จงทำทุกอย่างเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
พระธรรม 1โครินธ์ 10:1-33
อ้างอิง รม.11:14,20,25;6:3;4:24;12:5;13:11;14:6;15:1-2;1คร.8:4,7,10-12;4:16;6:12;9:1,19;11:23-25;13:5;2คร.1:24; 6:3
บทนำ แม้ว่าเราจะเริ่มต้นดีก็ไม่แน่ว่าจะจบดี ดังนั้น เราต้องไม่ประมาท อย่าปล่อยใจของเรานำเราไปสู่ทางชั่วที่นำหายนะมาสู่ตัวเรา แต่จงตั้งเป้าและทำตัวให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าอยู่เสมอ แล้วเราจะปลอดภัย!
บทเรียน
10:1 “พี่น้องทั้งหลาย เพราะว่าข้าพเจ้าต้องการให้ท่านทั้งหลายเข้าใจว่า บรรพบุรุษของเราทั้งหมดได้อยู่ใต้เมฆ และได้ผ่านทะเลไปทุกคน”
(For I do not want you to be unaware, brothers, that our fathers were all under the cloud, and all passed through the sea,)
10:2 “ได้รับบัพติศมาในเมฆและในทะเลเข้าสนิทกับโมเสสทุกคน”
(and all were baptized into Moses in the cloud and in the sea,)
10:3 “ได้รับประทานอาหารฝ่ายจิตวิญญาณเดียวกันทุกคน”
(and all ate the same spiritual food, )
10:4 “และได้ดื่มน้ำฝ่ายจิตวิญญาณเดียวกันทุกคน เพราะว่าพวกเขาได้ดื่มจากพระศิลาฝ่ายจิตวิญญาณที่ติดตามเขาไป พระศิลานั้นคือพระคริสต์”
(and all drank the same spiritual drink. For they drank from the spiritual Rock that followed them, and the Rock was Christ. )
10:5 “แต่ถึงกระนั้นก็ดีมีคนส่วนมากในพวกนั้นที่พระเจ้าไม่พอพระทัย เราทราบได้จากที่เขาล้มตายกันเกลื่อนกลาดในถิ่นทุรกันดาร”
(Nevertheless, with most of them God was not pleased, for they were overthrown in the wilderness.)
10:6 “เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจเราไม่ให้ปรารถนาสิ่งชั่วเหมือนเขาทั้งหลาย”
(Now these things took place as examples for us, that we might not desire evil as they did. )
10:7 “พวกท่านอย่านับถือรูปเคารพเหมือนบางคนในพวกเขาได้ทำ ดังที่มีเขียนไว้ว่า “ประชาชนก็นั่งลงกินและดื่มแล้วก็ลุกขึ้นเล่นสนุกสนาน”
(Do not be idolaters as some of them were; as it is written, “The people sat down to eat and drink and rose up to play.” )
10:8 “อย่าให้เราล่วงประเวณีเหมือนบางคนในพวกเขาได้ทำ แล้วก็ล้มลงตายในวันเดียวสองหมื่นสามพันคน”
(We must not indulge in sexual immorality as some of them did, and twenty-three thousand fell in a single day. )
10:9 “อย่าให้เราลองดีพระคริสต์เหมือนบางคนในพวกเขาได้ทำ แล้วต้องพินาศด้วยงูร้าย”
(We must not put Christ to the test, as some of them did and were destroyed by serpents,)
10:10 “อย่าให้เราบ่นเหมือนบางคนในพวกเขาได้ทำ แล้วต้องพินาศด้วยองค์เพชฌฆาต”
(nor grumble, as some of them did and were destroyed by the Destroyer. )
10:11 “เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับพวกเขาเพื่อเป็นตัวอย่าง และได้เขียนไว้เพื่อเตือนสติเราผู้ซึ่งมาถึงวาระสุดท้ายของยุคนี้แล้ว”
(Now these things happened to them as an example, but they were written down for our instruction, on whom the end of the ages has come. )
10:12 “เพราะเหตุนี้คนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว ก็จงระวังไม่ให้ล้มลง”
(Therefore let anyone who thinks that he stands take heed lest he fall. )
10:13 “ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย นอกเหนือการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ พระเจ้าทรงซื่อสัตย์ พระองค์จะไม่ทรงให้พวกท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อถูกทดลอง พระองค์จะทรงให้มีทางออกด้วย เพื่อพวกท่านจะมีกำลังทนได้”
(No temptation has overtaken you that is not common to man. God is faithful, and he will not let you be tempted beyond your ability, but with the temptation he will also provide the way of escape, that you may be able to endure it.)
10:14 “เพราะฉะนั้น พวกที่รักของข้าพเจ้า จงหลีกหนีการนับถือรูปเคารพ”
(Therefore, my beloved, flee from idolatry.)
10:15 “ข้าพเจ้าพูดกับท่านอย่างพูดกับคนมีปัญญา พวกท่านจงพิจารณาถ้อยคำที่ข้าพเจ้าพูดนั้นเถิด”
(I speak as to sensible people; judge for yourselves what I say. )
10:16 “ถ้วยแห่งพร ซึ่งเราได้ขอพรนั้นทำให้เรามีส่วนร่วมในพระโลหิตของพระคริสต์ไม่ใช่หรือ? ขนมปังซึ่งเราหักนั้น
ทำให้เรามีส่วนร่วมในพระกายของพระคริสต์ไม่ใช่หรือ?”
(The cup of blessing that we bless, is it not a participation in the blood of Christ? The bread that we break, is it not a participation in the body of Christ?)
10:17 “แม้เราเป็นบุคคลหลายคน แต่เนื่องจากมีขนมก้อนเดียว เราจึงเป็นร่างกายเดียว เพราะว่าเราทุกคนรับประทานขนมก้อนเดียวกัน”
(Because there is one bread, we who are many are one body, for we all partake of the one bread. )
10:18 “จงพิจารณาดูการปฏิบัติของพวกอิสราเอล คนที่รับประทานของบูชานั้นก็มีส่วนร่วมในแท่นบูชานั้นไม่ใช่หรือ?”
(Consider the people of Israel: are not those who eat the sacrifices participants in the altar?
10:19 “ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าหมายความว่าอย่างไร เครื่องบูชาที่ถวายแก่รูปเคารพนั้น เป็นของศักดิ์สิทธิ์หรือ? รูปเคารพนั้นศักดิ์สิทธิ์หรือ?”
(What do I imply then? That food offered to idols is anything, or that an idol is anything? )
10:20 “ไม่ใช่ ข้าพเจ้าหมายความว่าเครื่องบูชาที่พวกเขาถวายนั้น เขาถวายบูชาแก่พวกผี ไม่ใช่ถวายแด่พระเจ้า ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้พวกท่านมีส่วนร่วมกับพวกผี”
(No, I imply that what pagans sacrifice they offer to demons and not to God. I do not want you to be participants with demons.)
10:21 “ท่านจะดื่มจากถ้วยขององค์พระผู้เป็นเจ้าและจากถ้วยของพวกผีด้วยไม่ได้ จะรับประทานที่โต๊ะขององค์พระผู้เป็นเจ้า และที่โต๊ะของพวกผีด้วยก็ไม่ได้”
(You cannot drink the cup of the Lord and the cup of demons. You cannot partake of the table of the Lord and the table of demons. )
10:22 “เราจะยั่วยุให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอิจฉาหรือ? เรามีกำลังมากกว่าพระองค์หรือ?”
(Shall we provoke the Lord to jealousy? Are we stronger than he?)
10:23 “เราทำทุกสิ่งได้ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์ เราทำทุกสิ่งได้ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งนั้นทำให้เจริญขึ้น”
(“All things are lawful,” but not all things are helpful. “All things are lawful,” but not all things build up.)
10:24 “อย่าให้ใครเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆ”
(Let no one seek his own good, but the good of his neighbor. )
10:25 “ทุกสิ่งที่ขายตามตลาดเนื้อนั้นรับประทานได้ ไม่ต้องถามอะไรเนื่องจากมโนธรรม”
(Eat whatever is sold in the meat market without raising any question on the ground of conscience.)
10:26 “เพราะ“แผ่นดินโลกกับสรรพสิ่งในโลกนั้นเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
(For “the earth is the Lord’s, and the fullness thereof.” )
10:27 “ถ้าคนที่ไม่เชื่อเชิญพวกท่านไปในงานเลี้ยง และท่านต้องการจะไป ทุกสิ่งที่เขาตั้งให้รับประทาน ก็รับประทานได้ โดยไม่ต้องถามอะไรเนื่องจากมโนธรรม”
(If one of the unbelievers invites you to dinner and you are disposed to go, eat whatever is set before you without raising any question on the ground of conscience.)
10:28 “แต่ถ้ามีใครมาบอกพวกท่านว่า “ของนี้เขาถวายแก่รูปเคารพแล้ว” ท่านก็อย่ารับประทานเพื่อเห็นแก่คนที่บอกนั้น และเพื่อเห็นแก่มโนธรรมด้วย”
(But if someone says to you, “This has been offered in sacrifice,” then do not eat it, for the sake of the one who informed you, and for the sake of conscience— )
10:29 “(ข้าพเจ้าไม่ได้หมายถึงมโนธรรมของพวกท่าน แต่หมายถึงมโนธรรมของคนที่บอกนั้น) ทำไมเสรีภาพของข้าพเจ้าต้องถูกตัดสินด้วยมโนธรรมของคนอื่น?”
(I do not mean your conscience, but his. For why should my liberty be determined by someone else’s conscience?)
10:30 “ถ้าข้าพเจ้ารับประทานด้วยขอบพระคุณ ทำไมข้าพเจ้าต้องถูกว่าร้ายเพราะสิ่งที่ได้ขอบพระคุณแล้ว?”
(If I partake with thankfulness, why am I denounced because of that for which I give thanks?)
10:31 “เพราะฉะนั้นเมื่อพวกท่านจะรับประทาน จะดื่ม หรือจะทำอะไรก็ตาม จงทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า”
(So, whether you eat or drink, or whatever you do, do all to the glory of God. )
10:32 “อย่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกยิว หรือพวกกรีก หรือคริสตจักรของพระเจ้าหลงผิดไป”
(Give no offense to Jews or to Greeks or to the church of God, )
10:33 “และให้เป็นเหมือนข้าพเจ้าเองที่พยายามทำทุกสิ่งเพื่อให้พอใจทุกคน ไม่ได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว แต่เห็นแก่ประโยชน์ของคนมากมาย เพื่อให้เขาทั้งหลายได้รับความรอด”
(just as I try to please everyone in everything I do, not seeking my own advantage, but that of many, that they may be saved.)
ข้อมูลมีประโยชน์
10:1 “ใต้เมฆ…ผ่านทะเล” (under the cloud, and all passed through the sea)
“เมฆ” = เครื่องหมายการทรงนำของพระเจ้าเมื่อนำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ (อพย.13:21;40:36-37;กดว.9:17, 21;10:11-12;24:14;นหม.9:12,19;สดด.78:14)
“ทะเล” = เครื่องหมายสุดยอดของพระราชกิจของพระเจ้าเมื่อนำชนชาติอิสราเอลข้ามแม่น้ำอย่างปลอดภัย แต่ก็นำการลงโทษมาสู่คนอียิปต์ด้วย (อพย.14:1-15:20;ฉธบ.11:4;ยชว.2:10;นหม.9:9,11;สดด.66:6;77:16,19;78:13,53;106:9-11;136:13-15;อสย.43:16-17;51:10;63:11-13
10:2 “ได้รับบัพติศมา” (were baptized)= ภาพที่เปาโลใช้บรรยายความเป็นหนึ่งเดียวกันของอิสราเอลกับโมเสส ในแผนการทรงไถ่ของพระเจ้า เหมือนกับที่คริสเตียนเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์ผ่านการสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นมาจากตายของพระองค์ ซึ่งเป็นนัยสำคัญของการรับบัพติศมาของคริสเตียน
10:3-4 “อาหารฝ่ายจิตวิญญาณ…น้ำฝ่ายจิตวิญญาณ” (spiritual food…spiritual drink) = ในบางฉบับแปลว่า
“อาหารทิพย์…น้ำทิพย์” = มานาและน้ำที่ไหลออกมาจากศิลา (อพย.16:2-36;17:1-7;กดว.20:2-11;21:16)
= ภาพแห่งการเลี้ยงดูของพระเจ้าที่ประทานให้แก่ประชากรของพระองค์โดยไม่ขาด ซึ่งมีนัยสำคัญในพิธีมหาสนิท
10:4 “ศิลานั้นคือพระคริสต์” (the Rock was Christ) = พระเยซูเป็นอาหารแห่งชีวิต และน้ำแห่งชีวิต (ยน.4:14;6:30-35)
-พระคริสต์ทรงสถิตอยู่กับประชากรของพระองค์ทรงเลี้ยงดูจิตวิญญาณของพวกเขาในขณะที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร (ปท.8:6)
10:5 “มีคนส่วนมากในพวกนั้นที่พระเจ้าไม่พอพระทัย”(Nevertheless, with most of them God was not pleased) = ทั้ง ๆ ที่ชาวอิสราเอลได้รับสิทธิพิเศษ (ข.1-4) แต่พวกเขากลับไม่เชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าจึงไม่พอพระทัย ดังนั้น ในท่ามกลางคนทั้งหมดที่ออกมาจากอียิปต์ มีเพียงคาเลบกับโยชูวาเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าแผ่นดินคานาอัน (กดว.14:22-24;28-35;ฉธบ.1:34-36;ยชว.1:1-2;14:6-14)
10:6 “ปรารถนาสิ่งชั่วเหมือนเขาทั้งหลาย” (desire evil as they did) = เหมือนสิ่งที่อยู่ในใจของเปาโล ในข้อ 7-10
10:7 “นับถือรูปเคารพ” (idolaters) = การนมัสการลูกวัวทองคำ (อพย.32:1-6) และประชาชนกินอาหารที่ถวายแด่รูปเคารพ (ปท.บทที่ 8)
10:8 “ล้มลงตายในวันเดียวสองหมื่นสามพันคน” ( twenty-three thousand fell in a single day)
= เหตุการณ์ตอนที่อิสราเอลร่วมนมัสการพระบาอัลของชาวโมอับที่เปโอร์ และร่วมทำผิดศีลธรรมทางเพศกับโสเภณีที่นมัสการพระนี้ (กดว.25:1-9)
-ใน กดว.25:9 ระบุจำนวนตัวเลข 24,000 คน ในที่นี้จึงเป็นตัวเลขประมาณการที่ อ.เปาโล ใช้อ้างอิง
10:10 “อย่าให้เราบ่น” (nor grumble) –กดว.16:41
= องค์เพชฌฆาต = ทูตมรณะ ซึ่งนำภัยพิบัติมาใน กดว.16:46-50 เนื่องจากชาวอิสราเอลบ่นต่อว่าติเตียนโมเสสและอาโรน (กดว.16:41) ปท.อพย.12:23
10:11 “ได้เขียนไว้เพื่อเตือนสติเรา” (written down for our instruction) –รม.15:4
“วาระสุดท้ายของยุคนี้” (the end of the ages has come) = ช่วงเวลาที่เริ่มต้นตั้งแต่การสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นจากตายของพระเยซูคริสต์ และดำเนินต่อเนื่องจนถึงวันที่พระเยซูเสด็จกลับมา
10:13 “การทดลอง” (temptation) –การทดลองในตัวมันเองไม่ใช่บาป พระเยซูคริสต์ก็ถูกทดลอง (มธ.4:1-11)
แต่การยอมแพ้การทดลองต่างหากที่ทำให้เกิดบาป
คำว่า “การทดลอง” ในภาษากรีก ยังแปลว่า “การทดสอบ” ได้ด้วย
อ.เปาโลกำลังกล่าวถึงการทดสอบที่มีการทดลองแทรกเข้ามาด้วย (มธ.6:13)
“เพื่อพวกท่านจะมีกำลังทนได้” (the way of escape, that you may be able to endure it.) = สามารถยืนหยัดภายใต้การทดลอง โดยการช่วยเหลือของพระเจ้าให้ต่อสู้และอดทนต่อการทดลองได้โดยไม่พังทลายลง
10:14 “จงหลีกหนีการนับถือรูปเคารพ” (flee from idolatry) –อพย.32:1-6, ชาวโครินธ์มาจากภูมิหลังที่นับถือรูปเคารพ และเทพเจ้าทั้งหลาย มีวิหารมากมายสำหรับนมัสการเทพอปอลโล อัสคลีปิอัส หรือเทวี
ดีมีเทอร์ อโฟรไดท์ และอื่น ๆ – ทำให้เป็นการทดลองหนักมากที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนทั่วไปที่นมัสการพระเทพเหล่านี้ ในวิถีชีวิตประจำวันหรือในกิจวัตรของชีวิต
10:16 “ถ้วยแห่งพรซึ่งเราได้ขอพรนั้น” (The cup of blessing that we bless) = ถ้วยน้ำองุ่นซึ่งเราอธิษฐานขอบพระคุณ
= ถ้วยน้ำองุ่นที่คริสเตียนใช้ดื่มในพิธีมหาสนิท (มธ.26:27-28,มก.14:23-24;ลก.22:20)
= การดื่มน้ำองุ่นในพิธีมหาสนิทเป็นการกระทำแห่งความเชื่อที่ประกาศตนมีส่วนร่วมในพระสัญญาที่ได้รับจากการหลั่งโลหิตของพระคริสต์
“ขนมปังซึ่งเราหักนั้น” (The bread that we break) -มธ.26:26;มก.14:22;ลก.22:19
“มีส่วนร่วมในพระกายของพระคริสต์” (a participation in the body of Christ) = มีส่วนร่วมใน
พระโลหิตของพระคริสต์ –1คร.11:23-25;มธ.26:27-28
10:17 “ขนมปังก้อนเดียว” (one bread ) = ผู้เชื่อหลายคนแบ่งขนมปังจากก้อนเดียวกันเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในพระกายของพระคริสต์ (นั่นคือ คริสตจักร) ได้รับการเลี้ยงดูจากขนมปังแห่งชีวิตก้อนเดียวกัน –ยน.6:33-38
10:18 “คนที่รับประทานของบูชานั้น ก็มีส่วนร่วมในแท่นบูชานั้นมิใช่หรือ?” (who eat the sacrifices participants in the altar?)
-เมื่อประชาชนอิสราเอลกินเครื่องบูชา ซึ่งถวายที่แท่นบูชาส่วนหนึ่ง (ลนต.7:15;8:31;ฉธบ.12:17-18) ก็เท่ากับเขามีส่วนร่วมกับแท่นบูชาในการเผาเครื่องบูชา และสิ่งที่ถูกเผาบนแท่นบูชาก็เป็นส่วนของพระเจ้า
10:19 “รูปเคารพนั้นศักดิ์สิทธิ์หรือ?” ( that an idol is anything?) = สำคัญหรือ? (8:4-6)
10:20 “ถวายบูชาแก่พวกผี” (participants with demons) = สังเวยแก่ผีมาร
= เชื่อกันว่า การนมัสการรูปเคารพเป็นการนมัสการผีมาร
= ผู้เชื่อไม่ควรกิน(เนื้อ) ในงานเลี้ยงที่วิหาร เพราะทำให้เขากลายเป็นผู้มีส่วนร่วมกับผีมาร
10:22 “ยั่วยุให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอิจฉาหรือ?” (Shall we provoke the Lord to jealousy) –โดยการกราบไหว้รูปเคารพและการนมัสการของผู้ไม่เชื่อพระเจ้า (อพย.20:5)
10:23 “แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์” (but not all things build up) -6:12, เราไม่ควรคิดถึงแค่สิทธิ์และเสรีภาพส่วนตนเท่านั้น แต่ควรคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์ของผู้อื่นด้วย (ข.24;ปท.8:1;กท.6:2)
10:25 “ทุกสิ่งที่ขายตามตลาดเนื้อนั้นรับประทานได้” (Eat whatever is sold in the meat market) –แม้จะถวายแด่รูปเคารพแล้วก็ตาม เพราะเมื่อเนื้อนั้นออกมาสู่ตลาดก็ไม่มีความสำคัญหรือนัยทางศาสนา
10:26 “แผ่นดินโลกกับสรรพสิ่งในโลกนั้นเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า” (the earth is the Lord’s, and the fullness thereof ) = มาจาก สดุดี 24:1 ชาวยิวใช้เป็นคำอวยพรในช่วงรับประทานอาหาร ปท. สดด.50:12;89:11
10:27 “ทุกสิ่งที่เขาตั้งให้รับประทานก็รับประทานได้” (eat whatever is set before you without raising any question on the ground of conscience )= มีเสรีภาพที่จะทานเนื้อนั้นได้ตราบเท่าที่ไม่มีการยกประเด็นเรื่องไหว้รูปเคารพขึ้นมาพูด
10:28 “เพื่อเห็นแก่คนที่บอกนั้น” (for the sake of the one who informed you) = คนที่บอกอาจคิดว่า ผู้ที่กิน
เนื้อนั้นยอมหรือเต็มใจมีส่วนร่วมกับการนมัสการรูปเคารพที่นำเนื้อไปเซ่นไหว้
“มโนธรรม” (conscience) = จิตสำนึกผิดชอบ เพื่อไม่ให้คนนั้น (ข้อ 29) คิดว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่จะต้องกินเนื้อที่เซ่นไหว้ทั้ง ๆ ที่ตัวคนกินเองยังรู้สึกสงสัยอยู่
10:29 “เสรีภาพของข้าพเจ้า” (my liberty) –เทียบกับ รม.14:16
-การใช้เสรีภาพส่วนบุคคลต้องคำนึงถึงการถวายเกียรติแด่พระเจ้าเป็นสำคัญ และเสริมสร้างคริสตจักรของพระเจ้าหรือไม่? และช่วยให้ผู้ไม่เชื่อต้อนรับพระคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด และเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าหรือไม่? (ข.31-33)
10:30 “สิ่งที่ได้ขอบพระคุณแล้ว” (I partake with thankfulness ) –อ.เปาโลขอบคุณพระเจ้าได้สำหรับเนื้อที่ เซ่นไหว้รูปเคารพแล้ว เพราะว่า รูปเคารพนั้นไม่มีความหมายอะไรและเนื้อก็เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างมา
10:31 “จงทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า” ( all to the glory of God) = หลักการที่ครอบคลุมเนื้อหาใน บทที่ 8-10 นั่นคือ พระเจ้าต้องได้รับการถวายพระเกียรติผ่านทุกสิ่งที่คริสเตียนกระทำ (รม.16:27)
10:32 “อย่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้…หลงผิดไป” (Give no offense to Jews or to Greeks or to the church of God) =ผู้ที่ดำเนินชีวิตถวายเกียรติแด่พระเจ้า จะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ทั้งที่เป็นคริสเตียน(คริสตจักร) และที่ไม่เป็นคริสเตียน (คนยิว/กรีก)
10:33 “ทำทุกสิ่งเพื่อให้พอใจทุกคน” ( I try to please everyone in everything I do) = ทำให้ทุกคนพอใจในทุกด้าน
-เปาโลจะไม่ทำสิ่งใดที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการยอมรับข่าวประเสริฐที่จะทำให้พวกเขารอด -9:22
คำถามนำอภิปราย
- พิธีบัพติศมาและพิธีมหาสนิทมีความหมายอะไรสำหรับ คริสตจักรและสำหรับตัวของคุณ ?
- คุณเคยหรือกำลังกระทำอะไรบ้างที่พระเจ้าไม่พอพระทัย? แล้วได้รับผลอย่างไร?
- มีเหตุการณ์อะไรในพระคัมภีร์ที่เตือนใจคุณไม่ให้ปรารถนาสิ่งชั่ว? โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง
- การนับถือรูปเคารพ
- ล่วงประเวณี?
- มีอะไรบ้างที่เข้าข่ายลองดีต่อพระคริสต์ในท่ามกลางสังคมคริสเตียน หรือในคริสตจักรของคุณในเวลานี้?
- คุณเป็นคนชอบบ่นหรือไม่? คุณชอบคนบ่นหรือไม่? ทำไม? และจะมีอะไรตามมา หากว่าคุณชอบบ่น?
- คุณเคยคิดว่า คุณมั่นคงดีแล้วหรือไม่? แล้วเกิดอะไรขึ้น?
- คุณเคยถูกทดลองหนักจนคิดว่า เกินกว่าที่จะทนได้ แต่สุดท้าย พระเจ้าทรงช่วยให้มีทางออกอย่างเหลือเชื่อบ้างหรือไม่? (แบ่งปัน)
- คุณเคยใช้เสรีภาพของคุณอย่างผิด ๆ บ้างหรือไม่? อย่างไร? แล้วผลเป็นอย่างไร? (แบ่งปัน)
- คุณเคยกระทำสิ่งใดที่ขัดกับมโนธรรมบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? แล้วมีอะไรตามมา?
- คุณเคยทำอะไรที่คุณรู้สึกว่า ถวายเกียรติพระเจ้ามากที่สุดในชีวิตของคุณ? (แบ่งปัน)
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์