แม้ต้นมะเดื่อไม่มีดอกบาน หรือเถาองุ่นไม่มีผล ผลมะกอกเทศก็ขาดไป ทุ่งนามิได้เกิดอาหาร ฝูงสัตว์ขาดไปจากคอก และไม่มีฝูงวัวที่ในโรง ถึงกระนั้นข้าพเจ้าจะร่าเริงในพระเจ้า ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์ในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า (ฮะบากุก 3:17-19)
ในยุคของฮะบากุก เศรษฐกิจกำลังถดถอย ไม่มีวัวที่ในโรงนา … “ถึงกระนั้น” ผู้เขียนกล่าวในข้อ 18 ว่า “ข้าพเจ้าจะร่าเริงในพระเจ้า ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์ในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า” ความเปรมปรีดิ์ของเขามาจากไหน?
ในองค์พระผู้เป็นเจ้า … ไม่ใช่ในสถานการณ์
ถ้าคุณพึ่งพิงสถานการณ์ คุณคงไม่อาจกล่าวว่า “จะร่าเริง” ได้เสมอไป เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปมา คุณอาจตกงาน เจ็บป่วย เสียความสัมพันธ์ เสียหน้า และถ้าคุณเคยได้ความร่าเริงจากสิ่งเหล่านี้ แล้วมันเปลี่ยนไป คุณไม่อาจพูดได้ว่า “ถึงกระนั้นข้าพเจ้าจะร่าเริง” แต่ฮะบากุกกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์ในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า”
ความเปรมปรีดิ์ของคุณมาจากไหน? จากพระเจ้าหรือ? หวังว่าใช่ หนทางเดียวที่จะพิสูจน์ได้ ถ้าคุณได้ความเปรมปรีดิ์จากการงาน แล้วงานถูกเอาคืนไป จะยังเปรมปรีดิ์อีกหรือไม่ คุณอาจร่าเริงที่มีสุขภาพดี จนพูดได้ว่า “นี่เป็นมาจากพระเจ้า” แต่ถ้าเจ็บป่วย คุณจะยังร่าเริงดีอยู่หรือ?
เห็นได้ว่า ความเปรมปรีดิ์เดียวที่เรามีได้คือในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ไม่ทรงเปลี่ยนแปลง ความสุขใจของคุณจะถูกคุกคามถ้าได้มาจากแหล่งอื่นๆ ไม่ผิดที่จะมีความสุขในหน้าที่การงาน หรือสุขภาพที่ดี แต่นั่นเป็นความสุขที่อันตรธานได้ คุณจำเป็นต้องมีความสุขใจที่เหนือไปกว่านั้น
สดุดี 16:11 กล่าวว่า “พระองค์ทรงสำแดงวิถีแห่งชีวิตแก่ข้าพระองค์ ต่อพระพักตร์พระองค์มีความชื่นบานอย่างเปี่ยมล้น ในพระหัตถ์ขวาของพระองค์มีความเพลิดเพลินอยู่เป็นนิตย์” จงชื่นบานใจในพระเจ้าอยู่เสมอ เพราะจะเป็นสิ่งที่ไม่มีวันขาดตอน
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514