Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

ปัญญาจารย์ บทเรียนที่ 10

ความโง่ ความชั่ว และความเกียจคร้าน

พระธรรม    ปัญญาจารย์ 10:1-20

อ้างอิง        สภษ.10:32;16:14;26:27;13:16;14:3;18:2,7;29:2;31:4;15:2;19:10;20:4;24:30-34

บทนำ       ในชีวิตของเรามีโอกาสประสบสิ่งเลวร้ายเสมอ หากว่า เราพูดหรือทำอะไรโง่ ๆ

ดังนั้น เราต้องระมัดระวังในการดำเนินชีวิตของเรา อย่าพูดหรือทำอะไรโง่ ๆ แต่ให้มีสติปัญญา มีจิตสำนึก    มีคุณธรรม และมีความสุข!

 

บทเรียน

10:1 “แมลงวัน​ตาย ย่อม​ทำ​ให้​น้ำมันหอม​บูดเหม็น​ไป ความ​เขลา​เพียง​เล็กน้อย​ก็​สามารถ​ทำลาย​ปัญญา​และ​ เกียรติยศ

     (Dead flies make the perfumer’s ointment give off a stench;so a little folly outweighs wisdom  and honor.)

10:2 “จิตใจ​ของ​คน​มี​ปัญญา ย่อม​นำ​ไป​ทาง​ขวามือ​ของ​เขา แต่​จิตใจ​ของ​คน​เขลา ย่อม​นำ​ไป​ทาง​ซ้ายมือ​ของ​เขา”

                 (A wise man’s heart inclines him to the right,but a fool’s heart to the left.)

10:3 “แม้​เมื่อ​คน​เขลา​กำลัง​เดิน​ไป​ตามทาง เขา​ก็​ขาด​สติ และ​มัก​แสดง​แก่​ทุก​คน​ว่า ตน​เป็น​คน​เขลา”

       (Even when the fool walks on the road, he lacks sense,and he says to everyone that he is a   fool.)

10:4 “ถ้า​อารมณ์​โกรธ​ของ​ผู้ครอบครอง​พลุ่ง​ขึ้น​ต่อ​ท่าน อย่า​ลุก​จาก​ที่​ของ​ท่าน เพราะ​ว่า​อารมณ์​เย็น​ย่อม​ระงับ​ความ​ผิด​ใหญ่หลวง​ไว้​ได้”

   (If the anger of the ruler rises against you, do not leave your place,for calmness will lay great  offenses to rest.)

10:5 “มี​สิ่ง​สามานย์​ที่​ข้าพเจ้า​เห็น​ภายใต้​ดวงอาทิตย์ ประหนึ่ง​ว่า​เป็น​ความ​ผิด​ซึ่ง​มา​จาก​ผู้​มี​อำนาจ”

     (There is an evil that I have seen under the sun, as it were an error proceeding from the ruler:)

10:6 “คือ​คน​เขลา​ถูก​แต่งตั้ง​ไว้​ใน​ตำแหน่ง​สูงใหญ่ และ​คน​มั่งคั่ง​รับ​ตำแหน่ง​ต่ำต้อย” 

   (folly is set in many high places, and the rich sit in a low place. )

10:7 “ข้าพเจ้า​เห็น​ทาส​ขี่​ม้า และ​เจ้านาย​เดิน​ที่​พื้นดิน​อย่าง​ทาส”

     (I have seen slaves on horses, and princes walking on the ground like slaves.)

10:8 “ผู้​ใด​ขุด​บ่อ​ไว้ ผู้​นั้น​จะ​ตก​ลงใน​บ่อ​นั้น ผู้​ใด​พัง​กำแพง​ทะลุ​เข้า​ไป งู​จะ​ขบ​กัด​ผู้นั้น”

       (He who digs a pit will fall into it,and a serpent will bite him who breaks through a wall.)

10:9 “ผู้​ใด​สกัด​หิน ผู้​นั้น​อาจ​เจ็บ​เพราะ​หิน​นั้น ผู้​ใด​ผ่า​ขอนไม้ ผู้​นั้น​จะ​ประสบ​อันตราย​เพราะ​ขอนไม้​นั้น​ได้”

     (He who quarries stones is hurt by them,and he who splits logs is endangered by them.)

10:10 “ถ้า​ขวาน​ทื่อ​แล้ว และ​เขา​ไม่​ลับ​ให้​คมเขา​ก็​ต้อง​ออก​แรง​มาก แต่​ประโยชน์​ของ​ปัญญา​คือ​การ​นำ​มา​ซึ่ง​ความ​สำเร็จ”

     (If the iron is blunt, and one does not sharpen the edge,he must use more strength,but wisdom helps one to succeed.)

10:11 “ถ้า​งู​ขบ​เสีย​ก่อน​ที่​ทำ​ให้​มัน​เชื่อง หมอ​งู​ก็​ไม่ได้​ประโยชน์​อะไร​แล้ว”

       (If the serpent bites before it is charmed,there is no advantage to the charmer.)

10:12 “ถ้อยคำ​จาก​ปาก​ของ​ผู้​มี​ปัญญา​ทำ​ให้​เขา​เป็น​ที่​โปรดปราน แต่​ริมฝีปาก​ของ​คน​เขลา​จะ​เผาผลาญ​ตัว​เขา​เสีย”

       (The words of a wise man’s mouth win him favor,but the lips of a fool consume him.)

10:13 “ถ้อยคำ​จาก​ปาก​ของ​เขา​เป็น​ความ​เขลา​ตั้งแต่​เริ่ม​ปริปาก ตอนจบ​ของ​คำ​พูด​ก็​เป็น​ความ​บ้าบอ​อย่าง​ร้าย”

     (The beginning of the words of his mouth is foolishness,and the end of his talk is evil madness.)

10:14 “คน​เขลา​พูด​มาก​ซ้ำซาก มนุษย์​ไม่​รู้​ว่า​อะไร​จะ​เกิดขึ้น ใคร​จะ​บอก​เขา​ได้​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​เมื่อ​เขา​จาก​ไป?”

       (A fool multiplies words,though no man knows what is to be,and who can tell him what will be  after him?)

10:15 “การ​ตรากตรำ​ของ​คน​เขลา​ทำ​ให้​เขา​เหน็ดเหนื่อย เพราะ​ว่า​เขา​ไม่​รู้จัก​ทาง​เข้า​เมือง”

               (The toil of a fool wearies him,for he does not know the way to the city.)

10:16 “โอ แผ่นดิน​เอ๋ย วิบัติ​แก่​เจ้า​เมื่อ​กษัตริย์​ของ​เจ้า​เป็น​เพียง​คน​รับใช้ และ​เจ้านาย​ทั้งหลาย​ของ​เจ้า​มี​การ​เลี้ยงกัน​  สนุกสนาน​แต่เช้า”

       (Woe to you, O land, when your king is a child,and your princes feast in the morning!)

10:17 “โอ แผ่นดิน​เอ๋ย เจ้า​จะ​เป็น​สุข เมื่อ​กษัตริย์​ของ​เจ้า​มา​จาก​ตระกูล​ของ​ขุนนาง และ​เจ้านาย​ของ​เจ้า​มี​การ​เลี้ยง​ตาม​กาลเทศะเพื่อ​จะ​มี​กำลังวังชา มิใช่​จะ​ดื่ม​ให้​มึนเมา”

   (Happy are you, O land, when your king is the son of the nobility,and your princes feast at the    proper time,for strength, and not for drunkenness!)

10:18 “เพราะ​ความ​ขี้เกียจ หลังคา​จึง​ทรุดพัง​ลง และ​เพราะ​ความ​เกียจคร้าน เรือน​จึง​รั่ว​เฉอะแฉะ”

       (Through sloth the roof sinks in,and through indolence the house leaks.)

10:19 “อาหาร​ทำ​ให้​คน​หัวเราะ และ​เหล้าองุ่น​ทำ​ให้​ชีวิต​ชื่นบานและ​เงิน​ก็​จัด​ให้​ได้​ทุกอย่าง”

       (Bread is made for laughter,and wine gladdens life,and money answers everything.)

10:20 “อย่า​แช่งด่า​พระราชา เออ แม้​แต่​ใน​ความ​คิด​ก็​อย่า​เลยและ​อย่า​แช่ง​คน​มั่งมี แม้​เจ้า​อยู่​ใน​ห้องนอน​ของ​เจ้า เพราะ​นก​ใน​อากาศ​จะ​คาบ​เสียง​ของ​เจ้า​ไปหรือ​ตัว​ที่​มี​ปีก​จะ​เล่า​เรื่อง​นั้น”

     (Even in your thoughts, do not curse the king,nor in your bedroom curse the rich,for a bird of  the air will carry your voice,or some winged creature tell the matter.)

 

ข้อมูลมีประโยชน์

 10:1     “ความเขลาเพียงเล็กน้อย” (a little folly  ) = ความโง่เขลานิดหน่อย ใน 2 พกษ.20:12-19 มีตัวอย่างที่ชัดเจนมากในสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์ – สภษ.13:16;18:2

          “ทำลาย” (outweighs) = บั่นทอน หรือภาษาฮีบรูแปลตรงตัวได้ว่า “มีน้ำหนักมากกว่า”

10:2     “ทางขวามือ…ทางซ้ายมือ” (to the right… to the left.) = ความถูกต้อง…ความชั่วร้าย

= แสดงถึงความดี และความชั่ว เปรียบเทียบกับ มธ.25:33-34,41

หรืออาจหมายถึงสิ่งที่ดีที่สุดกับสิ่งที่ดีน้อยกว่าเทียบได้กับ ปฐก.48:13-20

10:3     “ทุกคน” (everyone) –สภษ.13:16

10:4     “อารมณ์เย็นย่อมระงับความผิดใหญ่หลวงไว้ได้” (calmness will lay great offenses to rest.)

= ความสงบสยบความผิดพลาดใหญ่หลวงได้ –สภษ.16:14

10:5     “ความผิดซึ่งมาจากผู้มีอำนาจ” (an error proceeding from the ruler) = ดูข้อสังเกตของปัญญาจารย์เกี่ยวกับการปกครองของมนุษย์ ในข้อ 6-7,16-17,20;3:16;4:1-3,13-16;5:8-9;8:2-6,10-11;9:17,  10:6-7 -ดู สภษ.19:10;30:21-22

10:6     “คนโง่ได้ตำแหน่งสูง” (folly is set in many high places   ) -สภษ.29:2

10:7     “เจ้านายเดินที่พื้นดินอย่างทาส” (princes walking on the ground like slaves) –สภษ.19:10

10:8     “ผู้ใดขุดบ่อไว้ ผู้นั้นจะตกลงในบ่อนั้น” (who digs a pit will fall into it) –สดด.7:15;57:6; สภษ.26:27

“ผู้ใดพังกำแพงทะลุเข้าไป งูจะขบกัดผู้นั้น” (serpent will bite him who breaks through a wall)

–อสธ.2:23;สดด.9:16;อมส.5:19

10:9     “ผู้ใดผ่าขอนไม้ ผู้นั้นจะประสบอันตรายเพราะขอนไม้นั้นได้” (who quarries stones is hurt by them) –สภษ.26:27

10:11   “ถ้างูขบเสียก่อนที่ทำให้มันเชื่อง” (If the serpent bites before it is charmed) –สดด.58:5;อสย.3:3

10:12   “ถ้อยคำ” (The words) = หัวข้อที่นิยมกันในวรรณกรรมปัญญานิพนธ์ ดูตัวอย่างเช่น ในสุภาษิต 15 และยากอบ 3:2-12

“ถ้อยคำจากปากของผู้มีปัญญาทำให้เขาเป็นที่โปรดปราน” (The words of a wise man’s mouth win him favor) = ถ้อยคำของคนฉลาดนั้นน่าฟัง –สภษ.10:32

“แต่ริมฝีปากของคนเขลาจะเผาผลาญตัวเขาเสีย” (but the lips of a fool consume him.  ) = คนโง่ย่อยยับเพราะลมปากของตัวเอง –สภษ.10:6;14:3;15:2;18:7

10:14   “คนเขลาพูดมากซ้ำซาก” (fool multiplies words) = ต่อความยาวสาวความยืดไม่รู้จบ

          “ใครจะบอกเขาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาจากไป” (who can tell him what will be after him)

= ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในภายหลัง –ปญจ.9:1

10:15   “เขาไม่รู้จักทางเข้าเมือง” (he does not know the way to the city) = สำนวนภาษิตที่บ่งบอกถึงความโง่อย่างสุด ๆ คือ โง่กว่าธรรมดา เพราะไม่รู้แม้แต่ทางเข้าเมือง (ปท.10:3)

10:16   “วิบัติแก่เจ้า เมื่อกษัตริย์ของเจ้าเป็นเพียงคนรับใช้” (Woe to you, O land, when your king is a child) = เมื่อมีคนใช้เป็นกษัตริย์ -4:3;2พกษ.15:8-25;ฮชย.7:3-7, แสดงถึงผู้ชิงบัลลังก์ที่อายุไม่ยืน และข้าราชการสำนักที่โหดร้าย ซึ่งทำให้อิสราเอลตกต่ำลงเร็วยิ่งขึ้น –อสย.3:4-5,12

10:17   “มิใช่จะดื่มให้มึนเมา” (not for drunkenness!) = ไม่ใช่เพื่อเมามาย –ฉธบ.14:26;1ซมอ.25:36; สภษ.31:4

10:18   “เพราะความเกียจคร้านเรือนจึงรั่วเฉอะแฉะ” (  through indolence the house leaks.) -4:5; สภษ.20:4,24:30-34

10:19   “เหล้าองุ่นทำให้ชีวิตชื่นบาน” (wine gladdens life) –ปฐก.14:18;วนฉ.9:13

“เงินก็จัดให้ได้ทุกอย่าง” (money answers everything) = เงินคือคำตอบสำหรับทุกสิ่ง

= อาจเป็นคำเหน็บแนมค่านิยมของคนเรา หรืออาจเป็นการแนะนำให้หาเลี้ยงชีพด้วยรายได้แทนที่จะเอาแค่รื่นเริง หรือต้องการสื่อว่า เงินนั้น ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายยิ่งนัก (ลก.16:9)

10:20   “อย่าแช่งด่าพระราชา” (not curse the king) –อพย.22:28

 

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยทำอะไรโง่ ๆ ที่ก่อเกิดความเสียหายต่อ

1)      ตัวคุณเอง

2)      ครอบครัว

3)      องค์กร/หน่อยงาน/ที่ทำงาน

4)      คริสตจักร

5)      บุคคลหนึ่งบุคคลใด/กลุ่มใดบ้างหรือไม่?   เรื่องอะไร? ผลที่เกิดขึ้นคืออะไร?

  1. ทุกวันนี้ ใจของคุณมีแนวโน้มไปตามทางใด?

…..1) ความถูกต้อง

…..2) ความชั่วร้าย?

แล้วคุณจัดการให้อยู่ในทางของพระเจ้าอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร?

  1. คุณกำลังหรือยังคงเดินไปบนหนทางของความโง่อย่างไม่สำนึกตัวอยู่หรือไม่? ในเรื่องอะไร? ส่งผลกระทบอะไรต่อคุณหรือคนรอบข้างบ้าง?
  2. คุณเคยหุนหันพลันแล่นลาออกจากที่ใดที่หนึ่งหรือทิ้งหน้าที่ไป เพราะว่าผู้ที่อยู่สูงกว่าคุณโกรธใส่คุณหรือทำให้คุณโกรธบ้างหรือไม่? แล้วผลเป็นอย่างไร? และคุณรู้สึกอย่างไร?
  3. คุณเห็นสภาวะน่ากระอักกระอ่วนที่คนที่ไม่เหมาะสมได้อยู่ในตำแหน่งดูแลหรือปกครองหรือไม่? แล้วเกิดอะไรตามมา?
  4. คุณเคยตกลงไปในหลุมที่คุณขุดเองบ้างหรือไม่? หรือคุณเคยเห็นใครตกลงไปในหลุมที่เขาขุดเองบ้าง? เรื่องอะไร? หรือคุณเคยได้รับผลกระทบหรือได้รับผลเสียอะไรจากการกระทำของตัวคุณเองบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร?
  5. คุณเคยทำงานหนักแบบไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรและต่อมาคุณปรับเปลี่ยนตัวเอง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาทักษะ) จนเกิดทักษะสามารถทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? และผลเป็นอย่างไร?
  6. คุณเคยเกิดความเสียหายเพราะการกระทำอะไรที่ผิดจังหวะหรือผิดเวลาหรือไม่? ในเรื่องอะไร?
  7. คุณเคยเสียหายเพราะปากของตัวคุณเองบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร?
  8. คุณเห็นด้วยหรือไม่ว่า “เงินคือคำตอบสำหรับทุกคน” หรือ “เงินจัดให้ได้ทุกอย่าง” สิ่งที่คุณคิดนี้ส่งผลอย่างไรต่อการดำเนินชีวิตการทำงานหรือการรับใช้ของคุณบ้าง? หรือคุณเคยเห็นใครที่คิดเช่นนั้นบ้าง? แล้วผลที่ตามมาเป็นอย่างไร?

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.