เขาตอบว่า “ชายคนนั้นเป็นคนบาปหรือไม่ข้าพเจ้าไม่ทราบ สิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าทราบคือข้าพเจ้าเคยตาบอด แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ามองเห็นได้แล้ว” (ยอห์น 9:25)
วันหนึ่งขณะพระเยซูเดินไปตามถนนฝุ่นในกรุงเยรูซาเล็ม และพบกับชายตาบอดแต่กำเนิดนั่งอยู่ข้างทาง พระองค์ทรงบ้วนน้ำลายลงดิน ทำน้ำลายเป็นโคลน ทาไปที่ตาของชายคนนั้น และตรัสว่า “จงไปล้างโคลนออกเสียในสระสิโลอัมเถิด”
เมื่อชายผู้นั้นล้างโคลนที่ตาออก เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขามองเห็น เห็นแสงอาทิตย์ เห็นน้ำกระเพื่อมในสระ เห็นลายเส้นบนฝ่ามือของตัวเอง เขามองเห็นแล้ว ผู้คนในเมืองต่างก็รู้สึกประหลาดใจ ถามกันว่า “คนนี้ใช่ไหมที่เคยนั่งขอทาน?”
“ใช่ ข้าพเจ้าคือคนนั้น” เขาตอบด้วยความดีใจ “คนนั้นแหละ”
“ตาของเจ้าหายบอดได้อย่างไร?” พวกเขาถาม
“ชายคนหนึ่งชื่อเยซูได้ทำโคลนทาตาของข้าพเจ้า และบอกข้าพเจ้าว่า ‘จงไปที่สระสิโลอัมแล้วล้างโคลนออกเสีย’ ข้าพเจ้าก็ได้ไปล้างตา จึงมองเห็นได้”
พวกคนสำคัญทางศาสนาต่างก็ไม่ชอบใจที่เห็นพระเยซูรักษาคนตาบอดในวันสะบาโต พวกเขาเป็นห่วงเรื่องบทบัญญัติมากกว่าห่วงชายตาบอดนั้น จึงเรียกตัวมาสอบถาม
“เขาเอาโคลนมาทาที่ตา พอไปล้างออก ก็มองเห็น”
ยังไม่พอใจ ไปเรียกตัวบิดามารดาของชายคนนั้นมาสอบถามอีก “ข้าพเจ้าทราบว่าคนนี้เป็นบุตรของข้าพเจ้า และทราบว่าเขาเกิดมาตาบอด แต่ไม่รู้ว่าทำไมเดี๋ยวนี้เขาจึงมองเห็นใครทำให้ตาของเขาหายบอด ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบ จงถามเขาเถิด เขาโตแล้ว เขาคงเล่าเรื่องของเขาเองได้”
พวกเขาจึงพาชายตาบอดแต่กำเนิดมาสอบถามอีก พูดว่า “จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด เรารู้อยู่ว่าชายคนนั้นเป็นคนบาป”
เขาตอบว่า “ท่านนั้นเป็นคนบาปหรือไม่ข้าพเจ้าไม่ทราบ สิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าทราบ ก็คือว่าข้าพเจ้าเคยตาบอด แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ามองเห็นได้แล้ว”
คุณไม่อาจโต้แย้งคำพยานส่วนตัวของใครบางคนได้ ในหนังสือ “ชีวิตที่เคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์” อ.ริค วอร์เรน พูดไว้ว่าเล่าเรื่องส่วนตัวของบางคนนั้นง่ายกว่าพูดเรื่องหลักการ และคนก็ชอบฟังด้วย เพราะจับใจและจำได้นาน คนที่ไม่เชื่ออาจหมดความสนใจถ้าคุณเริ่มพูดเรื่องหลักศาสนศาสตร์ แต่พวกเขาจะมีความอยากรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้อื่นที่เขายังไม่เคยเจอ แบ่งปันเรื่องราวของคุณ สร้างสะพานที่พระเยซูสามารถเดินจากใจคุณไปถึงใจผู้อื่นได้
ใช่ค่ะ ชายที่เคยตาบอดเดี๋ยวนี้มีเรื่องมาเล่าให้ผู้อื่นฟัง พระเจ้าทรงวางแผนไว้ล่วงหน้า ก่อนการอัศจรรย์จะเกิดขึ้น สาวกของพระเยซูถามว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ใครได้ทำผิดบาป ชายคนนี้หรือบิดามารดาของเขา เขาจึงเกิดมาตาบอด?”
พระเยซูตรัสตอบว่า “มิใช่ว่าชายคนนี้หรือบิดามารดาของเขาได้ทำบาป แต่เขาเกิดมาตาบอด เพื่อให้พระราชกิจของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา” (ยอห์น 9:2-3)
บางครั้งชีวิตก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิด แล้วเราก็ร้องว่า “ทำไมล่ะพระเจ้า ทำไม?”
และคำตอบของพระเจ้าเหมือนเดิม “เพื่อให้พระราชกิจของพระเจ้าปรากฏในตัวคุณ”
โดย : Sharon Jaynes
อนุญาตโดย Girlsfriend in God : www.crosswalk.com