ข้าพระองค์ขอสองสิ่งจากพระองค์ ขออย่าทรงปฏิเสธที่จะให้ข้าพระองค์ก่อนข้าพระองค์ตาย ขอให้ความมุสาและความเท็จไกลจากข้าพระองค์ ขออย่าประทานความยากจนหรือความมั่งคั่งแก่ข้าพระองค์ ขอเลี้ยงข้าพระองค์ด้วยอาหารที่พอดีแก่ข้าพระองค์ เกรงว่าข้าพระองค์จะอิ่ม และปฏิเสธพระองค์ แล้วพูดว่า “พระเจ้าเป็นผู้ใดเล่า” หรือเกรงว่าข้าพระองค์จะยากจนและขโมย และกระทำให้พระนามพระเจ้าของข้าพระองค์เป็นมลทิน (สุภาษิต 30:7-9)
จะผ่านการทดสอบแห่งชีวิต บททดสอบหนึ่งที่คุณต้องผ่านให้ได้คือบททดสอบเรื่องความยากจน และพระเจ้าทรงมีคำแนะนำให้คุณ – ให้มองความยากจนของคุณในมุมมองที่เหมาะสม – เพราะในองค์พระเยซูคริสต์คุณได้รับการยกชูแล้ว ไม่ว่าจะยากจนแค่ไหนก็ตาม มีพระคริสต์คุณก็ร่ำรวยกว่าคนที่รวยที่สุดในโลกแต่ไม่มีพระคริสต์ ในฐานะคริสเตียน คุณได้เปลี่ยนจากผ้าขี้ริ้วไปสู่ความมั่งคั่งแล้วครับ
ทราบหรือไม่ว่าอาจจะดีกว่าที่คุณเป็นคนยากจนมากกว่าเป็นคนร่ำรวย? คนบางคนทนได้แทบทุกอย่างยกเว้นความมั่งคั่ง และนี่คือสิ่งที่หนังสือสุภาษิตด้านบนพูดถึง
ที่จริงมันยากมากที่เป็นคนยากจน แต่ยิ่งยากกว่าเมื่อเป็นคนรวย คนรวยอาจมีเวลาที่ง่ายในชีวิต แต่เวลาที่ยากกว่าในการผ่านบททดสอบ
องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้บอกให้คนรวยไปสละทรัพย์สมบัติ…เพียงแต่ให้ปรับมุมมองความมั่งคั่งนั้นใหม่ มีเงินไม่ใช่สิ่งที่ผิด มีหลายคนที่พระเจ้าเลือกสรรร่ำรวยมาก เช่นอับราฮัม แต่คนรวยต้องมองความร่ำรวยของเขาในมุมมองที่ถูกต้องครับ
โดย: Pastor Adrian Rogers’ daily devotional
อนุญาตโดย Love worth finding Ministries : www.lwf.org