อาหารบูชารูปเคารพ
พระธรรม 1โครินธ์ 8:1-13
อ้างอิง 1คร.3:18;7:25;10:19,28;13:8,9,12;2คร.6:3
บทนำ อาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรับประทาน แต่การรับประทานอาหารที่บูชารูปเคารพนั้นจำเป็นต้องรับประทานหรือไม่ นั่นคือประเด็นปัญหาที่ อ.เปาโลนำมาอภิปรายกันในบทนี้ และบทที่ 10
บทเรียน
8:1 “เรื่องของอาหารที่บูชารูปเคารพนั้น เราทั้งหลายทราบแล้วว่า “ทุกคนต่างก็มีความรู้” ความรู้นั้นทำให้ลำพอง แต่ความรักเสริมสร้างขึ้น”
(Now concerning food offered to idols: we know that “all of us possess knowledge.” This “knowledge” puffs up, but love builds up. )
8:2 “ถ้าใครถือว่าตัวรู้สิ่งใดแล้ว คนนั้นยังไม่รู้ตามที่ตนควรจะรู้”
(If anyone imagines that he knows something, he does not yet know as he ought to know. )
8:3 “แต่ถ้าใครรักพระเจ้า พระเจ้าก็ทรงรู้จักผู้นั้น”
(But if anyone loves God, he is known by God.)
8:4 “เพราะฉะนั้น การกินอาหารที่บูชารูปเคารพนั้น เรารู้อยู่แล้วว่า “รูปเคารพในโลกนี้เป็นสิ่งไร้สาระ” และ “มีพระเจ้าแท้จริงเพียงองค์เดียว”
(Therefore, as to the eating of food offered to idols, we know that “an idol has no real existence,” and that “there is no God but one.” )
8:5 “และแม้จะมีหลายสิ่งที่เขาเรียกกันว่าเจ้าในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก ราวกับว่ามีพระเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้ามากมาย”
(For although there may be so-called gods in heaven or on earth—as indeed there are many “gods” and many “lords”— )
8:6 “แต่ว่าสำหรับเรานั้นมีพระเจ้าองค์เดียวคือพระบิดา ทุกสิ่งเกิดมาจากพระองค์และเราอยู่เพื่อพระองค์ และมีพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียว ทุกสิ่งเกิดมาโดยพระองค์และเราก็เป็นมาโดยพระองค์”
(yet for us there is one God, the Father, from whom are all things and for whom we exist, and one Lord, Jesus Christ, through whom are all things and through whom we exist.)
8:7 “แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนมีความรู้อย่างนี้ เพราะมีบางคนที่เคยนับถือรูปเคารพมาก่อน เมื่อกินอาหารนั้นก็ถือว่าเป็นของบูชาแก่รูปเคารพจริงๆ และมโนธรรมของพวกเขายังอ่อนแออยู่ จึงเป็นมลทิน”
(However, not all possess this knowledge. But some, through former association with idols, eat food as really offered to an idol, and their conscience, being weak, is defiled. )
8:8 “อาหารไม่ได้ทำให้เราใกล้ชิดพระเจ้า ถ้าเราไม่กิน เราก็ไม่ด้อยลง ถ้ากิน เราก็ไม่ได้ดีขึ้น”
(Food will not commend us to God. We are no worse off if we do not eat, and no better off if we do.)
8:9 “แต่จงระวังอย่าให้สิทธิของพวกท่าน ทำให้พวกที่มีความเชื่ออ่อนแอสะดุด”
(But take care that this right of yours does not somehow become a stumbling block to the weak. )
8:10 “เพราะว่าถ้าใครเห็นท่านที่มีความรู้ นั่งรับประทานอาหารในโบสถ์ของรูปเคารพ มโนธรรมที่อ่อนแอของคนนั้นก็จะเหิมขึ้นและกินของที่บูชาแก่รูปเคารพไม่ใช่หรือ?”
(For if anyone sees you who have knowledge eating in an idol’s temple, will he not be encouraged, if his conscience is weak, to eat food offered to idols? )
8:11 “ความรู้ของท่านจะทำให้พี่น้องที่มีความเชื่ออ่อนแอ ซึ่งพระคริสต์ทรงยอมวายพระชนม์เพื่อเขาต้องพินาศไป”
(And so by your knowledge this weak person is destroyed, the brother for whom Christ died.)
8:12 “และเมื่อพวกท่านทำผิดต่อพี่น้องเช่นนี้ และทำร้ายมโนธรรมที่อ่อนแอของพวกเขา ท่านก็ทำผิดต่อพระคริสต์ด้วย”
(Thus, sinning against your brothers and wounding their conscience when it is weak, you sin against Christ. )
8:13 “เพราะฉะนั้นถ้าอาหารเป็นเหตุที่ทำให้พี่น้องของข้าพเจ้าสะดุด ข้าพเจ้าจะไม่กินเนื้อสัตว์อีกต่อไป เพื่อว่าจะไม่ทำให้พี่น้องต้องสะดุด”
(Therefore, if food makes my brother stumble, I will never eat meat, lest I make my brother stumble.)
ข้อมูลมีประโยชน์
8:1 “เรื่องของอาหารที่บูชารูปเคารพนั้น” (concerning food offered to idols) = อีกเรื่องหนึ่งที่ชาวโครินธ์เขียนจดหมายไปถาม อ.เปาโล (7:1)
“บูชารูปเคารพ” = เซ่นไหว้รูปเคารพ
= การถวายเครื่องเซ่นบนแท่นบูชาของคนต่างชาติ ปุโรหิตจะรับประทานเนื้อที่เหลือจากการเซ่นไหว้หรือผู้ที่ถวายกับญาติมิตรจะรับประทานเนื้อที่เหลือในงานเลี้ยงที่วิหาร (ข.10) หรือไม่ก็เอาไปขายในตลาดเนื้อทั่วไป คริสเตียนบางคนในเมืองโครินธ์เชื่อว่า ถ้ากินเนื้อนั้นเข้าไปเท่ากับว่า ได้มีส่วนในการนมัสการรูปเคารพด้วย ทำให้เสียคำพยานเพื่อพระคริสต์ แต่ก็มีคริสเตียนคนอื่นไม่ได้คิดเช่นนั้น
“ทุกคนต่างก็มีความรู้” (all of us possess knowledge) –รม.15:14
“ความรู้นั้นทำให้ลำพอง” (This “knowledge” puffs up) = ความรู้ทำให้คนบางคนหยิ่งผยองเกินควร
“แต่ความรักเสริมสร้างขึ้น” (but love builds up ) = ข้อเตือนสติใน ข้อ 7-13
8:2 “ยังไม่รู้ตามที่ตนควรจะรู้” (he does not yet know as he ought to know) =แม้แต่คริสเตียนที่มีปัญญามากที่สุด และมีความรู้มากที่สุด ก็ยังมีความรู้อย่างจำกัด เพราะมีแต่พระเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่รู้ทั้งหมดทุกสิ่ง
8:3 “แต่ถ้าใครรักพระเจ้า พระเจ้าก็ทรงรู้จักผู้นั้น”(But if anyone loves God, he is known by God)
=สิ่งที่มีค่ามากกว่า ความรู้ ก็คือ ความรัก
ความรักของพวกเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า พระเจ้าทรงยอมรับพวกเขาและจะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างฐานะประชากรของพระองค์ (กท.4:9)
-คำยืนยันของเปาโลเหมือนกันคำฮีบรูในพันธสัญญาเดิมว่า “ยาดา” ที่แปลว่า ”รู้จัก”
เช่น ปฐก.18:19 (ได้เลือก) ;2ซมอ.7:20;สดด.1:6 (ทรงดูแล); อมส.3:2 (ได้เลือกสรร) ;นฮม.1:7(ห่วงใย)
8:4 “รูปเคารพในโลกนี้เป็นสิ่งไร้สาระ” (an idol has no real existence) = ไม่มีความหมายอะไร ไม่ได้เป็นพระเจ้าจริง ๆ และไม่มีฤทธิ์อำนาจใด ๆ (สดด.115:4-7;135:15-17;อสย.44:12-20 และเชื่อว่ามีวิญญาณต่าง ๆ (ที่ไม่บริสุทธิ์) อยู่เบื้องหลัง
8:5 “มีหลายสิ่งที่เขาเรียกกันว่าเจ้า” (although there may be so-called gods) = เทพเจ้าตามตำนานของกรีกและโรมัน
8:6 “มีพระเจ้าองค์เดียว” (one Lord ) –ฉธบ.6:4
“ทุกสิ่งเกิดมาจากพระองค์…ทุกสิ่งเกิดมาโดยพระองค์” (all things and for whom we exist…through whom are all things) = พระเจ้าพระบิดาเป็นแหล่งกำเนิดของสรรพสิ่งพระองค์ทรงสร้าง (กจ.4:24;รม.11:36)
“และมีพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียว” (one Lord, Jesus Christ) –ฮบ.2:10 ,พระเยซูเป็นพระเจ้าพระบุตรผู้ทรงร่วมกับพระบิดาในการทำให้ทุกสิ่งเกิดขึ้น (ยน.1:3;คส.1:136;ฮบ.1:2)
8:7 “มีความรู้เช่นนี้” (this knowledge) = รู้ว่ารูปเคารพเป็นเพียงสัญลักษณ์ของความว่างเปล่า ไม่มีตัวตนจริง ๆ -1คร.8:1
“นับถือรูปเคารพ” (idols) = เซ่นไหว้รูปเคารพ
= กราบไหว้เทพเจ้าที่มีรูปเคารพเป็นตัวแทน
“นโมธรรมของพวกเขายังอ่อนแออยู่จึงเป็นมลทิน” (their conscience, being weak, is defiled)
= พวกเขาคิดว่า การรับประทานเนื้อที่เซ่นไหว้รูปเคารพเท่ากับเข้าไปมีส่วนในการนมัสการรูปเคารพนั้น และเป็นการกระทำบาปต่อพระเจ้า –รม.14:14;1คร.10:28
8:8 “อาหารไม่ได้ทำให้เราใกล้ชิดพระเจ้า” (Food will not commend us to God) –รม.14:17
8:9 “สิทธิของพวกท่าน” (this right of yours) = อิสรเสรีที่เรามี
= การกินเนื้อที่เซ่นไหว้รูปเคารพ เพราะรู้ว่ารูปเคารพนั้นไม่มีความหมายอะไรให้ต้องกังวลเกินเหตุ (ข.4)
“พวกที่มีความเชื่ออ่อนแอ” (stumbling block to the weak) = คริสเตียนที่มีจิตสำนึกยังอ่อนและคิดว่าการกินอาหารที่เซ่นไหว้รูปเคารพเป็นสิ่งผิดแน่ ๆ จะประนีประนอมไม่ได้เด็ดขาด
8:10 “ท่านที่มีความรู้” (you who have knowledge) –ข.1,4,8
“นั่งรับประทาอาหารในโบสถ์ของรูปเคารพ” (eating in an idol’s temple) = นักโบราณคดี ค้นพบวิหาร 2 แห่งตรงบริเวณหรือโครินธ์โบราณ ซึ่งมีห้องสำหรับกินเลี้ยงเนื้อที่ถวายแก่รูปเคารพแล้ว
= งานเลี้ยงแบบที่คริสเตียนอาจได้รับเชิญจากเพื่อนต่างศาสนาให้ไปร่วมด้วย
8:12 “ทำร้ายมโนธรรมที่อ่อนแอของพวกเขา” (wounding their conscience when it is weak) การกินเนื้อที่เซ่นไหว้เคารพ โดยที่เจ้าตัวรู้สึกว่าผิด มีส่วนทำให้จิตสำนึกของคน ๆ นั้นตายด้านมากขึ้น และเขาอาจจะทำผิดได้ง่ายขึ้นในภายหน้า ทำให้เกิดทำผิดที่ก่อเกิดความวิบัติในทางจิตวิญญาณและในทางศีลธรรมได้
“ท่านก็ทำผิดต่อพระคริสต์ด้วย” (you sin against Christ. ) –มธ.10:40;18:5;มก.9:37;ลก.9:48;รม.14:15,19-20
8:13 “ข้าพเจ้าจะไม่กินเนื้อสัตว์อีกต่อไป” (I will never eat meat) –เปาโลใช้ตัวเองเป็นแบบอย่างให้แก่คริสตจักรที่จะปฏิบัติตาม (รม.14:21)
คำถามนำอภิปราย
- ปกติคุณรับประทานอาหารไหว้รูปเคารพหรือไม่? ทำไม?
- หากคุณรับประทานตามข้อ 1 เคยมีคนสะดุดในสิ่งที่คุณทำหรือไม่? แล้วคุณตอบว่าอย่างไร?
- หากคุณไม่เคยรับประทานตามข้อ 1 คุณเคยสะดุดที่เห็นคนอื่นกระทำเช่นนั้นหรือไม่? แล้วคุณทำอย่างไร?
- คุณเคยมีปัญหาหรือความขัดแย้ง ระหว่าง “ความรู้” กับ “ความรัก” บ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร?
- คุณเคยกระทำบางสิ่งแล้วรู้สึกผิด รบกวนใจบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร? แล้วคุณทำต่อไปหรือไม่? ทำไม?
- คุณเคยทำในสิ่งที่คุณแน่วใจว่าไม่ผิด แต่คนอื่นเห็นว่าผิดบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? แล้วผลเป็นอย่างไร?
- นอกจากอาหารไหว้รูปเคารพแล้ว คุณเคยมีปัญหากับการรับ “ประทานอาหาร” ประเภท อื่นใดหรือไม่?
ทำไม? แล้วคุณแก้ปัญหาอย่างไร?
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์