Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

1โครินธ์ บทที่ 15

พวกที่น่าสมเพชที่สุด!

 พระธรรม        1โครินธ์ 15:12-34

อ้างอิง             ยน.11:24;1ธส.2:19;4:14;1คร.4:9;6:14;3:23;กจ.2:24;17:32;23:8;26:23;รม.4:25;5:12,14-18;8:38; 2ทธ.2:18;2ปต.1:11;มธ.9:24;22:44;1ปต.1:3;ดนล.2:44;7:14,27

บทนำ             หากพระคริสต์ไม่ได้เป็นขึ้นมาจากความตาย พวกคริสเตียนจะเป็นพวกที่น่าสมเพชเวทนามากที่สุด เพราะหลงผิดหลงเชื่อความเท็จมาตลอด แต่เพราะว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาจากตายแล้วจริง ๆ พวกคริสเตียนจึงเป็นพวกที่มีความสุขที่สุด เพราะว่าพวกเรามั่นใจว่า พวกเราจะเป็นขึ้นมาจากตาย และอยู่กับพระเจ้าอย่างเป็นสุขตลอดไปเป็นนิตย์

บทเรียน

15:12 “ถ้า​เรา​ประ‌กาศ​ว่า​พระ‍คริสต์​ทรง​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย​แล้ว ทำไม​บาง‍คน​ใน​พวก‍ท่าน​จึง​พูด​ว่า​การเป็น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย​ไม่‍มี?”

         (Now if Christ is proclaimed as raised from the dead, how can some of you say that there is no  resurrection of the dead?)

15:13 “ถ้า​การ​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย​ไม่‍มี พระ‍คริสต์​ก็​ไม่​ทรง​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา”

          (But if there is no resurrection of the dead, then not even Christ has been raised. )

15:14 “ถ้า​พระ‍คริสต์​ไม่​ทรง​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา การ​ประ‌กาศ​ของ​เรา​นั้น​ก็​ไร้​ประ‌โยชน์ และ​ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน‍ทั้ง‍หลาย​ก็​ไร้​ประ‌โยชน์​ด้วย”

          (And if Christ has not been raised, then our preaching is in vain and your faith is in vain.) 

15:15 “และ​คน​ก็​จะ​เห็น​ว่า​เรา​เป็น​พยาน‍เท็จ​ใน​เรื่อง​พระ‍เจ้า เพราะ​เรา​เป็น​พยาน​ว่า​พระ‍องค์​ทรง​ทำ​ให้​พระ‍คริสต์​เป็น​ขึ้น​มา​แล้ว แต่​ถ้า​คน‍ตาย​ไม่​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา​แล้ว พระ‍คริสต์​ก็​ไม่‍ได้​เป็น​ขึ้น​มา”

     (We are even found to be misrepresenting God, because we testified about God that he raised Christ, whom he did not raise if it is true that the dead are not raised. )

15:16 “เพราะ‍ว่า​ถ้า​คน‍ตาย​ไม่​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา พระ‍คริสต์​ก็​ไม่‍ได้​ทรง​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา”

                 (For if the dead are not raised, not even Christ has been raised.)

15:17 “และ​ถ้า​พระ‍คริสต์​ไม่‍ได้​ทรง​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา ความ​เชื่อ​ของ​พวก‍ท่าน​ก็​ไร้​ประ‌โยชน์ ท่าน​ก็​ยัง​คง​อยู่​ใน​บาป​ของ​ตน”

            (And if Christ has not been raised, your faith is futile and you are still in your sins.)

15:18 “และ​ถ้า​อย่าง‍นั้น​คน​ทั้ง‍หลาย​ที่​ล่วง‍หลับ​ใน​พระ‍คริสต์​ก็​พินาศ​ไป​ด้วย”

           (Then those also who have fallen asleep in Christ have perished.)

15:19 “ถ้า​เรา​มี​ความ​หวัง​ใน​พระ‍คริสต์​เพียง​แค่​ใน​ชีวิต​นี้ เรา​ก็​เป็น​พวก​น่า‍เวท‌นา​ที่‍สุด​ของ​คน​ทั้ง‍หมด”

           (If in Christ we have hope in this life only, we are of all people most to be pitied.)

15:20 “แต่​บัด‍นี้ พระ‍คริสต์​ทรง​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย​แล้ว และ​ทรง​เป็น​ผล‍แรก​ของ​พวก​ที่​ล่วง‍หลับ​ไป”

               (But in fact Christ has been raised from the dead, the firstfruits of those who have fallen asleep.) 

15:21 “เพราะ​ว่า​ใน​เมื่อ​ความ​ตาย​เกิด‍ขึ้น​โดย​มนุษย์​คน​หนึ่ง การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย​ก็​เกิด‍ขึ้น​โดย​มนุษย์​คน​หนึ่ง​เช่น‍กัน”

               (For as by a man came death, by a man has come also the resurrection of the dead.)

15:22 “เพราะ‍ว่า​เช่น​เดียว​กับ​ที่​ทุก​คน​ต้อง​ตาย​โดย​เกี่ยว​เนื่อง​กับ​อา‌ดัม ทุก​คน​ก็​จะ​ได้​รับ​ชีวิต​โดย​เกี่ยว​เนื่อง​กับ​พระ‍คริสต์”

               (For as in Adam all die, so also in Christ shall all be made alive.)

15:23 “แต่​ว่า​จะ​เป็น​ไป​ตาม​ลำ‌ดับ คือ​พระ‍คริสต์​ทรง​เป็น​ผล​แรก ต่อ‍จาก‍นั้น​ก็​คือ​คน​ทั้ง‍หลาย​ที่​เป็น​ของ​พระ‍คริสต์​ใน​เวลา​ที่​พระองค์​เสด็จ​กลับ‍มา”

               (But each in his own order: Christ the firstfruits, then at his coming those who belong to Christ.)

15:24 “แล้ว​ก็​จะ​เป็น​เวลา​อวสาน​ซึ่ง​พระ‍คริสต์​จะ​ทรง​มอบ​อาณา‌จักร​แด่​พระ‍เจ้า​พระ‍บิดา และ​จะ​ทรง​ทำ‍ลาย​ภูต‍ผี​ที่​ครอบ‍ครอง​ทั้ง‍หมด ภูต‍ผี​ที่​มี​สิทธิ‍อำนาจ​และ​ที่​มี​ฤทธา‌นุ‌ภาพ” 

        (Then comes the end, when he delivers the kingdom to God the Father after destroying every rule and every authority and power)

15:25 “เพราะ‍ว่า​พระ‍คริสต์​ทรง​ต้อง​ครอบ‍ครอง​จน‍กว่า​พระ‍เจ้า​จะ​ทรง​ปราบ​ศัตรู​ทั้ง‍หมด​ให้​อยู่​ใต้​พระ‍บาท​ของ​พระ‍คริสต์”

         (For he must reign until he has put all his enemies under his feet.)

15:26 “ศัตรู​ตัว​สุด‍ท้าย​ที่​จะ​ถูก​ทำ‍ลาย​คือ​ความ​ตาย”

         (The last enemy to be destroyed is death. )

15:27 “เพราะ‍ว่า “พระ‍เจ้า​ทรง​ให้​ทุก‍สิ่ง​อยู่​ใต้​อำนาจ​ภาย‍ใต้​พระ‍บาท​ของ​พระ‍บุตร” แต่​เมื่อ​พระ‍คัมภีร์​กล่าว​ว่า​ทรง​ให้​ทุก‍สิ่ง​อยู่​ใต้​อำนาจ​นั้น ก็​รู้​ชัด​กัน​อยู่​แล้ว​ว่า ยก​เว้น​พระ‍เจ้า​ผู้​ทรง​ให้​ทุก‍สิ่ง​อยู่​ใต้​อำนาจ​พระ‍องค์”

    (For “God has put all things in subjection under his feet.” But when it says, “all things are put  in subjection,” it is plain that he is excepted who put all things in subjection under him.)

15:28 “เมื่อ​ทุก‍สิ่ง​อยู่​ใต้​อำนาจ​พระ‍องค์​แล้ว เมื่อ​นั้น​พระ‍บุตร​พระ‍องค์​เอง​ก็​จะ​ทรง​อยู่​ใต้​อำนาจ​พระ‍เจ้า ผู้​ทรง​ให้​ทุก‍ สิ่ง​อยู่​ใต้​อำนาจ​พระ‍องค์ เพื่อ​พระ‍เจ้า​จะ​ทรง​เป็น​เอก​ใน​ทุก‍สิ่ง”

    (When all things are subjected to him, then the Son himself will also be subjected to him who put all things in subjection under him, that God may be all in all.)

15:29 “มิ‍ฉะนั้น พวก​ที่​ให้​รับ​บัพ‌ติศ‌มา​เพื่อ​คน‍ตาย​นั้น​จะ​ทำ​อย่าง‍ไร ถ้า​คน‍ตาย​ไม่​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา​เลย? และ​ทำไม​จึง​มี​การ​ให้​รับ​บัพ‌ติศ‌มา​เพื่อ​คน‍ตาย?”

      (Otherwise, what do people mean by being baptized on behalf of the dead? If the dead are not  raised at all, why are people baptized on their behalf?)

15:30 “และ​ทำไม​เรา​จึง​เสี่ยง​อัน‌ตราย​ตลอด‍เวลา?”

                (Why are we in danger every hour? )

15:31 “พี่‍น้อง​ทั้ง‍หลาย ข้าพ‌เจ้า​ตาย​ทุก​วัน ข้าพ‌เจ้า​ขอ​ยืน‍ยัน​โดย​ความ​ภูมิ‍ใจ​ใน​พวก‍ท่าน ที่​ข้าพ‌เจ้า​มี​ใน​พระ‍เยซู‍คริสต์​องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​ของ​เรา”

     (I protest, brothers, by my pride in you, which I have in Christ Jesus our Lord, I die every day!) 

15:32 “ถ้า​ข้าพ‌เจ้า​ต่อ‍สู้​กับ​สัตว์‍ป่า​ใน​เมือง​เอ‌เฟ‌ซัส​ด้วย​ความ​หวัง​แบบ​มนุษย์​เท่า​นั้น ข้าพ‌เจ้า​จะ​ได้​ประ‌โยชน์​อะไร ถ้า​คน‍ตาย​ไม่​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา ก็​ให้​เรา​กิน​และ​ดื่ม​เถิดเพราะ‍ว่า​พรุ่ง‍นี้​เรา​ก็​จะ​ตาย

     (What do I gain if, humanly speaking, I fought with beasts at Ephesus? If the dead are not raised, “Let us eat and drink, for tomorrow we die.” )

15:33 “อย่า​หลง‍ผิด​เลย “การ​คบ​คน​ชั่ว​ย่อม​ทำ‍ลาย​นิสัย​ที่​ดี‍งาม”

               (Do not be deceived: “Bad company ruins good morals.” )

15:34 “จง​มี​สติ​ขึ้น​มา​ใหม่​และ​อย่า​ทำ​บาป​อีก​เลย เพราะ‍ว่า​มี​บาง‍คน​ไม่​รู้‍จัก​พระ‍เจ้า ที่​ข้าพ‌เจ้า​พูด​เช่น‍นี้​ก็​เพื่อ​ให้​พวก‍ท่าน​ละ‍อาย‍ใจ”

       (Wake up from your drunken stupor, as is right, and do not go on sinning. For some have no knowledge of God. I say this to your shame.)

 ข้อมูลมีประโยชน์

 15:12-19 – คริสเตียนบางคนที่โครินธ์ไม่เชื่อเรื่องการเป็นขึ้นจากตายของร่างกาย เปาโลจึงให้ข้อสรปุในเรื่องนี้   ไว้หลายประการ

15:12   “พระคริสต์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว” (Christ is proclaimed as raised from the dead) –อ.เปาโลใช้กิริยาที่แสดงถึงความแน่นอนว่า พระคริสต์เป็นขึ้นจากตายทางฝ่ายร่างกาย แล้วทั้งหมด 7 ครั้งในพระคัมภีร์ตอนนี้ (ข.4,12-14,16-17,20)

15:19   “เราก็เป็นพวกน่าเวทนาที่สุดของคนทั้งหมด” (we are of all people most to be pitied) อ.เปาโล กล่าวว่า   หากชีวิตที่เชื่อในพระเยซูคริสต์มีประโยชน์ เฉพาะในปัจจุบัน แล้วต้องรับโทษจากบาป (รม.6:23) ผู้เชื่อก็น่าสมเพชยิ่งกว่าคนมีชีวิตแบบไม่มีความหวังที่ไม่เชื่อพระเจ้า (อฟ.2:12)

15:20   “พระคริสต์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว” (Christ has been raised from the dead)

= พระคริสต์เป็นขึ้นมาจากตายจริง ๆ (ข.3-8)

“ผลแรกของพวกที่ล่วงหลับไป” (the firstfruits of those who have fallen asleep)

“ผลแรก” = ฟ่อนข้าวแรกที่ถวายแก่พระเจ้า

= สัญลักษณ์ว่า ผลที่เก็บเกี่ยวทั้งหมดนั้น เป็นของพระเจ้า และต้องอุทิศแด่พระเจ้า (ผ่านชีวิตที่อุทิศถวาย) –อพย.23:19;ลนต.2:12

= พระคริสต์เป็นขึ้นจากตาย เป็นตัวรับประกันว่า คนที่พระเจ้าทรงไถ่ทุกคนจะเป็นขึ้นจากตายด้วย (1ธส.4:13-18)

15:21   “ความตายเกิดขึ้นโดยมนุษย์คนหนึ่ง” (by a man came death) = สืบเนื่องมาจากมนุษย์คนเดียว

= ทางอาดัม (ปฐก.3:17-19;รม.5:12)

“การเป็นขึ้นจากความตาย ก็เกิดขึ้นโดยมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน” (by a man has come also the resurrection of the dead) = โดยทางพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นอาดัมคนที่ 2 หรือคนหลัง (ข.45; ปท.รม.5:12-21)

15:22   “ทุกคนต้องตายโดยเกี่ยวเนื่องกับอาดัม” (in Adam all die) = ทุกคนที่อยู่ในอาดัมหรือเป็นเชื้อสายของอาดัมต้องตาย

“ทุกคนก็จะได้รับชีวิตโดยเกี่ยวเนื่องกับพระคริสต์” ( in Christ shall all be made alive) = คนที่ผูกพันกับพระเยซูโดยความเชื่อจะได้รับชีวิตผ่านการเป็นขึ้นจากตายของพระเยซูคริสต์ (ยน.5:25;รม.5:17-18; 1ธส.4:16-17;วว.20:6)

15:23   “แต่ว่าจะเป็นไปตามลำดับ” (But each in his own order) = พระคริสต์เป็นขึ้นจากตายเป็นคนแรก (ผลแรก) ในประวัติศาสตร์ (ค.ศ. 30) ผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ก็จะเป็นขึ้นตามมา เมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จกลับมาครั้งที่ 2 ดังนั้น การเป็นขึ้นมาจากตายของพระเยซูคริสต์ จึงเป็นมัดจำสำหรับการเป็นขึ้นมาของเรา

15:24   “อวสาน” (the end) = จุดจบ การเสด็จกลับมาของพระเยซูจะเป็นการส่งมอบแผ่นดินแด่พระเจ้าและทำลายอำนาจบาปอย่างที่ต่อต้านพระองค์

15:25   “ทรงต้องครอบครอง” (must reign) = พระคริสต์จะทรงครอบครอง (วว.20:1-6) เมื่อได้ทำลายอำนาจครอบครองต่าง ๆ ลง และถวายแผ่นดินแด่พระเจ้าแล้ว แต่มีบางคนเชื่อว่า พระเยซูจะครอบครองโลกนี้ร่วมกับประชากรของพระองค์ในโลกนี้เป็นเวลา 1 พันปี ตามตัวอักษร (ปท.อสย.2:2-4;มีคาห์ 4:1-5)

-และก็มีบางคนเชื่อว่า ในทีนี้หมายถึง การครอบครองของพระเยซูคริสต์ในประวัติศาสตร์และในชีวิตของผู้เชื่อที่เป็นขึ้นจากตายในฝ่ายวิญญาณ (ซึ่งเป็นการครอบครองต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน)

“ภายใต้พระบาทของพระบุตร” (under his feet) = ชัยชนะที่สมบูรณ์ (ข.5; ปท. สดด.110:1;มธ.22:44;กจ.2:34;ฮบ.1:13)

15:26   “ศัตรูตัวสุดท้าย” (last enemy) –สดด.49:14;ยรม.9:21

-การทำลายความตายนี้จะเกิดขึ้นเมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา (วว.20:14;21:4)

15:27   “ภายใต้พระบาทของพระบุตร” (under his feet) –สดด.8:6;ฮบ.2:5-9

15:28   “พระบุตรพระองค์เองก็ทรงอยู่ใต้อำนาจพระเจ้า” (all things in subjection under him) = พระเจ้าทั้ง 3 พระภาคมีความเท่าเทียมกัน ในสภาวะแห่งความเป็นพระเจ้าและในพระเกียรติสิริ แต่ในที่นี้หมายถึงหน้าที่ในด้านใดด้านหนึ่งของแต่ละพระภาค (ยน.4:34;5:19;7:16) เช่น พระบุตรมาทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ถูกส่งมาโดยพระบิดา และพระบุตร เพื่อให้ความรอด และเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้เชื่อ

15:29   “บัพติศมาเพื่อคนตาย” (being baptized on behalf of the dead) = ในเวลานั้น มีการบัพติศมา ให้คนตายที่เมืองโครินธ์ แต่เปาโลไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม จึงมีการตีความหลากหลาย ดังนี้

  1. ผู้เชื่อรับบัพติศมาให้ผู้เชื่อที่ตายไปก่อนรับบัพติศมา เพื่อผู้ตายจะได้รับบัพติศมาด้วย
  2. ผู้เชื่อรับบัพติศมา เพราะคาดหวังว่า คนตายจะเป็นขึ้นจากตาย  ฯลฯ

-เปาโลเพียงต้องการยืนยันว่า เรื่องการเป็นขึ้นจากตายนั้นเป็นที่รับรู้กัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมรับการปฏิบัติเช่นนั้น

15:30   “และทำไมเราจึงเสี่ยงอันตรายตลอดเวลา?” (Why are we in danger every hour?)

-ปท.2คร.11:23-29

15:31   “ข้าพเจ้าตายทุกวัน” ( I die every day) = เปาโลเผชิญกับความเป็นจริงเรื่องความตายทุกวัน

-ปท. 2คร.4:8-12;11:23-26

“ความภูมิใจในพวกท่าน” (my pride in you) = ภูมิใจในการกลับใจและการเติบโตในพระคุณทั้ง ๆ พวกเขายังล้มเหลวอยู่บ้าง – ปท.1ธส.2:20

15:32   “ข้าพเจ้าสู้กับสัตว์ป่าในเมืองเอเฟซัส” (I fought with beasts at Ephesus?) = อาจตีความได้ทั้งในเชิงตามตัวอักษรและเชิงเปรียบเทียบ แต่น่าจะหมายถึงศัตรูในเมืองเอเฟซัสที่ดุร้ายเหมือนสัตว์ป่า (ปท.กจ.19)

          “ก็ให้เรากินและดื่มเถิด เพราะว่าพรุ่งนี้เราก็จะตาย” (Let us eat and drink, for tomorrow we die)

–อสย.22:13 -ถ้าไม่มีการเป็นขึ้นจากตาย ชีวิตอย่างนี้ก็อาจเหมาะสมกับเรา

15:33   “การคบคนชั่วย่อมทำลายนิสัยที่ดีงาม” (Bad company ruins good morals) = ข้อความที่ยกมาจากเรื่องขำขันของชาวกรีก ชื่อธาอิส ซึ่งประพันธ์โดยเมนันเดอร์ ที่มีผลงานเป็นที่รู้จักของชาวโครินธ์

-เปาโลประยุกต์ใช้ถ้อยคำนี้เพื่อกล่าวว่า คนที่สอนว่าไม่มีการเป็นขึ้นจากตาย (ข.12) เป็นเหมือน “คนชั่ว” หรือ “เพื่อนที่เลว” ซึ่งกำลังทำให้นิสัยที่ดีงาม (หรือนิสัยที่ดี) ของคนที่ยึดถือหลักคำสอนที่ถูกต้องนั้นเสื่อมทรามไป –ปท. สดด.1:1;สภษ.22:24-25

15:34   “อย่าทำบาปอีกเลย” (not go on sinning) = เลิกทำบาป

= บาปที่ไม่ยอมรับการเป็นขึ้นจากตาย และการสงสัยในการเป็นขึ้นจากตายของพระเยซูคริสต์ จะส่งผลลบต่อการดำเนินชีวิตของพวกเขา

“บางคนไม่รู้จักพระเจ้า” (some have no knowledge of God)= เปาโลกล่าวว่า น่าละอายที่แม้แต่ในคริสตจักรโครินธ์ก็มีคนไม่รู้จักพระเจ้า

 

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยเชื่อว่า ไม่มีการเป็นขึ้นจากตายบ้างไหม? แล้วทำไมคุณจึงเปลี่ยนมาเชื่อ?
  2. อะไรจะเกิดขึ้นหากว่า พระเยซูคริสต์ไม่เคยเป็นขึ้นมาจากความตายจริง ๆ และจะส่งผลกระทบต่อคุณอย่างไรบ้าง?
  3. ความหวังสูงสุดในชีวิตของคุณคืออะไร? ทำไม? และส่งผลต่อนิรันดร์กาลของคุณอย่างไร?
  4. คุณมีประสบการกับภูตผีปีศาจที่ครอบครองหรือมีฤทธิ์อำนาจบ้างหรือไม่ในชีวิต? อย่างไร? (แบ่งปัน)
  5. การที่คุณรู้ว่าพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาครอบครองทั้งหมด ส่งผลต่อวิถีคิด และวิถีการดำเนินชีวิตของคุณอย่างไรบ้าง?
  6. หากพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเท่าเทียมกับพระบิดาแต่ทรงยอมอยู่ใต้อำนาจของพระเจ้าพระบิดาในการกระทำราชกิจ คุณได้รับแบบอย่างหรือบทเรียนอะไรที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในครอบครัว   ที่ทำงาน ในคริสตจักรหรือในสังคมได้บ้าง? อย่างไร?
  7. คุณเชื่อในเรื่องบัพติศมาสำหรับหรือเพื่อคนตายหรือไม่? อย่างไร? ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตคริสเตียนของคุณหรือไม่? อย่างไร?
  8. คุณเคยมีประสบการกับความเสี่ยงตายเพราะการติดตามพระเยซูคริสต์บ้างหรือไม่? อย่างไร (แบ่งปัน)
  9. เคยมีใครหรืออะไรทำให้คุณหลงผิดไปจากความเชื่อหรือทางของพระเจ้าบ้างหรือไม่? อย่างไร? แล้วคุณจัดการอย่างไร?

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.