“เพราะว่าเราเป็นอวัยวะของพระกายของพระองค์ ‘เพราะเหตุนี้เอง ผู้ชายจะละบิดามารดาไปผูกพัน อยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน’ ความล้ำลึกในเรื่องนี้สำคัญ และข้าพเจ้าเข้าใจว่าหมายถึงพระคริสต์และคริสตจักร” (เอเฟซัส 5:30-32)
Because we are members of his body.“Therefore a man shall leave his father and mother and hold fast to his wife, and the two shall become one flesh.” This mystery is profound, and I am saying that it refers to Christ and the church. (Ephesians 5:30-32)
น่าเสียดายที่หลายคนมาเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์แล้ว แต่ไม่ยอมโต!
เขายังพอใจอยู่กับสภาพก่อนที่จะรู้จักกับพระคริสต์
กล่าวคือ เขาเคยมีวิถีชีวิตเป็นอยู่อย่างไร ก็ดำเนินตามนั้นต่อไป หลังจากที่เชื่อพระองค์แล้ว
เขาทำเหมือนกับว่า องค์พระคริสต์ไม่ได้มีส่วนสำคัญอะไรจริง ๆ ในชีวิตของเขาเลย
พระองค์เป็นเหมือนกับคนที่เดินเข้ามาชั่วคราว หรือชั่วครู่หนึ่งในชีวิตของเขาเท่านั้น
เขาทำตัวคล้าย ๆ กับหญิงสาวที่ประสบพบรักกับชายหนุ่ม ผู้ที่รักเธอประดุจแก้วตาดวงใจ แต่หลังจากแต่งงานกันแล้ว เธอทำตัวราวกับว่า สามีของเธอไม่มีตัวตน หรือมีตัวตนก็ไม่มีความสลักสำคัญใด ๆ แค่เอาไว้ว่าง ๆ เธอค่อยไปหาเท่านั้น
อาจเริ่มจากการที่เธอไปหาเขาอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ในวันอาทิตย์แค่นั้น
และจากนั้น เมื่ออยู่ต่อมานาน ๆ เข้า เธอก็จะหายไปหลายอาทิตย์ บางทีก็หลายเดือน เธอจึงค่อยกลับมาหาเขาเป็นครั้งคราว
…แต่กระนั้น เธอก็อยู่ด้วยกับเขาไม่นาน และแล้วเธอก็รีบจากไป ในทันทีเท่าที่โอกาสจะเอื้ออำนวย
ดูเหมือนว่า เธอมีความสุขในยามที่เธอไม่ได้เจอะเจอเขามากยิ่งกว่าตอนที่ทั้ง 2 ได้พบปะกัน
เธอมีความสุขอยู่กับคนอื่นที่อยู่รอบข้างตัวของเธอ เธอมีความเพลิดเพลินใจกับกิจกรรมที่เธอชอบ และเธอสาละวนอยู่กับกิจธุระต่าง ๆ ในชีวิตของเธออย่างพึงพอใจ
เธอไม่เปิดโอกาสให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสามีของเธอเติบโตพัฒนาขึ้นอย่างลึกซึ้งมากไปกว่าเท่าที่มีเลย
คำถาม แล้วเธอกับสามีของเธอจะหยั่งรากลงลึกในความสัมพันธ์แห่งรักผูกพันอันลึกซึ้งได้อย่างไร?
ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ผู้เป็นคนบาปอย่างเรากับพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ก็เป็นเช่นนั้น!
วันนี้ เราปฏิบัติตัวต่อพระเจ้าเช่นดังที่พรรณนามาแล้วหรือไม่?
คุณพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับพระเจ้า ผู้ทรงรักคุณแค่เพียงอาทิตย์ละครั้งเท่านั้น หรือไม่?
หรือแย่ยิ่งไปกว่านั้นอีก กี่อาทิตย์แล้วที่คุณไม่เคยเข้ามาหาพระเจ้า ณ ที่บ้าน (คริสตจักร) เลย?
แน่นอนว่า ในยุคปัจจุบันนี้ เราสามารถสื่อสารกันได้หลายช่องทาง เราสามารถเข้าเฝ้าพระเจ้าได้ ณ ที่ ๆ เราอยู่
แต่นั่นก็ไม่อาจแทนที่การมีความสัมพันธ์ที่ได้พบเจอะเจอกันและกันแบบหน้าต่อหน้าได้
เราสามารถส่ง SMS ส่งข้อความ เนื้อหา ภาพต่าง ๆ ให้แก่กันและกันได้ผ่านทางสื่อ online หรือ Social network ต่าง ๆ แต่นั่นก็ไม่อาจแทนที่การมีปฏิสัมพันธ์ และใช้เวลาร่วมกันจริง ๆ แบบหน้าต่อหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่างเป็นกลุ่มก้อนแบบคนในครอบครัวที่ใช้เวลาด้วยกันได้เลย!
ดังนั้น หากว่าวันนี้คุณเป็นผู้เชื่อในพระคริสต์แล้ว อย่าให้สิ่งใด อะไร หรือคนใด มาดึง มาฉุด มาขวางหรือมาแทรกในความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพระคริสต์เป็นอันขาด!
ขอให้คุณมีเวลาสนทนากับพระองค์ในวันต่อวัน และในทุกสถานการณ์ของชีวิต และขอให้คุณถือว่าเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ในการจัดเวลาอาทิตย์ละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย มาใช้เวลากับพระองค์ร่วมกับพี่น้องคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่คริสตจักรของคุณจัดไว้เป็นวันประชุมนมัสการร่วมกัน ซึ่งโดยทั่วไปมักจะเป็นวันอาทิตย์ (ไม่ว่าจะเป็นเช้าหรือบ่าย)
หวังว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะตั้งเป้า ตั้งใจ และตั้งต้น ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ของคุณกับองค์พระคริสต์และพี่น้องในครอบครัวของคุณให้ดีขึ้นและลึกซึ้งมากขึ้น
…จะเป็นไปได้ไหมครับ !
ตอบที!
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer