Categories
บทความแปล

ระบายความในใจ

ฮันนาห์อธิษฐาน

แต่ฮันนาห์ตอบว่า “…ดิฉันเป็นหญิงที่มีทุกข์หนัก ดิฉันมิได้ดื่มเหล้าองุ่นหรือเมรัย แต่ดิฉันระบายความในใจของดิฉันออกต่อพระเจ้า (1ซามูเอล 1:15)

หนังสือซามูเอลในพระคัมภีร์เดิม บันทึกเรื่องราวของนางฮันนาห์ สตรีของพระเจ้าที่กำลังมีปัญหาหนักหน่วง และไม่ใช่ปัญหาธรรมดาที่เกิดขึ้นชั่วครู่ แต่เป็นปัญหาที่สืบเนื่องมานานหลายปี ทำให้เธอรู้สึกว่างเปล่าและทุกข์ระทม ชีวิตคุณเคยเป็นเช่นนี้มั้ย? แน่นอน เราทุกคนเคย เราแต่ละคนต้องผ่านการทดสอบและเผชิญกับความเจ็บปวด

ฮันนาห์เป็นหมัน และยังถูกภรรยาอีกคนของสามีระราน ทำให้เธอย่ำแย่ลงไปอีก ใช่ค่ะ ภรรยาอีกคน เธอเป็นหนึ่งในภรรยาสองคนของสามี … เป็นวัฒนธรรมปกติของสมัยนั้น … แต่ก็ไม่ง่ายอยู่ดีไม่ว่าจะมองจากมุมไหน (อ่านเรื่องของฮันนาห์ได้ใน 1ซามูเอลบทที่ 1-2) ที่สำคัญในความทุกข์ใจของเธอ เธอไม่ได้พยายามปิดบัง แต่กลับเปิดเผย “ดิฉันเป็นหญิงที่มีทุกข์หนัก” (1ซามูเอล 1:15)

มีหลายบทเรียนที่เราเรียนได้จากนางฮันนาห์ แต่วันนี้ขอพูดถึง “ท่าทีตอบสนอง” ของเธอต่อปัญหาที่สุมอกอยู่ ฮันนาห์นำปัญหาของเธอมามอบให้พระเจ้า ร้องทูลต่อพระองค์ “นางเป็นทุกข์ร้อนใจมากอธิษฐานต่อพระเจ้า และร้องไห้คร่ำครวญ” (1ซามูเอล 1:10) เธอนำปัญหาของเธอตรงไปที่พระเจ้า           

ฉันไม่ทราบเกี่ยวกับคุณ แต่หลายครั้งนับไม่ถ้วน ฉันมุ่งไปที่โทรศัพท์ ก่อนมุ่งไปที่พระบัลลังก์ของพระเจ้า คุณจะร้องไห้กับใครในเวลาที่มีทุกข์หนัก? คุณเทใจของคุณให้พระเจ้าหรือเปล่า หรือแค่อธิษฐานทูลขอให้ผ่านๆไป? ฮันนาห์ไม่ได้แค่คุกเข่าเดี๋ยวเดียว แต่เธอระบายความในใจ ความทุกข์โศกเศร้า ผิดหวัง ความขุ่นเคืองใจ เครียด กดดัน สับสน และความอับอายให้กับพระองค์

เธอเทความรู้สึกว่างเปล่าในจิตใจให้พระองค์ – ทายสิว่าเกิดอะไรขึ้น? พระเจ้าเติมสันติสุขให้เธออย่างเต็มเปี่ยม! ก่อนจะไปเข้าเฝ้าพระเจ้า เธอทานอาหารไม่ลง มีแต่ท้อแท้สิ้นหวัง หลังจากระบายความในใจให้พระเจ้า พระคัมภีร์บันทึกว่าเธอเริ่มทานอาหารได้ ความเศร้าโศกเริ่มหายไป “แล้วหญิงนั้นก็ไปและรับประทานอาหาร และใบหน้าของนางก็ไม่โศกเศร้าอีกต่อไป” (1ซามูเอล 1:18) ฮันนาห์ไม่รู้สึกหดหู่ เพราะเธอได้สัมผัสพระองค์ได้รับประสบการณ์จากพระเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่เปลี่ยนชีวิตได้

พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ พระองค์ปรารถนาจะเติมวิญญาณเราให้เต็มด้วยสันติสุขของพระองค์ ไม่ว่าเราจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด ฮันนาห์เปลี่ยนไประหว่างการสถิตอยู่ขององค์พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ให้เราดูว่าเธอไม่ได้แค่คุกเข่าลงอธิษฐานชั่วครู่ เธอทรุดตัวลงคร่ำครวญและใช้เวลากับพระองค์

ครั้งสุดท้ายเมื่อไรที่คุณใช้เวลาจริงจังกับพระเจ้า?

เวลาที่มีปัญหา?

เวลาที่เจอตัวการสร้างปัญหา?

กำลังเผชิญสถานการณ์ที่หาทางออกไม่ได้?

“สาธุการแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงค้ำชูเราทั้งหลายอยู่ทุกวัน พระเจ้าผู้ทรงเป็นความรอดของเรา” (สดุดี 68:19) เมื่อคุณจริงจังกับพระเจ้า … เมื่อคุณจริงใจระบายความในใจกับพระองค์ พระองค์จะทรงแทนที่ความว่างเปล่าในใจคุณด้วยสันติสุขของพระองค์ ไม่ว่าจะทรงยกภาระของคุณออกไป หรือให้มันอยู่ในที่เดิม

เพื่อนๆที่รัก อย่าได้สงสัยเลย พระเยซูเองตรัสว่า “พระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง” (มาระโก 10:27) ให้เรากล้าที่จะเข้าใกล้พระองค์ด้วยความมั่นใจ ด้วยรู้ว่าพระองค์ทรงรักเรา ทรงสามารถทำได้ทุกสิ่ง และทำได้มากกว่าที่เราทูลขอหรือคิดได้ จงใช้เวลากับพระองค์ และระบายความในใจที่กำลังทำร้ายคุณอยู่ได้เลย

โดย : Gwen Smith

อนุญาตโดย Girlsfriend in God : www.crosswalk.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.