

2:14     “แต่ขอบคุณพระเจ้า” (But thanks be to God) = ในตอนนี้ อ.เปาโลพักเรื่องการเดินทางของท่านลง แล้วออกนอกเรื่องไป (ก่อนจะกลับเข้ามาอีกทีใน 7:5) แต่ยังคงเกี่ยวข้องกับประเด็นของจดหมายฉบับนี้ โดยพรั่งพรูความเชื่อที่มีชัยออกมาเป็นคำขอบคุณและสรรเสริญพระเจ้าที่มีพระคุณเพียงพอเสมอสำหรับในทุกสถานการณ์

“ผู้ทรงนำเราด้วยความมีชัย” ( who in Christ always leads us in triumphal procession) =ภาพแห่งชัยชนะของกองทัพโรม ที่แม่ทัพจะนำทหารของตน รวมทั้งเชลยศึกมาในขบวนฉลองรื่นเริง โดยมีผู้คนเฝ้าดู ปรบมือยินดีและบรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นหอมซึ่งถูกเผาอยู่ตามถนนหนทาง –(ปท.1คร.4:9)

“ให้ปรากฏทั่วทุกแห่ง” (of the knowledge of him everywhere) –1ธส.1:8

2:15     “เพราะว่าเราเป็นกลิ่นหอมหวาน” (For we are the aroma) –ปฐก.8:21;อพย.29:18;กดว.15:31; 2คร.2:14

“ในหมู่คนที่กำลังจะพินาศ” (among those who are perishing) –1คร.1:18

2:16     “กลิ่นของความตาย…กลิ่นของชีวิต” (a fragrance from death to death… a fragrance from life to life.) -กลิ่นของข่าวประเสริฐผ่านคำพยานที่ดีของคริสเตียนเป็นกลิ่นหอมหวาน แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้รับ ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ “คนที่กำลังจะรอด” กับ “คนที่กำลังจะพินาศ” (ข.15)

-สำหรับพวกที่ 2 นั้น คริสเตียนที่เป็นพยาน(ไม่ใช่เพราะข่าวประเสริฐ) คือ กลิ่นแห่งความตาย เพราะว่าพวกเขาปฏิเสธพระคุณของพระเจ้าที่จะช่วยชีวิตของเขา เขาจึงต้องได้รับความตายซึ่งเป็นการเลือกของตัวเขาเอง แต่สำหรับคนที่ต้อนรับข่าวประเสริฐและพระคุณของพระเจ้า คำพยานของคริสเตียนก็เป็นดุจกลิ่นหอมหวานแห่งชีวิต

“ใครเล่าเหมาะสมกับพันธกิจที่กล่าวมานี้” (Who is sufficient for these things? ) -3:4-6

2:17     “เราไม่เหมือนคนมากมายที่หากำไรจากพระวจนะของพระเจ้า” (we are not, like so many, peddlers of God’s word) = ไม่เร่ขายพระวจนะของพระเจ้าเพื่อหากำไร

-อ.เปาโลกำลังหมายถึง ผู้สอนเทียมเท็จที่แทรกซึมเข้ามาในคริสตจักรโครินธ์ ทั้งไม่จริงใจ เย่อหยิ่ง อวดตัว

สร้างภาพให้ดึงดูดใจผู้อื่น แต่สิ่งที่พวกเขาสนใจคือ เงินจากสมาชิกที่เชื่อคนง่าย (ปท. มคา.3:5,11)

-แต่ อ.เปาโล เทศนาด้วยความจริงใจ ไม่คิดเงิน และระวังตัวไม่ให้เป็นภาระทางการเงินของคริสตจักร

โครินธ์ (11:7-9;1คร.9:7-15)

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยทำให้ผู้ใดเจ็บปวดบ้าง? เรื่องอะไร? เป็นความผิดของผู้ใด? คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?
  2. คุณเคยทำให้ผู้ใดเสียใจ แต่เกิดผลดีในภายหลังบ้างไหม? เรื่องอะไร?
  3. คุณเคยจัดการกับผู้ที่กระทำผิดในคริสตจักรหรือในที่อื่นใด ที่สร้างความเศร้าเสียใจให้แก่คุณ และหลาย ๆ คนบ้างไหม? คุณทำอย่างไร? แล้วผลออกมาคืออะไร?
  4. คุณเคยเห็นการลงโทษหรือลงวินัยกับบุคคลหนึ่งบุคคลใดที่หนักเกินไปหรือยาวนานเกินไปกับกรณีใดกรณีหนึ่งที่คุณคิดว่า น่าจะเพียงพอแล้วบ้างหรือไม่? แล้วคุณทำอะไรบ้าง?
  5. คุณเคย “ยืนยันความรัก” ต่อคนกระทำผิดคนใดหรือขอให้คนอื่นกระทำเช่นนั้นบ้างหรือไม่? เหตุการณ์คืออะไร? และคุณทำอย่างไร? แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร?
  6. เวลานี้มีเรื่องใดบ้างที่คุณรู้ว่า ควรทำ แต่คุณยังคงไม่ยอมเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้าหรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงดลใจคุณให้กระทำ เพราะว่าใจของคุณไม่ยอมยกโทษให้แก่ผู้ที่กระทำบางอย่างที่ทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดบ้าง? คุณจะทำเช่นนี้ต่อไปหรือปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง? อย่างไร?
  7. เวลานี้มีประตู หรือช่องทางในการประกาศข่าวประเสริฐใดบ้างที่พระเจ้าให้คุณได้เห็น? แล้วคุณจะทำอะไรหรือไม่? และอย่างไร เพื่อฉวยโอกาสนั้นด้วยความเชื่อฟังพระเจ้า?
  8. เวลานี้ คุณกำลังเป็นกลิ่นหอมของพระคริสต์อยู่หรือไม่? อย่างไร? มีผู้ใดบ้างที่ได้รับความรอด เพราะชีวิตของคุณเป็นกลิ่นหอมแห่งชีวิตของพระคริสต์?

ก………………………………………………..

ข…………………………………………………

** มีผู้ใดบ้างที่ปฏิเสธความรอดที่คุณนำเสนอให้ และคุณเสียใจมาก? แล้วคุณจะช่วยเขาได้อย่างไร?

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

 

 

 

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.