ฟ้องกัน ประจานกันเอง!
พระธรรม 1โครินธ์ 6:1-20
อ้างอิง มธ.18:17;19:28;ลก.22:30;ฉธบ.17:7,19:19;1คร.1:2;4:14;5:1,12;2คร.6:14-15;7:23;10:23
บทนำ หากเราเชื่อในพระเยซูคริสต์จริง ๆ เราจะไม่ฟ้องร้องกันจนขึ้นโรงขึ้นศาล หากเป็นเรื่องที่สามารถตัดสินกันเองได้ภายในคริสตจักร และเราจะไม่ยอมรับหรือปล่อยให้มีการลดหย่อนมาตรฐานศีลธรรมทางเพศให้เป็นเรื่องปกติธรรมดาภายในคริสตจักร โดยไม่จัดการแก้ไขให้เรียบร้อยตามครรลองของพระคัมภีร์
บทเรียน
6:1 “เมื่อมีใครในพวกท่านเป็นความกัน เขากล้าไปรับการพิพากษาจากคนไม่ชอบธรรม แทนที่จะรับจากธรรมิกชนหรือ?”
(When one of you has a grievance against another, does he dare go to law before the unrighteous instead of the saints?)
6:2 “ท่านทั้งหลายรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าธรรมิกชนจะพิพากษาโลก? และถ้าพวกท่านจะพิพากษาโลก ท่านไม่เหมาะจะพิพากษาเรื่องเล็กน้อยหรือ?”
(Or do you not know that the saints will judge the world? And if the world is to be judged by you, are you incompetent to try trivial cases?)
6:3 “พวกท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าเราจะพิพากษาพวกทูตสวรรค์? ถ้าเช่นนั้นก็ยิ่งควรจะพิพากษาเรื่องของชีวิตนี้”
(Do you not know that we are to judge angels? How much more, then, matters pertaining to this life!)
6:4 “เมื่อเป็นความกันในเรื่องชีวิตนี้ พวกท่านจะตั้งคนที่คริสตจักรไม่ยอมรับให้ตัดสินหรือ?”
(So if you have such cases, why do you lay them before those who have no standing in the church?)
6:5 “ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้ ก็เพื่อให้ท่านละอายใจ ในพวกท่านไม่มีสักคนหนึ่งที่มีสติปัญญาสามารถวินิจฉัยเรื่องระหว่างพี่น้องหรือ?”
(I say this to your shame. Can it be that there is no one among you wise enough to settle a dispute between the brothers, )
6:6 “แต่พี่น้องกับพี่น้องต้องถูกพิพากษาต่อหน้าคนที่ไม่มีความเชื่ออย่างนั้นหรือ?”
(but brother goes to law against brother, and that before unbelievers? )
6:7 “อันที่จริง เมื่อไปเป็นความกันพวกท่านก็ตกจากระดับที่ควร ทำไมท่านจึงไม่ยอมทนต่อการร้ายเสียดีกว่า? ทำไมท่านจึงไม่ยอมถูกโกงเสียดีกว่า?”
(To have lawsuits at all with one another is already a defeat for you. Why not rather suffer wrong? Why not rather be defrauded?)
6:8 “แต่พวกท่านกลับทำร้ายกัน และโกงกันแม้กระทั่งพี่น้อง”
(But you yourselves wrong and defraud—even your own brothers!)
6:9 “ท่านทั้งหลายรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าคนไม่ชอบธรรมจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า? อย่าหลงผิดเลย พวกที่ล่วงประเวณี พวกไหว้รูปเคารพ พวกผิดผัวผิดเมีย พวกโสเภณีชาย พวกรักร่วมเพศ”
(Or do you not know that the unrighteous will not inherit the kingdom of God? Do not be deceived: neither the sexually immoral, nor idolaters, nor adulterers, nor men who practice homosexuality, )
6:10 “พวกขโมย พวกที่โลภ พวกขี้เมา พวกชอบกล่าวร้าย พวกฉ้อโกง จะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า”
(nor thieves, nor the greedy, nor drunkards, nor revilers, nor swindlers will inherit the kingdom of God.)
6:11 “มีบางคนในพวกท่านเคยเป็นอย่างนี้ แต่ท่านทั้งหลายได้รับการล้างชำระแล้ว ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว และได้รับการชำระให้ชอบธรรมแล้วโดยพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและโดยพระวิญญาณแห่งพระเจ้าของเรา”
(And such were some of you. But you were washed, you were sanctified, you were justified in the name of the Lord Jesus Christ and by the Spirit of our God.)
6:12“ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้” แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ “ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้” แต่ข้าพเจ้าไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของสิ่งใดเลย
(“All things are lawful for me,” but not all things are helpful. “All things are lawful for me,” but I will not be dominated by anything.)
6:13 “อาหารมีไว้สำหรับท้อง และท้องก็สำหรับอาหาร” แต่พระเจ้าจะทรงให้ทั้งท้องและอาหารสูญสิ้นไป ร่างกายนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับการล่วงประเวณี แต่มีไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า และองค์พระผู้เป็นเจ้ามีไว้สำหรับร่าง กาย”
(“Food is meant for the stomach and the stomach for food”—and God will destroy both one and the other. The body is not meant for sexual immorality, but for the Lord, and the Lord for the body.)
6:14 “พระเจ้าทรงทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นขึ้นมา และพระองค์จะทรงทำให้เราเป็นขึ้นมาโดยฤทธานุภาพของพระองค์”
(And God raised the Lord and will also raise us up by his power.)
6:15 “พวกท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าร่างกายของท่านเป็นอวัยวะของพระคริสต์? เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจะเอาอวัยวะของพระคริสต์ มาทำเป็นอวัยวะของหญิงโสเภณีได้หรือ? อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย”
(Do you not know that your bodies are members of Christ? Shall I then take the members of Christ and make them members of a prostitute? Never! )
6:16 “ท่านทั้งหลายรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าคนที่ผูกพันกับหญิงโสเภณีก็เป็นร่างกายเดียวกับนาง? เพราะว่ามีคำกล่าวไว้ว่า “เขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน”
(Or do you not know that he who is joined to a prostitute becomes one body with her? For, as it is written, “The two will become one flesh.”)
16:17 “แต่คนที่ผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นจิตวิญญาณเดียวกับพระองค์”
(But he who is joined to the Lord becomes one spirit with him.)
16:18 “จงหลีกหนีจากการล่วงประเวณี บาปอย่างอื่นที่มนุษย์ทำนั้นเป็นบาปนอกกาย แต่คนที่ล่วงประเวณีนั้น ทำผิดต่อร่างกายของตนเอง”
(Flee from sexual immorality. Every other sin a person commits is outside the body, but the sexually immoral person sins against his own body.)
16:19 “ท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่า ร่างกายของพวกท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้สถิตในท่าน ผู้ซึ่งพวกท่านได้รับจากพระเจ้า และท่านทั้งหลายไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง?”
(Or do you not know that your body is a temple of the Holy Spirit within you, whom you have from God? You are not your own,)
16:20 “เพราะว่าพระเจ้าทรงซื้อท่านไว้แล้วด้วยราคาสูง ฉะนั้น จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของพวกท่านเถิด”
(for you were bought with a price. So glorify God in your body.)
ข้อมูลมีประโยชน์
6:1 “เป็นความกัน” ( grievance against another) = คดีความเรื่องทรัพย์สิน (ปท.ข.7) ไม่ใช่คดีอาญาที่ต้องตัดสินโดยรัฐ (ศาล) –รม.13:3-4
“ธรรมมิกชน” (the saints) = ประชากรของพระเจ้า
= คริสเตียนที่เมืองโครินธ์ต้องหาข้อยุติคดีความเรื่องทรัพย์สินจากคริสเตียนที่มีวุฒิภาวะซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย –มธ.18:17
ในสมัยนั้น โรมยอมอนุญาตให้ชาวยิวใช้กฎหมายของตัวเองในการพิจารณาคดีทรัพย์สินได้
6:2 “ธรรมมิกชนจะพิพากษาโลก” (the saints will judge the world) = ธรรมิกชนผู้เชื่อกลายเป็นประชากรของพระเจ้าที่จะร่วมครองกับพระคริสต์ (ปท. มธ.19:28;2ทธ.2:12;วว.20:4;ลก.22:30;1คร.5:12
“พิพากษาเรื่องเล็กน้อย” (to try trivial cases) = ผู้เชื่อน่าจะมีความสามารถในการตัดสินคดีความท่ามกลางพวกของตน โดยการมองปัญหา/ข้อขัดแย้งจากมุมมองของพระเจ้า กอปรกับการมีบทบาทในอนาคตที่จะต้องพิพากษาโลกและทูตสวรรค์ การพิพากษาเรื่องเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่เล็กน้อยไปเลย
6:3 “เราจะพิพากษาพวกทูตสวรรค์” (we are to judge angels? ) -2ปต.2:4;9;ยด.6
6:4 “คนที่คริสตจักรไม่ยอมรับ” (who have no standing in the church? ) = เดิมแปลว่า “คนที่ไม่สำคัญ” หรือ “คนที่เล็กน้อยที่สุด” อาจหมายถึง
- เป็นผู้เชื่อที่เล็กน้อยที่สุดในคริสตจักร
- คือผู้ที่ไม่เชื่อหรือคนต่างศาสนา
= ไม่ว่าจะเป็นข้อใดล้วนไม่เหมาะสมที่จะให้ตัดสินคดีความภายในของพวกคริสเตียนในคริสตจักร
6:5 “เพื่อให้ท่านละอายใจ” (your shame) –1คร.4:14
“ในพวกท่านไม่มีสักคนหนึ่ง…วินิจฉัยเรื่องระหว่างพี่น้องหรือ?”( no one among you wise enough to settle a dispute between the brothers) –กจ.1:15
6:6 “แต่พี่น้องกับพี่น้อง” (but brother goes to law against brother) –รม.7:1
“ต่อหน้าคนที่ไม่มีความเชื่อ” ( before unbelievers) –2คร.6:14-15;1ทธ.5:8
6:7 “ตกจากระดับที่ควร” (a defeat for you) = พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว อาจเพราะความโกรธ, เกลียด แค้น โลภ หรือศักดิ์ศรีหน้าตา แทนที่จะอยู่ในระดับของความรัก การให้อภัยการเสียสละ และการมีน้ำใจต่อกันอย่างพระคริสต์
“ทำไมท่านจึงไม่ยอมถูกโกงเสียดีกว่า?” ( Why not rather be defrauded) –มธ.5:39-40
6:8 “…และโกงกันแม้กระทั่งพี่น้อง” (…wrong and defraud even your own brothers!) –1ธส.4:6
6:9-10 –ดู รม.1:29-31
6:9 “จะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า” ( not inherit the kingdom of God) –อฟ.6:5;มธ.25:34
“อย่าหลงผิดเลย” (Do not be deceived) –โยบ.13:9;1คร.15:33;กท.6:7;ยก.1:16
“พวกที่ล่วงประเวณี” (neither the sexually immoral) = พวกที่ผิดศีลธรรมทางเพศ ในที่นี้อาจหมายถึง 3 ประเภท คือ
- คนคบชู้
- คน(ผู้ชาย)ขายตัว
- ชายรักร่วมเพศ
-ในโรม 1:26 เพิ่มหญิงรักร่วมเพศด้วย
พระคัมภีร์บอกว่า คนที่ยังเลือกประพฤติเช่นนี้ต่อไป โดยไม่ยอมแก้ไขเปลี่ยนแปลง จะถูกตัดออกจากแผ่นดินของพระเจ้า รวมทั้งคนที่ทำผิดอื่น ๆ (ข.9-10)
“คนผิดผัวผิดเมีย” (adulterers) = คนคบชู้-ลนต.18:20;ฉธบ.22:22
“พวกรักร่วมเพศ” (men who practice homosexuality) – ลนต.18:22
6:10 “พวกฉ้อโกง” (nor swindlers ) = คนฉ้อฉล (1ทธ.1:10;วว.21:8;22:15)
6:11 “มีบางคนในพวกท่านเคยเป็นอย่างนี้” (much were some of you) = แม้พระเจ้าทรงเกลียดพฤติกรรมบาปเหล่านั้นที่เอ่ยมา แต่พระเจ้าก็ทรงช่วยคนประเภทที่กล่าวถึงในข้อ 9-10 -อฟ.2:2
“ได้รับชำระให้บริสุทธิ์แล้ว” (you were washed) = การชำระให้บริสุทธิ์ (กจ.22:16;1คร.1:2)
“ได้รับการชำระให้ชอบธรรมแล้ว” (you were sanctified, you were justified) = ถูกนับว่าเป็นคนชอบธรรม –รม.4:25
6:12 “ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้” (All things are lawful for me) = ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ทำทุกสิ่งได้ ไม่ใช่มีสิทธิ์ทำอะไรตามใจได้ทุกอย่างอย่างที่บางคนอ้าง –ข้อ 13; 7:1;10:23
“แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งนั้นเป็นประโยชน์” (but not all things are helpful) -1คร.10:23
= เปาโลกำลังชี้แจงว่า เสรีภาพทำอะไรตามใจอย่างที่อ้างนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตคริสเตียน
“แต่ข้าพเจ้าไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของสิ่งใดเลย” (but I will not be dominated by anything) =ไม่ยอมให้สิ่งใดมาเป็นนายของเรา หากใช้เสรีภาพอย่างไม่ถูกต้อง เราอาจกลายเป็นทาสของสิ่งที่เราทำ
6:13 “อาหารมีไว้สำหรับท้อง” (Food is meant for the stomach) = ชาวโครินธ์บางคนอ้างว่า การรับประทานอาหารทางกายไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ ฉะนั้น พฤติกรรมส่ำสอนทางเพศจึงไม่ส่งผลต่อชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณเช่นกัน
“ร่างกายนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับการล่วงประเวณี” (The body is not meant for sexual immorality)
–ศักดิ์ศรีของร่างกายของมนุษย์ก็คือ มีไว้เพื่อพระเจ้า ร่างกายจึงสำคัญ และพระเจ้าสร้างร่างกายนั้นเพื่อใช้ในชีวิตสมรสระหว่างชายและหญิง –17:2-5;ฮบ.13:4;รม.12:1;1คร.6:15,19
6:14 “ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นขึ้นมา…ทำให้เราเป็นขึ้นมา” (God raised the Lord and will also raise us up by his power) –เปาโลกล่าวถึงการเป็นขึ้นจากตายฝ่ายกายของพระเยซูคริสต์ และของผู้เชื่อ (1คร.15:51-53;1ธส.4:16-17)
เพราะฉะนั้น ร่างกายที่ถูกกำหนดไว้ให้เป็นขึ้นจากตายไม่ใช่ให้ใช้เพื่อการผิดศีลธรรม 6:15-รม.12:5;1คร.12:27
6:16 “ผูกพันกับหญิงโสเภณี ก็เป็นร่างกายเดียวกับนาง” (he who is joined to a prostitute becomes one body with her ) = ในเพศสัมพันธ์ ร่างกายของ 2 คนรวมเป็นหนึ่งเดียว (ปท. ปฐก.2:24;มธ.19:4-5) ปกติจะมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ทางเพศ การมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสเป็นการทำให้ความเป็นหนึ่งเดียวในการสมรสถูกบิดเบือนหรือละเมิดไป
-โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โสเภณีที่เมืองโครินธ์อุทิศตัวรับใช้เทวี อะโฟรไดท์ ซึ่งเป็นเทวีแห่งความรักและเพศ -17:21
6:17 “เป็นจิตวิญญาณเดียวกับพระองค์” (one spirit with him) = การเป็นหนึ่งเดียวในระดับสูงที่สุด ที่พระเจ้าประสงค์ให้เกิดขึ้นในชีวิตสมรส (อฟ.5:21-23,32)
6:18 “จงหลีกหนี” (Flee from sexual immorality) = วิธีที่ดีที่สุดในการรับมือบาปทางเพศ มิฉะนั้นอาจทำให้วิหารของพระเจ้าเสื่อมเสีย
6:19 “…เป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์” (is a temple of the Holy Spirit) = ร่างกายจึงต้องบริสุทธิ์ ปลอดจากการผิดศีลธรรมทางเพศ พร้อมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตและสำแดงฤทธิ์อำนาจผ่านร่างกายนี้ (รม.8:9)
“ไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง” ( you are not your own) –1ปต.2:9
6:20 “ซื้อท่านไว้แล้วด้วยราคาสูง” (bought with a price) -7:23
“จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของพวกท่านเถิด” (So glorify God in your body) -10:31;รม.6:12-13
คำถามนำอภิปราย
- คุณเคยมีความขัดแย้งหรือเป็นความกันกับพี่น้องคริสเตียนบ้างไหม? เป็นคนในโบสถ์หรือนอกโบสถ์? เรื่องอะไร? แล้วผลเป็นอย่างไร?
- คุณเคยมีคดีความกับคริสเตียนจนขึ้นโรงขึ้นศาลบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? แล้วผลเป็นอย่างไร?
- คุณเคยมีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลกับคนไม่เป็นคริสเตียนบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? แล้วลงเอยอย่างไร?
- คุณเคยรู้สึกตกใจ เสียใจ หรือเจ็บปวดกับการที่เห็นพี่น้อง(ผู้เชื่อ) ฟ้องร้องและไปว่าความกันเองต่อหน้าผู้พิพากษาที่ไม่เป็นคริสเตียนบ้างไหม? แล้วคุณทำอะไรบ้าง? ผลเป็นอย่างไร?
- คุณเคยถูกใครโกง(หรือเคยโกงใคร) บ้างไหม? เรื่องอะไร? คุณรู้สึกอย่างไร? แล้วคุณแก้ไขอย่างไร?
- มีปัญหาเรื่องพฤติกรรมอะไรที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นในวงการคริสเตียนหรือในคริสตจักรของคุณ ที่คุณรู้แน่ชัดว่าผิดพระคัมภีร์บ้างหรือไม่? แล้วคุณทำอย่างไรบ้าง? (เพราะอะไร?)
…..1) ลงมือแก้ไขทันที?
…..2) ตั้งใจแก้ไขแต่รอจังหวะ?
…..3) ไม่อยากแตะหรือข้องเกี่ยว?
- คุณหรือคนในคริสตจักรของคุณ มีปัญหาเรื่องประเวณีหรือเรื่องเพศ บ้างหรือไม่? เกี่ยวกับอะไร? แล้วมีการแก้ไขอะไรหรือไม่? อย่างไร? ผลที่เกิดขึ้นคืออะไร?
- จากบทเรียนในวันนี้ เมื่อคุณรู้ว่า ร่างกายของคุณคือวิหารของพระเจ้า คุณจะปฏิบัติต่อร่างกายของคุณเหมือนเดิมหรือแตกต่างจากเดิม? และอย่างไรบ้าง?
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์