“พระองค์ทรงรักษาคนที่ชอกช้ำระกำใจ และทรงพันผูกบาดแผลของเขา” (สดุดี 147:3)
ตอนโตขึ้นมา ฉันชอบดูรายการทีวีที่มีเรื่องราวของครอบครัวเปี่ยมสุข ถึงจะมีปัญหาก็แก้ไขได้ในสามสิบนาที และยิ่งถ้าเป็นโชว์ที่แม่เป็นคนน่ารักและใจดีกับลูกๆ ฉันอยากมีแม่แบบนั้นจริงๆ
แต่พอรายการจบลง ครอบครัวจริงของเราห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบ
ยิ่งเรารักแม่มากเท่าไร คุณพ่อและพวกพี่ๆต่างก็กลัวว่าจะไปทำให้แม่ออกอาการเพราะอารมณ์เสีย บางสิ่งผิดปกติ แต่ฉันไม่รู้ว่าคืออะไร มันเป็นความลับของครอบครัว
คืนแล้วคืนเล่าที่ฉันนอนร้องไห้อยู่บนเตียง “พระเจ้า ทำไมพ่อแม่ต้องทะเลาะกันด้วย? ทำไมแม่ถึงพูดแบบนั้นกับพ่อ? แม่ไม่ได้รักพ่อเหรอ?”
ฉันเฝ้าแต่ถาม “พระเจ้า ช่วยเราไม่ได้หรือ? ช่วยให้มันจบลงเสียที” ฉันต้องแบกความหนึกอึ้งนี้ไปโรงเรียนทุกวัน ไม่ว่าจะทำอะไร มีเพื่อนมากแค่ไหน ก็ยังรู้สึกโดดเดี่ยวตลอดเวลา คิดว่าเป็นคนเดียวที่ครอบครัวมีความลับดำมืด
วิกฤติที่เกิดขึ้นในครอบครัวของเรา ทำให้คุณพ่อแสวงหาพระเจ้าในคำอธิษฐานและศึกษาพระคัมภีร์ ท่านมักจะบอกเราพี่ๆน้องๆว่า “คุณแม่ของลูกไม่สบาย เธอไม่ได้หมายความอย่างที่พูดหรือทำ” การที่คุณพ่อพึ่งพิงพระเจ้าอย่างสุดหัวใจในช่วงเวลาเหล่านั้น ทำให้ฉันเห็นแบบอย่างแห่งการเยียวยาบางคนในท่ามกลางความทุกข์ใจแสนสาหัส
เมื่อเวลาผ่านไป ฉันพบว่าแม่ตกเป็นเหยื่อของความเจ็บป่วยบางอย่าง ไม่ได้เป็นคนชั่วร้าย แม้ความเจ็บปวดของท่านจะเป็นความเจ็บปวดของฉัน ฉันเริ่มแยกแยะได้ระหว่างสิ่งที่ท่านทำและอดีตที่ท่านเคยเป็น เรียนรู้ที่จะรักท่านอย่างไม่มีเงื่อนไข และยังตระหนักด้วยว่าครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวเดียวที่มีความลับ ความเครียดและอาการป่วยทางจิตส่งผลมหาศาลต่อคนมากมายที่อยู่ใกล้ชิด
ด้วยการรักษาและพระคุณของพระเจ้า อาการของคุณแม่ดีขึ้น ท่านยังได้มอบชีวิตให้พระเยซูด้วย บางครั้งฉันสงสัยว่าคุณพ่อจะเติบโตฝ่ายวิญญาณได้ขนาดนี้หรือ ถ้าไม่ใช่เพราะอาการป่วยของแม่ ฉันและพี่ๆจะมีนิสัยรักการอธิษฐาน อดทน และรับใช้ที่โบสถ์ตั้งแต่เล็กๆหรือ ถ้าคุณพ่อไม่ได้ติดตามและนำลูกๆรับใช้พระเยซูอย่างซื่อสัตย์?
คุณพ่อติดตามพระเยซูอย่างซื่อสัตย์ และแบกรับกางเขนของท่านในแต่ละวัน เช่นเดียวกับพระผู้ช่วยของเรา ท่านเรียนรู้เรื่องการเชื่อฟังผ่านความทุกข์ลำบาก (ฮีบรู 5:8) และฤทธิอำนาจแห่งการมีชีวิตที่พึ่งพิงพระเยซูคริสต์ กลายเป็นคำพยานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับพวกพี่ๆและตัวฉัน
เมื่อเวลาผ่านไป ความลับของครอบครัวก็เปลี่ยนไป – จากคุณแม่ที่มีอาการป่วยทางจิต มาพบกับการบำบัดรักษาจากพระเจ้า พระวจนะวันนี้จึงเป็นจริงในชีวิตของฉัน : “พระองค์ทรงรักษาคนที่ชอกช้ำระกำใจ และทรงพันผูกบาดแผลของเขา” ผ่านการต่อสู้ของคุณแม่ พระเจ้าทรงใช้สิ่งนี้สำแดงให้ครอบครัวเราเห็นว่านอกจากพระองค์แล้ว ไม่มีทางอื่นใด
บางทีคุณอาจมีความลับของครอบครัว บางทีคุณต้องต่อสู่เพื่อรักษาความเชื่อไว้ และพบว่ามันยากที่จะเชื่อฟัง – เชื่อฉันเถอะ พระเจ้าของเราทรงสัตย์จริงเสมอ (2ทิโมธี 2:13) ดูเหมือนพระองค์เงียบเฉยหรือหายไปในวันนี้ แต่พระประสงค์ของพระเจ้าจะชัดเจนและส่งเสียงดังในอนาคต หยุดชีวิตที่คิดหรือทำเองเถอะ เพราะมันคุ้มกว่าหาเปรียบไม่ได้กับชีวิตในพระคริสต์ และมาวางใจในทางของพระองค์
โดย : Nancy Mcguirk
Encouragement for today : www.crosswalk.com