Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

ปัญญาจารย์ บทเรียนที่ 5

ยำเกรง พระเจ้า และความพึงพอใจในสิ่งที่พระองค์ประทานให้

พระธรรม        ปัญญาจารย์ 5:1-20

อ้างอิง               สดด.66:13-14;โยบ 1:21;สดด.49:17;1ทธ.6:7

บทนำ           ชีวิตของเราต้องเริ่มต้นด้วยความยำเกรง และก็จบลงด้วยความยำเกรงในพระองค์เช่นกัน!

อย่าให้เราจดจ่ออยู่กับการหาเงินทอง ความมั่งคั่งหรือความสำเร็จมากเกินไป จนไม่ได้ชื่นชมกับผลงานแห่งน้ำพักน้ำแรงของเรา ด้วยใจที่ซาบซึ้งในพระคุณของพระองค์!

บทเรียน

5:1 “เจ้า​จง​ระวัง​เท้า​ของ​เจ้า เมื่อ​เจ้า​ไป​ยัง​พระนิเวศ​ของ​พระเจ้า เพราะ​การ​เข้า​ใกล้ชิด​เพื่อ​ฟัง​ก็​ดี​กว่า​คน​เขลา​ถวาย​ เครื่องบูชา เพราะ​เขา​ไม่​รู้​ว่า​กำลัง​ทำ​สิ่ง​โง่เขลา​อยู่” 

(Guard your steps when you go to the house of God. To draw near to listen is better than to offer the sacrifice of fools, for they do not know that they are doing evil. )

5:2 “อย่า​ให้​ปาก​ของ​เจ้า​ไว และ​อย่า​ให้​ใจ​ของ​เจ้า​เร็ว​ที่​จะ​พูด​สิ่งใดๆ เฉพาะพระพักตร์​พระเจ้า เพราะว่า​พระเจ้า​สถิต​ใน​สวรรค์ แต่​เจ้า​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก เหตุฉะนั้น​เจ้า​จง​พูด​น้อย​คำ”

     (Be not rash with your mouth, nor let your heart be hasty to utter a word before God, for God is in  heaven and you are on earth. Therefore let your words be few.)

5:3 “เพราะ​ฝัน​เมื่อ​มี​งาน​มาก และ​มี​เสียง​คน​เขลา​เมื่อ​พูด​มาก”

        (For a dream comes with much business, and a fool’s voice with many words.)

5:4 “เมื่อ​เจ้า​บน​ไว้​ต่อ​พระเจ้า อย่า​ชักช้า​ที่​จะ​แก้บน​นั้น​ให้​สำเร็จ เพราะ​พระองค์​ไม่​พอพระทัย​ใน​คน​เขลา จง​แก้บน​ตาม​ที่​เจ้า​บน​ไว้​เถิด” 

     (When you vow a vow to God, do not delay paying it, for he has no pleasure in fools. Pay what   you vow. )

5:5 “ที่​เจ้า​จะ​ไม่​บน​ก็​ยัง​ดี​กว่า​ที่​เจ้า​บน​แล้ว​ไม่​แก้” 

       (It is better that you should not vow than that you should vow and not pay.)

5:6 “อย่า​ให้​ปาก​ของ​เจ้า​เป็น​เหตุ​นำ​ตัวเจ้า​ให้​ทำ​บาป และ​อย่า​พูด​ต่อหน้า​ผู้สื่อสาร​ของ​พระเจ้า​ว่า นี่​เป็น​ความ​ผิดพลาด เหตุไฉน​จะ​ให้​พระเจ้า​ทรง​พระพิโรธ​เพราะ​คำ​พูด​ของ​เจ้า แล้ว​เลย​ทรง​ทำลาย​การงาน​แห่ง​น้ำมือ​ของ​เจ้า​เสีย​เล่า?)

     (Let not your mouth lead you into sin, and do not say before the messenger that it was a  mistake. Why should God be angry at your voice and destroy the work of your hands? )

5:7 “เพราะว่า​เมื่อ​ฝัน​มาก ก็​อนิจจัง และ​คำพูด​พล่อยๆ ก็​มาก เจ้า​จง​ยำเกรง​พระเจ้า​เถิด”

      (For when dreams increase and words grow many, there is vanity; but God is the one you must  fear.)

5:8 “ถ้า​เจ้า​เห็น​คน​จน​ถูก​ข่มเหง เห็น​ความ​ยุติธรรม​และ​สิทธิ​ถูก​ลิดรอน​ใน​จังหวัด เจ้า​อย่า​ประหลาดใจ​ใน​เรื่อง​นั้น  เพราะ​ว่า​มี​เจ้าหน้าที่ คอย​จับตา​เจ้าหน้าที่​อยู่ แล้ว​ยัง​มี​ผู้​สูง​กว่า​อีกชั้นหนึ่ง​จับ​ตา​อยู่​เหนือ​พวกเขา”

   (If you see in a province the oppression of the poor and the violation of justice and righteousness,   do not be amazed at the matter, for the high official is watched by a higher, and there are yet   higher ones over them.)

5:9 “อย่างไร​ก็​ตาม ผลประโยชน์​ของ​ประเทศ​คือ​มี​กษัตริย์​ดูแล​ไร่นา”

     (But this is gain for a land in every way: a king committed to cultivated fields.)

5:10 “คน​รัก​เงิน​ย่อม​ไม่​อิ่ม​เงิน และ​คน​รัก​สมบัติ​ก็​ไม่​อิ่ม​กับ​ผลตอบแทน นี่​ก็​อนิจจัง​ด้วย”

(He who loves money will not be satisfied with money, nor he who loves wealth with his income; this also is vanity. )

5: 11 “เมื่อ​ความ​มั่งคั่ง​เพิ่มพูน​ขึ้น คน​กิน​ก็​มี​คับคั่ง​ขึ้น คน​ที่​เป็น​เจ้า​ของ​ทรัพย์​จะ​ได้​ประโยชน์​อะไร นอกจาก​จะ​ได้​ชม​เล่น​เป็น​ขวัญตา​เท่านั้น”

         (When goods increase, they increase who eat them, and what advantage has their owner but   to see them with his eyes? )

5:12 “การ​หลับ​ของ​กรรมกร​ก็​ผาสุก​ไม่​ว่า​เขา​จะ​ได้​กิน​น้อย​หรือ​ได้​กิน​มาก แต่​อาหาร​ที่​อุดมสมบูรณ์​ของ​คน​มั่งมี​ก็​ไม่​ ช่วย​ เขา​ให้​หลับ”

         (Sweet is the sleep of a laborer, whether he eats little or much, but the full stomach of the rich  will not let him sleep.)

5:13 “ยัง​มี​สิ่ง​สามานย์​อัน​น่าสลดใจ​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ข้าพเจ้า​เห็น​ภายใต้​ดวงอาทิตย์​คือ ทรัพย์สมบัติ​ที่​เจ้า​ของ​ได้​เก็บ​ไว้​จน​เกิด​เป็น​ภัย​แก่​ตน”

         (There is a grievous evil that I have seen under the sun: riches were kept by their owner to his hurt, )

5:14 “และ​ทรัพย์สมบัติ​นั้น​สูญเสีย​ไป​ใน​ธุรกิจ​ที่​ไม่ดี แม้​เขา​ให้​กำเนิด​บุตรชาย​คน​หนึ่ง เขา​ก็​ไม่มี​อะไร​ติดมือ” 

       (and those riches were lost in a bad venture. And he is father of a son, but he has nothing in  his hand.)

5:15 “เขา​ได้​คลอด​มา​จาก​ครรภ์​มารดา​ตัว​ล่อนจ้อน​ฉันใด เขา​จะ​กลับ​ไป​อีก​เช่นเดียวกัน​ฉันนั้น และ​เขา​จะ​เอา​อะไร​ซึ่ง​เป็น​ผล​จาก​การ​ตรากตรำ​ของ​เขา​ติดมือ​ไป​ไม่ได้​สัก​อย่าง​เดียว” 

       (As he came from his mother’s womb he shall go again, naked as he came, and shall take  nothing for his toil that he may carry away in his hand. )

5:16 “นี่​เป็น​สิ่ง​สามานย์​อัน​น่าสลดใจ​อีก​คือ เขา​ได้​เกิด​มา​อย่างไร​เขา​ก็​ต้อง​ไป​อย่างนั้น เขา​จะ​ได้​ผลประโยชน์​อะไร​จาก​การ​ตรากตรำ​เพื่อ​ได้​แต่​ลม​เล่า?” 

       (This also is a grievous evil: just as he came, so shall he go, and what gain is there to him who  toils for the wind? )

5:17 “อนึ่ง เขา​กิน​อยู่​ใน​ความ​มืด​ตลอดปีเดือน​ของ​เขา เขา​มี​ความ​ยุ่งใจ​อย่าง​สาหัส มี​ความ​เจ็บไข้ และ​มี​โทโส”

        (Moreover, all his days he eats in darkness in much vexation and sickness and anger.)

5:18 “ดูเถิด ที่​ข้าพเจ้า​เห็นชอบ​และ​สมควร​คือ ให้​กิน​และ​ดื่ม และ​ชื่นชม​บรรดา​ผล​จาก​น้ำพักน้ำแรง​ของ​ตน ที่​ตน​ตรากตรำ​ภายใต้​ดวงอาทิตย์ ตลอดชั่วอายุ​ไม่​กี่​วัน​ของ​ตน​ที่​พระเจ้า​ประทาน​แก่​ตน​เพราะ​การ​นี้​แหละ​เป็น​ส่วน‍แบ่ง​ของ​ตน”

   (Behold, what I have seen to be good and fitting is to eat and drink and find enjoyment in all the  toil with which one toils under the sun the few days of his life that God has given him, for this is     his lot. )

5:19 “อนึ่ง ทุกๆ คน​ที่​พระเจ้า​ประทาน​ความ​มั่งคั่ง​และ​ทรัพย์สมบัติ​ให้ ก็​ได้​ทรง​โปรด​ให้​พวกเขา​ได้​ใช้​ของ​เหล่านั้น  และ​ให้​ได้​รับ​ส่วนแบ่ง​ของ​พวกเขา และ​เปรมปรีดิ์​ใน​ผล​จาก​น้ำพักน้ำแรง​ของ​ตน​ได้ นี่แหละ​เป็น​ของประทาน​จาก​พระเจ้า”

     (Everyone also to whom God has given wealth and possessions and power to enjoy them, and to  accept his lot and rejoice in his toil—this is the gift of God.)

5:20 “เขา​จะ​ได้​ไม่​ต้อง​นึกถึง​ปี​เดือน​แห่ง​ชีวิต​ของ​ตน​มาก เพราะ​พระเจ้า​ให้​ใจ​เขา​สาละวน​อยู่​กับ​ความ​ชื่นใจ”

     (For he will not much remember the days of his life because God keeps him occupied with joy in  his heart.)

 ข้อมูลมีประโยชน์

5:1-7 – เน้นความอนิจจังของการถือศาสนาแบบผิวเผิน ซึ่งสะท้อนออกมาในการปฏิญาณหรือบนอย่างพล่อย ๆ

5:1      “จงระวังเท้าของเจ้า” (Guard your steps) = คำเตือนให้รู้จักคิดก่อนที่จะพูดหรือทำสิ่งใด

“พระนิเวศน์ของพระเจ้า” (the house of God) = พระวิหารของซาโลมอน

“ฟัง” (to listen) = เชื่อฟัง   ใน 1ซมอ.15:22 ภาษาฮีบรูใช้คำกริยาคำเดียวกัน และเปรียบเทียบการนมัสการที่แท้จริงกับการนมัสการแบบยิวเผิน

“ถวายเครื่องบูชา” (to offer the sacrifice) = อาจเกี่ยวข้องกับบนหรือปฏิญาณไว้กับพระเจ้า ใน ข้อ 4-6

5:2       “อย่าให้ปากของเจ้าไว” (not rash with your mouth) = ปากไวหรือพูดพล่อย ๆ (ผ่านการบน)

“พระเจ้า…สวรรค์…เจ้า…แผ่นดินโลก” (God …heaven … you … earth.) = เปรียบเทียบเพื่อเน้นความแตกต่างระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์

5:3       “ฝันเมื่อมีงานมาก” (dream comes with much business)= แปลตรง ๆ ได้ว่า “ความฝันมาพร้อมกับ(การคิดถึง)ธุรกิจมากมาย”

ในฉบับอมตธรรมแปลว่า “ห่วงกังวลมากก็ฝันมาก” = ความห่วงกังวลทำให้เราฝันถึงความสุขสบาย (เช่นเดียวกับคนหิวโหยฝันถึงงานเลี้ยง)

“มีเสียงคนเขลาเมื่อพูดมาก” (a fool’s voice with many words    )= คนที่มีความคาดหวังมากอาจพูดในคำปฏิญาณอย่างพล่อย ๆ หรือ(พูดมาก) หรือพูดอย่างโง่เขลาต่อพระเจ้า (ข.7) = ยิ่งพูดมากก็ยิ่งพูดโง่ ๆ

5:4       “เมื่อเจ้าบนไว้ต่อพระเจ้า” (When you vow a vow to God) = ฉธบ.23:21-23;1ซมอ.1:11,24-28

“พระองค์ไม่พอพระทัยในคนเขลา” (he has no pleasure in fools) = คนเขลาในที่นี้ไม่ใช่คนที่เรียนรู้ไม่ได้ แต่เป็นคนที่ไม่ยอมเรียนรู้ (สภษ.1:20-27) ในฉบับอื่น ๆ แปลว่า “คนโง่”

5:6       “ผู้สื่อสารของพระเจ้า” (the messenger) = น่าจะหมายถึงปุโรหิต (มลค.2:7)

“เหตุไฉนจะให้พระเจ้าทรงพระพิโรธ…” (Why should God be angry)   = การละเมิดคำบนหรือคำปฏิญาณเป็นเรื่องร้ายแรงมาก (กดว.30:1-16) และส่งผลเสียอันเลวร้ายอย่างสาหัส (ฉธบ.23:21-23)

5:8       “เจ้าอย่าประหลาดใจในเรื่องนั้น” (do not be amazed at the matter,) = อย่าฉงบสนเท่ห์ ดูการประเมินสังคมอย่างตรงไปตรงมา ใน ปญจ.4:1-3 ปท. ยน.2:25

= ไม่หลงไปกับภาพลวงตาว่า สังคมจะมีแต่ความสุข

5:9       “ผลประโยชน์ของประเทศคือมีกษัตริย์ดูแลไร่นา” (But this is gain for a land in every way: a king committed to cultivated fields.)

=บางฉบับแปลว่า กษัตริย์เองได้รับประโยชน์จากเรือนสวนไร่นา –อมส.7:1

5:10     “คนรักเงินย่อมไม่อิ่มเงิน” (He who loves money will not be satisfied with money) = ความมั่นคงไม่ได้นำมาซึ่งความอิ่มเอมใจในเงินทองเสมอไป (1ทธ.6:9-10)

5:11-12 –ความมั่งคั่งไม่ได้ทำให้รู้สึกพอ แต่ทำให้กังวลมากขึ้น

5:12     “แต่อาหารที่อุดมสมบูรณ์ของคนมั่งมีก็ไม่ช่วยเขาให้หลับ” (but the full stomach of the rich  will not let him sleep.) -โยบ 20:20

5:13     “เกิดเป็นภัยแก่ตน” (owner to his hurt, )= รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติของตนด้วย

5:15     “…เขาจะกลับไปอีกเช่นเดียวกันฉันนั้น” (he shall go again) –โยบ 1:21

“จะเอาอะไรซึ่งเป็นผลจากการตรากตรำไปไม่ได้สักอย่างเดียว” (shall take nothing for his toil that he may carry away in his hand.) –โยบ 1:21;สดด.49:17;1ทธ.6:7

“ติดมือไปไม่ได้สักอย่างเดียว” (he may carry away in his hand) –ปญจ.1:3;ลก.12:12-21

5:16     “ตรากตรำเพื่อได้แต่ลมเล่า?” (toils for the wind?) -ปญจ.1:3

5:18-30 –ดู ปญจ.2:24-25

5:18    “กินและดื่ม” (eat and drink) –ปญจ.2:3

“น้ำพักน้ำแรงของตนที่ตนตรากตรำ” (the toil with which one toils) –ปญจ.2:10,24

5:19     “ความมั่งคั่งและทรัพย์สมบัติ” (wealth and possessions) –1พศด.29:12

          “ให้ได้รับส่วนแบ่งของพวกเขา” (to accept his lot) –โยบ 31:2

          “เปรมปรีดิ์ในผลจากน้ำพักน้ำแรงของตน” (rejoice in his toil) –ปญจ.6:2

                   “นี่แหละเป็นของประทานจากพระเจ้า” (this is the gift of God) –ปญจ.2:24

5:20    “ให้ใจเขาสาละวนอยู่กับความชื่นใจ” (him occupied with joy in his heart.) -ฉธบ.12:7,18

 

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยมีปัญหาในการไปนมัสการพระเจ้าที่คริสตจักรบ้างไหม? แล้วคุณแก้ปัญหานั้นอย่างไร?
  2. คุณไปนมัสการพระเจ้าที่คริสตจักรด้วยท่าทีแบบใด?

…..1) ไปนมัสการแบบพิธีแล้วกลับบ้าน

…..2) ไปนมัสการแล้วร่วมกิจกรรมเล็กน้อย

…..3) ไปนมัสการและร่วมรับใช้ด้วยความเต็มใจ

…และผลเป็นอย่างไร?

  1. คุณเป็นคนปากไวในการให้สัญญา แล้วไม่ค่อยจริงจังในการทำตามบ้างหรือไม่?

…..1) ต่อพระเจ้า คือ……………………………………………………….

…..2) ต่อคนอื่น ๆ คือ…………………………………………………………

แล้วคุณรู้สึกอย่างไร?

  1. คุณเคยสัญญา(ปฏิญาณหรือบน) ต่อพระเจ้าในเรื่องใดบ้างที่คุณได้ทำตามและรักษาสัญญานั้นอย่างสมบูรณ์? (แบ่งปัน)

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.