ผมชอบที่ท่านเบนจามิน แฟรงคลินกล่าวว่า
“สิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวด มักมีบทเรียนสอนเรา!” (Those things that hurt, instruct.)
…หากคุณเคยรู้สึกเจ็บปวด คุณคงไม่ปฏิเสธความจริงข้างต้น!
…หากคุณเคยรู้สึกเจ็บปวดเพราะถูกคุณพ่อคุณแม่ตี คุณคงเรียนรู้บทเรียนบางอย่าง!
…หากคุณเคยเจ็บปวดเพราะประสบอุบัติเหตุ คุณคงเรียนรู้บทเรียนบางอย่าง!
…หากคุณเคยเจ็บปวดเพราะสอบตกหรือถูกไล่ออก คุณคงเรียนรู้บทเรียนบางอย่าง!
…หากคุณเคยเจ็บปวดเพราะตกงานเพราะถูกไล่ออกจากงาน คุณคงเรียนรู้บทเรียนบางอย่าง!
…หากคุณเคยเจ็บปวดเพราะอกหักหรือถูกสลัดรัก คุณคงเรียนรู้บทเรียนบางอย่าง!
…หากคุณเคยเจ็บปวดเพราะบ้านแตกสาแหรกขาด คุณคงเรียนรู้บทเรียนบางอย่าง!
…หากคุณเคยเจ็บปวดเพราะถูกเพื่อนฝูงหรือหุ้นส่วนทรยศหักหลัง คุณคงเรียนรู้บทเรียน
บางอย่าง!
…หากคุณเคยเจ็บปวดเพราะคนในครอบครัวขัดแย้ง ทำร้าย หรือหย่าร้างกัน คุณคงเรียนรู้
บทเรียนบางอย่าง!
…หากคุณเคยเจ็บปวดเพราะลงทุนหรือทำธุรกิจแล้วขาดทุน หรือล้มละลาย คุณคงเรียนรู้
บทเรียนบางอย่าง!
…หากคุณเจ็บปวดเพราะเล่นพนัน หรือใช้บัตรเครดิตและเป็นหนี้สิน หรือหมดตัว คุณคง
เรียนรู้บทเรียนบางอย่าง!
…หากคุณเคยเจ็บปวดเพราะเคยรับใช้พระเจ้าแล้วถูกคนวิพากษ์วิจารณ์ หรือตำหนิติเตียน
คุณคงเรียนรู้บทเรียนบางอย่าง! และ
…หากคุณเคยเจ็บปวดเพราะสะดุดในพฤติกรรมหรือการกระทำของคนบางคน คุณคงเรียนรู้
บทเรียนบางอย่าง!
ใช่ครับ ทุกความเจ็บปวดในชีวิตของคนเรา มักมีบทเรียนที่ล้ำค่าอยู่เสมอ!
คำว่า “เจ็บปวด” หมายความว่า “รู้สึกเจ็บใจเพราะผิดหวัง!”
คนที่ทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดอย่างยาวนาน นับว่าเป็นคนที่น่าสงสารและน่าสังเวช เพราะนั่นไม่ใช่พระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้เป็นเช่นนั้น
พระองค์ไม่ทรงประสงค์ให้ผู้หนึ่งผู้ใดปิดตาและจมอยู่กับความเจ็บปวดอย่างขมขื่น แต่พระองค์ทรงประสงค์ที่จะให้เขาผู้นั้นเปิดตาออกและ มองให้เห็น “บทเรียน” ที่มีค่าจากความเจ็บปวดที่เผชิญนั้นและนำมาใช้ให้เกิดคุณประโยชน์ต่อชีวิต!
หากว่าเวลานี้คุณกำลังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ เพราะสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง พระเจ้าตรัสกับคุณว่า…
“จงตัดความเศร้าหมองเสียจากใจของเจ้า และจงสลัดความเจ็บปวดเสีย
จากเนื้อหนังของเจ้า เพราะความหนุ่มสาวและวัยฉกรรจ์นั้นเป็นอนิจจัง!”
(ปัญญาจารย์ 11:10)
พี่น้องที่รัก คุณตระหนักหรือไม่ว่า ชีวิตของเรานั้นสั้นนัก!
ดังนั้น อย่าปล่อยให้ชีวิตอันมีค่าของคุณจมหรือเสียไปเปล่า ๆ กับความเจ็บปวด และความเศร้าหมองอย่างไม่สมควร
จงตื่นขึ้น และรู้จักนับวันคืนในชีวิตของคุณ ดังที่โมเสสได้เคยขอให้พระเจ้าทรงช่วยท่านให้ทำเช่นนั้น
“ขอพระองค์ทรงสอนให้นับวันของข้าพระองค์
เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะมีจิตใจที่มีปัญญา”
(สดุดี 90:12)
คุณต้องใช้ “วันเวลา” อันล้ำค่าที่เหลือนั้นอยู่อย่างฉลาดตามที่พระเจ้าทรงประสงค์ โดยเรียนรู้จากบทเรียนที่คุณแลกมาด้วยความเจ็บปวดในชีวิตของคุณที่ผ่านมา!
แล้วคุณจะพบว่า ความเจ็บปวดเหล่านั้นเป็นพรจริง ๆ ต่อชีวิตของคุณ และหากว่าคุณรู้จักแบ่งปันพระพรเหล่านั้นแก่คนอื่น ๆ รอบข้างของคุณชีวิตของคุณนับจากวันนี้ก็จะดำเนินต่อไปอย่างคุ้มค่า และน่าสุขใจจนเกินคำบรรยาย!
ลองดูสิครับ!
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-