หว่านอะไรลง ก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น
คำพูดที่คุ้นเคยนี้มักถูกนำไปใช้อ้างเมื่อพูดถึงคนที่ทนทุกข์เพราะความผิดของตัวเอง แต่อย่าลืมว่าสามารถนำไปใช้อ้างได้กับคนที่รับผลดีเพราะการทำความดี
เราอ่านเรื่องนี้ได้ในกาลาเทีย 6:7 – อย่าหลงเลย ท่านจะหลอกลวงพระเจ้าไม่ได้ เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น – และถูกนำไปขยายความต่อในข้อที่ 8 – ผู้ที่หว่านในย่านเนื้อหนังของตน ก็จะเกี่ยวเก็บความเปื่อยเน่าจากเนื้อหนังนั้น แต่ผู้ที่หว่านในย่านพระวิญญาณ ก็จะเกี่ยวเก็บชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณนั้น
เป็นความจริง ใครก็ตามที่ “หว่านในย่านเนื้อหนัง” (ปล่อยตัวไปตามความต้องการของเนื้อหนังคือ – การล่วงประเวณี การโสโครก การลามก การนับถือรูปเคารพ การถือวิทยาคม การเป็นศัตรูกัน การวิวาทกัน การริษยากัน การโกรธกัน การใฝ่สูง การทุ่มเถียงกัน การแตกก๊กกัน การอิจฉากัน การเมาเหล้า การเล่นเป็นพาลเกเรและการอื่นๆในทำนองนี้อีก …คนที่ประพฤติเช่นนั้นจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า)
และเป็นความจริงด้วย ใครก็ตามที่ “หว่านในพระวิญญาณ” (ผลของพระวิญญาณคือ – ความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน) …ก็จะเก็บเกี่ยวผลแห่งชีวิตนิรันดร์
แล้วเราจะหว่านในพระวิญญาณได้อย่างไร?
เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาส ให้เราทำดีต่อคนทั้งปวง และเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวที่มีความเชื่อ
กาลาเทีย 6:10
หว่านในพระวิญญาณ : ทำความดี
อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร
กาลาเทีย 6:9
ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ท่านอย่าอ่อนใจที่จะกระทำการดีเลย
2 เธสะโลนิกา 3:13
จงอย่าละเลยที่จะกระทำการดี และจงแบ่งปันข้าวของซึ่งกันและกัน
เพราะเครื่องบูชาอย่างนั้นเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
ฮีบรู 13:16
คือเรื่องพระเยซูชาวนาซาเร็ธ…พระเยซูเสด็จไปกระทำคุณประโยชน์…
กิจการ 10:38
ถ้อยคำสอนใจ
ผู้ที่อยู่ฝ่ายพระเยซูคริสต์ได้เอาเนื้อหนังกับความอยาก และตัณหาของเนื้อหนังตรึงไว้ที่กางเขนแล้ว
ถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณ ก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย
กาลาเทีย 5:24-25
โดย : Ron Adams
Thursdaythought.homestead.com