เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น (2โครินธ์ 5:17)
ทุกคนต่างมีโลกทัศน์เป็นของตนเอง ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ โลกทัศน์ของคุณตั้งอยู่บนพื้นฐานระบบความเชื่อของคุณ วิธีที่คุณมองโลกผ่านเลนส์ความคิดและชีวิตคุณเอง โลกทัศน์นั้นสำคัญเพราะเป็นตัวบ่งชี้ทัศนคติ วิธีตัดสินใจ และการกระทำในชีวิตคุณ
มันเป็นแรงผลักดันและขับเคลื่อนเบื้องหลังการกระทำของคุณ สิ่งที่เร้าหรือกระตุ้นอยู่ภายในเราที่ผลักดันให้เราเลือกเดินไปบนบางเส้นทางในชีวิต และตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ ไม่ว่าดีหรือชั่ว
เราสามารถหลอมละลายโลกทัศน์ทุกรูปแบบมารวมกันเป็นสองประเภทหลักๆ : ให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลาง หรือ ให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง ถ้าคุณเป็นคริสเตียน โลกทัศน์สำหรับชีวิตคุณควรมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งแปลว่าพระคริสต์นั้นเพียงพอ และเป็นผู้ครอบครองในทุกพื้นที่ของชีวิต มุมมองนี้คุณจะมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลางในทุกแนวคิดและการตัดสินใจ
แต่ที่แย่คือ หลายคนวางตนเองเป็นศูนย์กลางของชีวิต โลกทัศน์ที่ให้มนุษย์เป็นศูนย์กลางกล่าวว่า พื้นฐานมนุษย์แล้วเป็นคนดี มีความสามารถพึ่งพิงและดูแลตนเองได้ ไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้า
อะไรคือสิ่งที่ผลักดันและขับเคลื่อนในชีวิตคุณ? โลกทัศน์ของคุณมีผลกระทบต่อการตัดสินใจหรือการกระทำของคุณในแต่ละวันหรือไม่? คำถามพวกนี้น่าคิดนะครับ ถ้าคุณดำเนินชีวิตโดยมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลางของชีวิต คุณจะมีประสบการณ์แห่งความชื่นชมยินดี มีสันติสุข และเติมเต็มเกินกว่าคุณจะจินตนาการได้
ให้แน่ใจนะครับว่าโลกทัศน์ของคุณมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง
ถ้าไม่ใช่ ใครคือศูนย์กลางในชีวิตคุณครับ?
อนุญาตโดย : Pastor Jack Graham
Jack Graham Power Point Ministry : www.jgraham.org