“อดีตคือ ที่ ๆ คุณเรียนรู้บทเรียน อนาคตคือ ที่ ๆ คุณนำบทเรียนนั้นไปใช้!”
(The Past is where you learned the lesson. The future is where you apply the lesson.)
อดีตคือ สิ่งที่ผ่านมาแล้ว เราจะกลับไปแก้ไขหรือเปลี่ยนเปลงอะไรอีกย่อมไม่ได้
ปัจจุบัน เป็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เราจึงจะทำอะไรกับมันก็ย่อมทำได้ แต่สิ่งที่เราได้ทำจะกลับกลายเป็นอดีตของวันพรุ่งนี้
อนาคต คือ สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่หากมันจะเกิดขึ้น มันก็คือ ผลจากการกระทำของเราทั้งในอดีต และในปัจจุบันนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วได้กลายเป็นบทเรียน!
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นสิทธิ์ที่เรากำหนดเองว่า เราต้องการให้เกิดบทเรียนอะไรเกิดขึ้น!
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือ การนำเอาบทเรียนที่ได้จากอดีต และปัจจุบัน (ซึ่งจะกลายเป็นอดีตแล้วเช่นกัน) ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตและการทำงานของเรา
ดังนั้น อย่าให้เราทำผิดพลาดในวันนี้ เพราะนั่นจะกลายเป็นปัญหาของวันหน้า แต่หากเราได้ทำผิดพลาดไปแล้วก็อย่าถอดใจ ขอให้เรารีบแก้ไขก่อนที่อนาคตจะมาถึง
พี่น้องที่รัก เราสามารถจะแยกแยะความผิดพลาดได้ดังนี้
- การทำพลาด คือ การกระทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำ โดยไม่เจตนา
- การทำผิด คือ การกระทำสิ่งที่ไม่สมควรทำ โดยเจตนา หรือตั้งใจ
แน่นอนว่า คนเราพอให้อภัยกันได้สำหรับความพลาดพลั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกได้ไม่ยาก
แต่ก็ไม่ง่ายนักที่จะให้อภัยการกระทำผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการทำผิด (บาป)นั้นอีกซ้ำซาก
อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรักที่ทรงเมตตาต่อคนบาปอย่างเราที่มักกระทำผิดและพลาด
“เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า” (โรม 3:23)
ด้วยเหตุนี้ โดยสันดานและโดยพฤติกรรมเราจึงสมควรต่อพระอาชญาของพระเจ้า แต่กระนั้น พระเจ้าก็ยังทรงรักคนบาปอย่างเรา พระองค์ทรงสำแดงพระคุณเหลือล้น โดยการให้องค์พระเยซูคริสต์พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เสด็จลงมาตายไถ่บาปแทนพวกเราบนไม้กางเขน
“แต่พระเจ้าทรงมีพระคุณให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว” (โรม 3:24)
นอกจากนี้ พระองค์ยังทำให้เรากลายเป็นคนชอบธรรมในสายพระเนตรของพระองค์ด้วย
“พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซูไว้ให้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ ความเชื่อจึงได้ผล ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นความชอบธรรมของพระเจ้า ในการที่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัย และทรงยกบาปที่ได้ทำไปแล้วนั้น และเพื่อจะสำแดงในปัจจุบันนี้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรม และทรงให้ผู้ที่เชื่อในพระเยซูเป็นผู้ชอบธรรมด้วย” (โรม 3:25-26)
ฉะนั้น ขอให้เราทุกคนเรียนรู้จักบทเรียนล้ำค่าจากอดีตของเรา โดยเฉพาะบทเรียนที่เกิดจากความผิดพลาดที่เราทำเอง หรือที่ผู้อื่นกระทำต่อเรา และให้เราดำเนินชีวิตด้วยการประยุกต์บทเรียนนั้น ๆ อย่างเหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน และอนาคตของเรา เพื่อว่าจะเกิดผลดีอันเป็นพรแก่ตัวของเราเองและของคนมากหลาย โดยเริ่มต้น ณ บัดนี้เลย !
…จะดีไหม?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer