จงเชื่อฟังกษัตริย์ และยินดี!
พระธรรม ปัญญาจารย์ 8:1-17
อ้างอิง ปญจ.1:11;2:1,3;10:4,14;13,17;3:1,14;7:15
บทนำ หากพระเจ้าไม่ทรงเปิดเผย มนุษย์อย่างเราจะไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจสิ่งใดๆ เกี่ยวกับพระเจ้าและโลกนี้เลย
หากพระเจ้ามิได้ค้ำจุน และอวยพรสถาบันกษัตริย์ สถาบันกษัตริย์ก็จะตั้งอยู่ไม่ได้ !
แต่ตรงกันข้าม หากพระเจ้าทรงสถาปนา และอวยพรสถาบันกษัตริย์ ใครก็จะล้มล้างไม่ได้เช่นกัน
ชีวิตของเราอาจเผชิญเคราะห์กรรมที่ไม่คาดคิด ไม่ว่าเราจะทำดีมากแค่ไหนก็ตาม!
ดังนั้น ให้เรามีสุขกับชีวิตที่พระเจ้าประทานมาด้วยความชื่นชมยินดีให้อย่างมีสติปัญญา
บทเรียน
8:1 “ใครจะเหมือนคนมีปัญญา? หรือใครเล่าจะรู้คำอธิบายของสิ่งต่างๆ ปัญญาของมนุษย์ทำให้ใบหน้าของเขา ผ่องใสและสีหน้าที่มึนตึงของเขาก็เปลี่ยนไป”
(Who is like the wise?And who knows the interpretation of a thing?A man’s wisdom makes his face shine,and the hardness of his face is changed.)
8:2 “จงถือรักษาพระบัญชาของกษัตริย์เพื่อเห็นแก่คำปฏิญาณของพระเจ้า
(I say: Keep the king’s command, because of God’s oath to him. )
8:3 “อย่ารีบออกไปให้พ้นพระพักตร์พระองค์ อย่ารั้นเมื่อมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น เพราะกษัตริย์ย่อมทรงกระทำอะไรๆ ตามชอบพระทัยพระองค์”
(Be not hasty to go from his presence. Do not take your stand in an evil cause, for he does whatever he pleases.)
8:4“เพราะว่าพระดำรัสของกษัตริย์นั้นมีอำนาจ และใครจะกราบทูลถามพระองค์ได้ว่า “ฝ่าพระบาททรงกระทำอะไรเช่นนั้น?”
(For the word of the king is supreme, and who may say to him, “What are you doing?” )
8:5 “ผู้ทำตามพระบัญชาจะไม่ประสบอันตราย และจิตใจของคนมีปัญญาย่อมรู้วาระและวิธีการ”
(Whoever keeps a command will know no evil thing, and the wise heart will know the proper time and the just way. )
8:6 “เพราะว่าทุกเรื่องราวย่อมมีวาระและวิธีการ แม้ว่าความลำบากของมนุษย์เป็นภาระหนักแก่เขาก็ตาม”
(For there is a time and a way for everything, although man’s trouble lies heavy on him. )
8:7 “ที่จริงเขาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ด้วยใครจะบอกเขาได้ว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นอย่างไร”
(For he does not know what is to be, for who can tell him how it will be?)
8:8 “ไม่มีมนุษย์คนใดมีอำนาจเหนือจิตวิญญาณที่จะรั้งจิตวิญญาณไว้ได้ และไม่มีอำนาจใดอยู่เหนือวันตาย ไม่มีการปลดปล่อยในยามสงครามฉันใด ความอธรรมย่อมไม่ช่วยผู้ทำการอธรรมฉันนั้น”
(No man has power to retain the spirit, or power over the day of death. There is no discharge from war, nor will wickedness deliver those who are given to it.)
8:9 “ทั้งบรรดาการนี้ข้าพเจ้าเห็นหมดแล้ว เมื่อข้าพเจ้าสนใจกิจการทุกอย่างที่เขาทำกันภายใต้ดวงอาทิตย์ มีวาระ ซึ่งให้คนหนึ่งมีอำนาจเหนืออีกคนหนึ่งเพื่อทำอันตรายเขา”
(All this I observed while applying my heart to all that is done under the sun, when man had power over man to his hurt.)
8:10 “ข้าพเจ้าได้เห็นเขาฝังคนอธรรมทั้งหลาย ผู้ซึ่งเคยเข้าออกที่สถานบริสุทธิ์ และมีคนสรรเสริญพวกเขา ในเมือง ที่พวกเขาทำสิ่งเช่นนั้น นี่ก็อนิจจังด้วย”
(Then I saw the wicked buried. They used to go in and out of the holy place and were praised in the city where they had done such things. This also is vanity.)
8:11 “เพราะการลงโทษตามการตัดสินคนที่ทำชั่วนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นโดยเร็ว เหตุฉะนั้นใจของบรรดามนุษย์จึงเจตนามุ่งทำความอธรรม”
(Because the sentence against an evil deed is not executed speedily, the heart of the children of man is fully set to do evil.)
8:12 “แม้ว่าคนบาปทำชั่วตั้งร้อยครั้งและอายุเขายังยั่งยืนอยู่ได้ ถึงกระนั้นข้าพเจ้ายังรู้แน่ว่า สวัสดิมงคลจะมีแก่เขาทั้งหลายที่ยำเกรงพระเจ้าคือ ที่มีความยำเกรงเฉพาะพระพักตร์พระองค์”
(Though a sinner does evil a hundred times and prolongs his life, yet I know that it will be well with those who fear God, because they fear before him.)
8: 13 “แต่ว่าจะไม่เป็นสวัสดิมงคลแก่คนอธรรม อายุของเขาที่เป็นดังเงาก็จะไม่ยืดยาวออกไปได้ เพราะเขาไม่มีความยำเกรงเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า”
(But it will not be well with the wicked, neither will he prolong his days like a shadow, because he does not fear before God.)
8:14 “ยังมีสิ่งอนิจจังอีกอย่างที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกคือ มีคนชอบธรรมรับเคราะห์อันเป็นเคราะห์ที่คนอธรรมควรรับ และมีคนอธรรมรับเคราะห์อันเป็นเคราะห์ที่คนชอบธรรมควรรับ ข้าพเจ้ากล่าวว่า นี่ก็อนิจจังด้วย”
(There is a vanity that takes place on earth, that there are righteous people to whom it happens according to the deeds of the wicked, and there are wicked people to whom it happens according to the deeds of the righteous. I said that this also is vanity. )
8:15 “แล้วข้าพเจ้าจึงยกย่องความสนุกสนาน เพราะว่าไม่มีอะไรดีสำหรับมนุษย์ภายใต้ดวงอาทิตย์มากไปกว่ากิน และดื่มกับชื่นชมยินดี เพราะว่าสิ่งนี้จะอยู่เคียงข้างเขาในการตรากตรำของเขาตลอดชีวิตเขา ที่พระเจ้าประทานแก่เขาภายใต้ดวงอาทิตย์”
(And I commend joy, for man has nothing better under the sun but to eat and drink and be joyful, for this will go with him in his toil through the days of his life that God has given him under the sun.)
8:16 “เมื่อข้าพเจ้าตั้งใจเข้าใจปัญญา และพิจารณาภารกิจที่ทำกันในโลก ถึงกับอดหลับอดนอนตลอดวันตลอดคืน”
(When I applied my heart to know wisdom, and to see the business that is done on earth, how neither day nor night do one’s eyes see sleep, )
8:17 “แล้วข้าพเจ้าจึงเห็นพระราชกิจทั้งหมดของพระเจ้าว่า มนุษย์จะค้นหาความเข้าใจในพระราชกิจที่เกิดขึ้นภายต้ดวงอาทิตย์ไม่ได้ เพราะว่ามนุษย์จะตรากตรำแสวงหาสักเท่าใดก็จะค้นไม่พบ เออ ยิ่งกว่านั้นอีก แม้ว่าคนมีปัญญาอ้างว่าเขาเข้าใจแล้ว เขาก็ยังค้นหาไม่พบ”
(then I saw all the work of God, that man cannot find out the work that is done under the sun. However much man may toil in seeking, he will not find it out. Even though a wise man claims to know, he cannot find it out.)
ข้อมูลมีประโยชน์
8:2 “ พระบัญชาของกษัตริย์” ( the king’s command) = สิ่งที่เราต้องปฏิบัติตาม แม้ว่าอาจจำกัดเสรีภาพของเราบ้าง
“คำปฏิญาณของพระเจ้า” (God’s oath) = ด้วยความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ (1พศด.29:24)
8:3 “อย่ารีบออกไปให้พ้นพระพักตร์พระองค์” (not hasty to go from his presence) = หุนหันออกไปให้พ้นพระพักตร์กษัตริย์
= แสดงว่า ขาดความเคารพหรือไม่จงรักภักดีต่อองค์กษัตริย์
8:4 “ใครจะกราบทูลถามพระองค์ได้ว่า ‘ฝ่าพระบาททรงกระทำอะไรเช่นนั้น’?” (who may say to him, “What are you doing?”) = ใครจะแย้งพระเจ้าได้ ปท.อสย.45:9;รม.9:20
8:5 “ผู้ทำตามพระบัญชาจะไม่ประสบอันตราย” (Whoever keeps a command will know no evil thing) -รม.13:3-5
8:6 “ความลำบากของมนุษย์” (man’s trouble lies heavy on him) = มนุษย์ควรให้ความสำคัญกับคำสั่งของกษัตริย์มากกว่าความทุกข์ยากของตัวเอง
8:7-8 “เขาไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น…ไม่มีมนุษย์คนใดมีอำนาจเหนือ…” (For he does not know what is to be, … No man has power to) -สดด.31:15;2คร.5:1-10;ยก.4:13-16
8:8 “ความอธรรมย่อมไม่ช่วยผู้ทำการอธรรม” (nor will wickedness deliver those who are given to it.)
= ความชั่วร้ายไม่ยอมปล่อย, = ความชั่วร้ายทางศีลธรรมมีอำนาจที่จะจองจำเรา –รม.7:15-24;7:25
8:10 “เขาฝังคนอธรรมทั้งหลาย” (the wicked buried.) = คนชั่วร้ายถูกฝัง
= ความเคารพนับถือที่ไม่ควรได้รับ (6:3;โยบ.21:28-33;ลก.16:22)
8:11 “…การลงโทษตามการตัดสินคนที่ทำชั่วนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นโดยเร็ว” (…the sentence against an evil deed is not executed speedily) = เมื่อยังไม่ถูกลงโทษก็มีแนวโน้ม ที่จะทำผิดมากกว่าเดิม
8:12 “ข้าพเจ้ายังรู้แน่ว่า” (I know that) = ในที่นี้ปัญญาจารย์กล่าวด้วยความเชื่อที่มีวุฒิภาวะ ไม่ใช่อย่างคนที่ “ทุ่มตัวหาแล้วหาอีก แต่ข้าพเจ้าไม่พบ” ใน 7:28 –ปท.3:17;11:9;12:14
8:14 “คนอธรรมรับเคราะห์อันเป็นเคราะห์ที่คนชอบธรรมควรรับ” (there are wicked people to whom it happens according to the deeds of the righteous) –ใน โยบ 21-24 ขยายความเรื่องนี้ ในสดุดี 73 รู้สึกเจ็บปวดเพราะเรื่องนี้ และใน ยอห์น 5:28-29 ให้คำอธิบายในที่สุด
8:15 “กินและดื่ม กับชื่นชมยินดี” (eat and drink and be joyful) = เป็นถ้อยคำที่กล่าวด้วยใจขอบคุณ (5:19;9:7;ฉธบ.8) แตกต่างจากถ้อยคำที่คล้าย กัน แต่กล่าวด้วยความเย่อหยิ่งใน ลก.12:19-20;1คร.15:32
8:17 “มนุษย์จะค้นหาความเข้าใจ….ไม่ได้” (man may toil in seeking, …cannot find it out.) –ใน ฉธบ.29:29 สรุปว่า อะไรที่เราได้รับอนุญาตให้รู้ และอะไรไม่ได้ให้รู้ (รม.11:33)
คำถามนำอภิปราย
1.คุณเคยมีประสบการณ์กับการเกิด “ใบหน้าแจ่มใส” และ “หน้ามึนตึง” เปลี่ยนไป เพราะ สติปัญญาบ้างหรือไม่? อย่างไร?
2.คุณมีความยากลำบากในการเชื่อฟังพระบัญชาของพระมหากษัตริย์(หรือผู้ปกครองประเทศ) หรือไม่? ในเรื่องอะไร? ทำไม?
3.การที่คุณรู้ว่า พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะอวยพรกษัตริย์ ส่งผลอะไรต่อท่าทีของคุณที่มีต่อกษัตริย์บ้าง? อย่างไร และทำไม?
4.การที่คุณตระหนักว่า ไม่มีใครมีอำนาจเหนือวันตาย รวมทั้งตัวของคุณ ส่งผลอะไรต่อวิถีคิดและวิถีการดำเนินชีวิตของคุณบ้าง? ทำไม?
5.การที่พระเจ้ายังไม่ลงโทษคนอธรรมผู้ทำบาปโดยเร็ว และปล่อยให้พวกเขาอาจมีอายุยืนนาน ส่งผลต่อความรู้สึกและความตั้งใจของคุณอย่างไรบ้าง? (แบ่งปัน)
6.พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานสวัสดิมงคลแก่บรรดาคนที่ยำเกรงพระองค์ คำสัญญานี้ส่งผลอะไรต่อคุณบ้าง? และอย่างไร?
7.การที่คุณรู้ว่า คนชอบธรรมอาจรับเคราะห์ของคนอธรรม และคนอธรรมอาจรับเคราะห์ของคนชอบธรรม ส่งผลต่อท่าทีในการดำเนินชีวิตของการรับใช้ของคุณอย่างไรบ้าง? (แบ่งปัน)
8.หากว่ามนุษย์ค้นหาความเข้าใจในพระราชกิจของพระเจ้าไม่ได้ แล้วเราจะมาเรียนพระคัมภีร์ให้เสียเวลาทำไม?
9. บทเรียนสำคัญที่คุณได้รับจากพระธรรม(ปัญญาจารย์ 8) ตอนนี้คืออะไร?
1…………………………………………………………………
2……………………………………………………………………
3…………………………………………………………………….
และคุณจะนำไปปฏิบัติใช้จริงในชีวิตของคุณอย่างไร?
ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์