Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

2 พงศ์กษัตริย์ บทเรียนที่ 22

พบหนังสือพระบัญญัติ

พระธรรม        2พงศ์กษัตริย์ 22:1-20

อ้างอิง                 2พศด.34:1-2,8-28;อสย.5:25;42:25;47:11;57:1;21:2;25:3;ยรม.1:2;18:11;24:9;15:18;26:6;37:3,7

บทนำ            ในท่ามกลางความมืดมิดสิ้นหวัง พระเจ้ามักประทานความหวังให้เกิดขึ้นเสมอ แต่ในทำนองกลับกัน ในท่ามกลางความหวัง บางครั้งคนบางคนหรือคนที่มาต่อในภายหลังอาจทำให้ความหวังนั้นดับลงก็เป็นได้!

บทเรียน

22:1 “โยสิยาห์มี ​พระชนมายุ 8 พรรษา​เมื่อ​ทรง​เป็น​กษัตริย์ และ​ทรง​ครองราชย์​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม 31 ปี พระมารดา​ของ​พระองค์​มี​พระนาม​ว่า เยดีดาห์​บุตร​หญิง​ของ​อาดายาห์​ชาว​โบสคาท”

       (Josiah was eight years old when he began to reign, and he reigned thirty-one years in  Jerusalem. His mother’s name was Jedidah the daughter of Adaiah of Bozkath. )    

22:2 “พระองค์​ทรง​ทำ​สิ่ง​ที่​ชอบธรรม​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์ และ​ทรง​ดำเนิน​ตาม​ทาง​ทั้งสิ้น​ของ​ดาวิด​บรรพบุรุษ​ของ​พระองค์ และ​ไม่ได้​ทรง​หัน​ไป​ทาง​ขวา​หรือ​ทาง​ซ้าย”
     (And he did what was right in the eyes of the Lord and walked in all the way of David his father,  and he did not turn aside to the right or to the left.)

22:3 “ต่อ​มา​ใน​ปี​ที่ 18 แห่ง​รัชกาล​กษัตริย์​โยสิยาห์ พระราชา​ทรง​ใช้​ชาฟาน​บุตร​อาซาลิยาห์ บุตร​เมชุลลาม​ราชเลขา​ป​ยัง​พระนิเวศ​ของ​พระยาห์เวห์ ตรัส​ว่า”

                (In the eighteenth year of King Josiah, the king sent Shaphan the son of Azaliah, son of   Meshullam, the secretary, to the house of the Lord, saying, )

22:4 “จงขึ้น​ไป​หา​ฮิลคียาห์​มหาปุโรหิต เพื่อ​ให้​ท่าน​นับ​เงิน​ที่​เขา​นำ​เข้า​มา​ใน​พระนิเวศ​ของ​พระยาห์เว ห์ ซึ่ง​ผู้​เฝ้า​ธรณี​ประตู​เก็บ​จาก​ประชาชน”

                 (“Go up to Hilkiah the high priest, that he may count the money that has been brought into the  house of the Lord, which the keepers of the threshold have collected from the people. )

22:5 “และ​ให้​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​ผู้​ทำ​หน้า​ที่​ดูแล​พระนิเวศ​ของ​พระยาห์เว ห์ และ​ให้​เขา​จ่าย​แก่​คนงาน​ผู้​อยู่​ใน​พระ นิเวศ​ของ​พระยาห์เวห์​ เพื่อ​ซ่อมแซม​พระนิเวศ”

      (And let it be given into the hand of the workmen who have the oversight of the house  of the   Lord, and let them give it to the workmen who are at the house of the Lord, repairing the house )

22:6 “คือ​ให้​แก่​ช่างไม้ ช่าง​ก่อสร้าง และ​ช่างปูน ทั้ง​สำหรับ​ซื้อ​ไม้​และ​หิน​สกัด​เพื่อ​ซ่อมแซม​พระนิเวศ”

                 (that is, to the carpenters, and to the builders, and to the masons), and let them use it for  buying timber and quarried stone to repair the house. )

22:7 “แต่​ไม่​ต้อง​ขอ​บัญชี​จาก​เขา​เรื่อง​เงิน​ที่​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​พวกเขา เพราะ​เขา​ทำ​อย่าง​ซื่อสัตย์

                 (But no accounting shall be asked from them for the money that is delivered into their hand, for  they deal honestly.”)

22:8 “และ​ฮิลคียาห์​มหาปุโรหิต​พูด​กับ​ชาฟาน​ราชเลขา​ว่า “ข้าพเจ้า​ได้​พบ​หนังสือ​ธรรม​บัญญัติ​ใน​พระนิเวศ​ของ​ พระยาห์เวห์” และ​ฮิลคียาห์​ได้​มอบ​หนังสือ​นั้น​ให้​ชาฟาน​และ​ท่าน​ก็​อ่าน”

                 (And Hilkiah the high priest said to Shaphan the secretary, “I have found the Book of the Law in   the house of the Lord.” And Hilkiah gave the book to Shaphan, and he read it. )

22:9 “และ​ชาฟาน​ราชเลขา​ได้​เข้าเฝ้า​พระราชา​และ​ทูล​รายงาน​ต่อ​พระราชา​ว่า “พวก​ข้า​ราชการ​ของ​พระองค์​ได้​เท​เงิน​ที่​พบ​ใน​พระนิเวศ​ออก และ​ได้​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​ผู้​ทำ​หน้า​ที่​ดูแล​พระนิเวศ​ของ​พระยาห์เวห์

       (And Shaphan the secretary came to the king, and reported to the king, “Your servants  have emptied out the money that was found in the house and have delivered it into the hand of  the workmen who have the oversight of the house of the Lord.” )

  22:10 “แล้ว​ชาฟาน​ราชเลขา​ได้​ทูล​พระราชา​ว่า “ฮิลคียาห์​ปุโรหิต​มอบ​หนังสือ​แก่​ข้าพระบาท​ม้วน​หนึ่ง” และ​ชาฟาน​ก็​อ่าน​ถวาย​พระราชา”

            (Then Shaphan the secretary told the king, “Hilkiah the priest has given me a book.” And  Shaphan read it before the king.)

22:11 “ต่อ​มา​เมื่อ​พระราชา​ทรง​สดับ​ถ้อยคำ​ของ​หนังสือ​ธรรม​บัญญัติ​นั้น พระองค์​ก็​ฉีก​ฉลองพระองค์”

                 (When the king heard the words of the Book of the Law, he tore his clothes. )

22:12 “แล้ว​พระราชา​ทรง​บัญชา​ฮิลคียาห์​ปุโรหิต และ​อาหิคัม​บุตร​ชาฟาน และ​อัคโบร์​บุตร​มีคายาห์​และ​ชาฟาน​ราชเลขา และ​อาสายาห์​คน​รับใช้​ของ​พระราชา ตรัส​ว่า”

           (And the king commanded Hilkiah the priest, and Ahikam the son of Shaphan, and Achbor the  son of Micaiah, and Shaphan the secretary, and Asaiah the king’s servant, saying, )

22:13 “จง ​ไป​ทูลถาม​พระยาห์เวห์​ให้​กับ​เรา และ​ให้​กับ​ประชาชน และ​ให้​กับ​ยูดาห์​ทั้งหมด เกี่ยวกับ​ถ้อยคำ​ใน​หนังสือ​นี้​ที่​ได้​พบ เพราะว่า​พระพิโรธ​ของ​พระยาห์เวห์​ซึ่ง​พลุ่ง​ขึ้น​ต่อ​พวกเรา​นั้น​ ใหญ่​หลวง​นัก เพราะว่า​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​ไม่ได้​เชื่อฟัง​ถ้อยคำ​ของ​หนังสือ​นี้ ที่​จะ​ทำ​ทุกสิ่ง​ตาม​ที่​เขียน​ไว้​เกี่ยวกับ​พวกเรา

      (“Go, inquire of the Lord for me, and for the people, and for all Judah, concerning the words of  this book that has been found. For great is the wrath of the Lord that is kindled against  us,              because our fathers have not obeyed the words of this book, to do according to all that is  written concerning us.”)

22:14 “ฮิลคียาห์​ปุโรหิต และ​อาหิคัม และ​อัคโบร์ และ​ชาฟาน และ​อาสายาห์ จึง​ไป​หา​ฮุลดาห์​ผู้​เผย​พระวจนะ​หญิง​ผู้​เป็น​ภรรยา​ของ​ชัลลูม บุตร​ของ​ทิกวาห์​บุตร​ฮารฮัส​ผู้​ดูแล​เสื้อผ้า (นาง​อยู่​ใน​เยรูซาเล็ม​เขต​สอง) และ​พวกเขา​ได้​สนทนา​กับ​นาง”

      (So Hilkiah the priest, and Ahikam, and Achbor, and Shaphan, and Asaiah went to Huldah the  prophetess, the wife of Shallum the son of Tikvah, son of Harhas, keeper of the wardrobe (now  she lived in Jerusalem in the Second Quarter), and they talked with her. )

22:15 “และ​นาง​บอก​พวกเขา​ว่า “พระยาห์เวห์​พระเจ้า​แห่ง​อิสราเอล​ตรัส​ดังนี้​ว่า ‘จง​บอก​คน​ที่​ใช้​พวก​เจ้า​มา​หา​เรา​ว่า”

       (And she said to them, “Thus says the Lord, the God of Israel: ‘Tell the man who sent you to  me, )

22:16 “พระยาห์เวห์​ตรัส​ดังนี้​ว่า นี่แน่ะ เรา​จะ​นำ​เหตุร้าย​มา​ยัง​สถาน​ที่​นี้ และ​มา​ยัง​ชาว​เมือง​นี้ ตาม​ถ้อยคำ​ทั้งหมด​ใน​หนังสือ​ซึ่ง​พระราชา​แห่ง​ยูดาห์​ได้​อ่านนั้น”

       (Thus says the Lord, Behold, I will bring disaster upon this place and upon its inhabitants, all  the words of the book that the king of Judah has read. )

22:17 “เพราะ​พวกเขา​ละทิ้ง​เรา และ​เผา​เครื่อง​หอม​ถวาย​พระ​อื่นๆ ซึ่ง​ทำ​ให้​เรา​โกรธ​ด้วย​การ​กระทำ​ทั้งหมด​จาก​มือ​ ของ​เขา ดังนั้น​ความ​โกรธ​ของ​เรา​จะ​จุด​ขึ้น​ต่อ​สถาน​ที่​นี้ และ​จะ​ดับ​ไม่ได้”

       (Because they have forsaken me and have made offerings to other gods, that they might  provoke me to anger with all the work of their hands, therefore my wrath will be kindled against      this place, and it will not be quenched. )

22:18 “ส่วน​พระราชา​แห่ง​ยูดาห์​ผู้​ใช้​พวกเจ้า​มา​ถาม​พระยาห์เวห์​นั้น จง​ไป​บอก​เขา​ว่า พระยาห์เวห์​พระเจ้า​แห่ง​อิสราเอล​ตรัส​ดังนี้​ว่า เรื่อง​บรรดา​ถ้อยคำ​ที่​เจ้า​ได้​ยิน”

        (But to the king of Judah, who sent you to inquire of the Lord, thus shall you say to him, Thus  says the Lord, the God of Israel: Regarding the words that you have heard, )

22:19 “เพราะ​ใจ​ของ​เจ้า​อ่อนน้อม และ​เจ้า​ถ่อม​ตัว​ลง​เฉพาะ​พระพักตร์​พระยาห์เวห์ เมื่อ​เจ้า​ได้ยิน​ถ้อยคำ​ซึ่ง​เรา​กล่าว​โทษ​สถาน​ที่​นี้​และ​ชาว​เมือง​ นี้ ซึ่ง​จะ​กลาย​เป็น​ที่​ร้าง​และ​ที่​ถูก​แช่ง​สาป และ​เจ้า​ได้​ฉีก​เสื้อ​ผ้า​ของ​เจ้า และ​ร้องไห้​ต่อ​หน้า​เรา เรา​เอง​ก็​ได้​ยิน​เจ้า​ด้วย พระยาห์เวห์​ตรัส​ดังนี้​แหละ”

      (because your heart was penitent, and you humbled yourself before the Lord, when you heard  how I spoke against this place and against its inhabitants, that they should become a desolation   and a curse, and you have torn your clothes and wept before me, I also have heard you,   declares the Lord. )

22:20 “เพราะ​ฉะนั้น ดูสิ เรา​จะ​นำ​เจ้า​ไป​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เจ้า และ​เจ้า​จะ​ถูก​นำ​ไป​ยัง​อุโมงค​์ฝัง​ศพ​ของ​เจ้า​อย่าง​ สงบ​สุข และ​ตา​ของ​เจ้า​จะ​ไม่​เห็น​เหตุร้าย​ทั้งสิ้น​ที่​เรา​จะ​นำ​มา​ยัง​ สถานที่นี้” และ​เขา​ทั้งหลาย​ได้​นำ​พระวจนะ​นั้น​มา​ทูล​พระราชา”

       (Therefore, behold, I will gather you to your fathers, and you shall be gathered to your grave in  peace, and your eyes shall not see all the disaster that I will bring upon this place.’” And they  brought back word to the king.)

 ข้อมูลมีประโยชน์

22:1     “โยสิยาห์” (Josiah) –ยรม.1:2;25:3

“มีประชนมายุ 8 พรรษา” (was eight years old)

            “ครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 31 ปี” ( he reigned thirty-one years in Jerusalem) = 640-609 ก.ค.ศ. (21:19)

“เยดีดาห์ ธิดาของอาดายาห์จากโบสคาท” (Jedidah the daughter of Adaiah of Bozkath) –ยชว .15:39, โบสคาทตั้งอยู่ในยูดาห์ ในบริเวณลาคีช (ยชว.15:39)

22:2     “พระองค์ทรงทำสิ่งที่ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์”(he did what was right in the eyes of the Lord) = กระทำสิ่งที่ถูกต้อง, ฉธบ.17:19;1พกษ.14:8

“ทรงดำเนินตามทางทั้งสิ้นของดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์” (walked in all the way of David his father) -18:3, โยสิยาห์เป็นกษัตริย์ที่ดีองค์สุดท้ายในวงศ์วานของดาวิดก่อนที่จะสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินและตกเป็นเชลยของบาบิโลน

-เยเรมีย์เป็นผู้เผยพระวจนะในรัชกาลนี้ (ยรม.1:2) และได้กล่าวยกย่องโยสิยาห์อย่างมาก (ยรม.22:15-16)

-เศฟันยาห์ก็เผยพระวจนะในช่วงต้นรัชกาลของโยสิยาห์เช่นกัน (ศฟย.1:1)

22:3     “ในปีที่ 18”(In the eighteenth year) = ปี 622 ก.ค.ศ. ในเวลานั้นโยสิยาห์ อายุ 26 ปี (ข.1) เขาเริ่มรับใช้พระเจ้าอย่างซื่อสัตย์เมื่ออายุ 16 ปี (ปีที่ 8 ของรัชกาล, 2พศด.34:3) ,เมื่อเขาอายุได้ 20 ปี (ปีที่ 12 ของรัชกาล, 2พศด.34:3) เขาเริ่มขจัดการกราบไหว้รูปเคารพออกไปจากแผ่นดิน

“ชาฟาน”(Shaphan)= ราชเลขา (2ซมอ.8:17) และยังกล่าวถึงบุคคลอีก 2 คนร่วมกับชาฟานใน2พศด.34:8

22:4     “ฮิลคียาห์”(Hilkiah) = มหาปุโรหิต

= เป็นบิดาของอาซาริยาห์ และเป็นปู่ของเสไรอาห์ ซึ่งเป็นมหาปุโรหิตที่ถูกประหารชีวิตในช่วงที่เยรูซาเล็มถูกทำลายโดยบาบิโลน (25:18-21) (แต่ไม่น่าจะเป็นบิดาของเยเรมีย์ –ยรม.1:1)

“นับเงิน …ซึ่งผู้เฝ้าธรณีประตูเก็บจากประชาชน” (count the money …. which the keepers of the threshold have collected from the people.) = เงินที่ปุโรหิตที่เฝ้าประตูพระวิหารเก็บ ในเวลานี้โยสิยาห์ใช้วิธีที่โยอาชคิดค้นเพื่อเก็บเงินสำหรับการฟื้นฟูพระวิหาร (12:1-16;2พศด.34:9)

22:5     “ผู้ทำหน้าที่ดูแลพระนิเวศ” ( the workmen who have the oversight of the house) = ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้บังคับบัญชางานพระวิหาร –2พศด.34:12-13

“คนงาน…เพื่อซ่อมแซมพระนิเวศ” (the workmen … repairing the house) –2พกษ.12:5,11-14

22:6     “ซ่อมแซมพระนิเวศ” (repair the house) –2พกษ.12:11-12

22:7     “เขาทำอย่างซื่อสัตย์” (for they deal honestly.) –2พกษ.12:15

22:8     “หนังสือธรรมบัญญัติ” ( the Book of the Law) =อาจเป็นสำเนาของพระคัมภีร์หมวดเบญจบรรณทั้งหมด (หรือเป็นเพียงสำเนาทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งของพระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติ) (ฉธบ.31:24-26; 2พศด.34:14) ปท. ฉธบ.28:61;กท.3:10

22:10   “ชาฟานก็อ่านถวายพระราชา” (Shaphan read it before the king) –ยรม.36:21

22:11   “พระราชาทรงสดับถ้อยคำของหนังสือธรรมบัญญัตินั้น” (the king heard the words of the Book of the Law) –2พกษ.22:8

“พระองค์ก็ฉีกฉลองพระองค์” (he tore his clothes) -18:37;ยชว.7:6

-เปรียบเทียบปฏิกิริยาของโยสิยาห์กับชองเยโฮยาคิม เมื่อได้อ่านถ้อยคำในหนังสือม้วนของเยเรมีย์ –ยรม.36:24

-คำสาปตามพันธสัญญาใน ลนต.26 และ/หรือ ฉธบ.28 ซึ่งมีโทษสูงสุด คือการถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย อาจทำให้โยสิยาห์ทุกขทรมานใจมากที่สุด

22:12   “อาหิคัม” (Ahikam)= บิดาของเกดาสิยาห์ ซึ่งภายหลังเนบูคัดเนสซาร์ได้แต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการของยูดาห์ (25:22;ยรม.26:24;39:14)

-เกดาสิยาห์ยังเป็นผู้ช่วยชีวิตเยเรมีย์ตอนที่เขาถูกคุกคามในช่วงรัชกาลของเยโฮยาคิม (ยรม.26:24)

“อัคโบร์” ( Achbor) = บิดาของเอลนาธันซึ่งถูกกล่าวถึงใน 24:8;ยรม.26:22;36:12

อาสายาห์คนรับใช้ของพระราชา” (Asaiah the king’s servant) = มหาดเล็ก –1ซมอ.8:14

22:13   “จงไปทูลถาม” (Go, inquire) – ปฐก.25:22;1ซมอ.9:9

“พระพิโรธของพระยาห์เวห์ซึ่งพลุ่งขึ้นต่อพวกเรา” (the wrath of the Lord that is kindled against us) –ฉธบ.29:24-28;31:17;อสย.5:25;42:25;อมส.2:4

22:14   “ฮุลดาห์ผู้เผยพระวจนะหญิง” (Huldah the prophetess            ) = ภรรยาของชัลลูม -ปท. อพย.15:20; วนฉ.4:4

= อาจเป็นชัลลูมผู้เป็นอาหรือลุงของเยเรมีย์ (ยรม.32:7)

“เขตสอง” (Second Quarter) หรือ = แขวงสอง

= ส่วนหนึ่งของเมือง (ในภาษาฮีบรู วลีนี้แปลว่า “ย่านใหม่” ใน ศฟย.1:10)

= อาจตั้งอยู่บริเวณที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่ ระหว่างกำแพงชั้นแรกและชั้นที่สองทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเยรูซาเล็ม –2พกษ.33:14

22:16   “เราจะนำเหตุร้ายมายังสถานที่นี้” ( I will bring disaster upon this place) = เราจะนำหายนะทุกอย่างมายังที่แห่งนี้ –ฉธบ.31:29;ยชว.23:15;ยรม.6:19;11:11;18:11;35:17

“สถานที่นี้”= เยรูซาเล็ม

“ตามถ้อยคำทั้งหมดในหนังสือ” ( all the words of the book) –ดนล.9:11

22:17   “พวกเขาละทิ้งเรา” (they have forsaken me) –1พกษ.9:9

22:18  “ถามพระยาห์เวห์” ( inquire of the Lord) –ยรม.21:2;327:3,7

22:19   “เพราะใจของเจ้าอ่อนน้อม” (your heart was penitent)= เนื่องด้วยใจของเจ้าน้อมรับ –ข.11

“เจ้าถ่อมตัวลงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์” ( you humbled yourself before the Lord) –อพย.10:3;อสย.57:15;16:1;มคา.6:8

“ซึ่งจะกลายเป็นที่ร้างและที่ถูกแช่งสาป” (become a desolation and a curse) –ยรม.24:9; 25:18;26:6; ปท.ลนต.26:31

22:20   “เราจะนำเจ้าไปไว้กับบรรพบุรุษของเจ้า” (I will gather you to your fathers)= รวบรวมเจ้าไปอยู่กับบรรพบุรุษ –1พกษ.1:21

“เจ้าจะถูกนำไปยังอุโมงค์ฝังศพของเจ้าอย่างสงบสุข” (you shall be gathered to your grave in peace) = คำพยากรณ์ว่า โยสิยาห์จะตายก่อนที่พระเจ้าจะพิพากษาเยรูซาเล็มผ่านทางเนบูคัดเนสซาร์

= จึงไม่ขัดแย้งกับการที่โยสิยาห์ตายในสงครามกับฟาโรห์เนโคแห่งอียิปต์ (23:29-30)

= โยสิยาห์ได้รับคำยืนยันว่า การพิพากษาขั้นสุดท้ายสำหรับยูดาห์และเยรูซาเล็มจะไม่เกิดขึ้นในสมัยของเขา –อสย.47:11;57:1;ยรม.18:11;1พกษ.21:29

 

คำถามนำอภิปราย

1.คุณเคยได้รับมอบหมายหรือให้มีความรับผิดชอบใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ บ้างหรือไม่? อย่างไร?

2.ในชีวิตของคุณ คุณได้ทำอะไรบ้างที่เข้าข่ายว่า “ทำสิ่งที่ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์?” มีเรื่องใดที่คุณภูมิใจมากที่สุด? อย่างไร ?

3.ในชีวิตของคุณมีเรื่องใดที่ทำให้คุณเสียใจมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณออกนอกลู่นอกทางของพระเจ้าไป? อย่างไร?

4.คุณเคยมีส่วนอะไรในการพัฒนาหรือฟื้นฟูคริสตจักรของคุณบ้าง? อย่างไร?

5.คุณเคยมีทีมงานที่ซื่อสัตย์ มีฝีมือที่คุณไว้ใจได้บ้างหรือไม่? คุณทำอะไรด้วยกันและอย่างไร?

6.คุณเคยสัมผัสกับพระเจ้าหรือฤทธิ์เดชของพระเจ้าผ่านการอ่านหรือฟังพระวจนะของพระเจ้าบ้างหรือไม่อย่างไร?

7.คุณเคยแสดงความเชื่อฟังต่อพระวจนะของพระเจ้าที่เด่นชัดที่สุดคือในเรื่องอะไร? อย่างไร? และผลที่ตามมาคืออะไร?

8. คุณเคยได้ยินข่าวร้ายใดที่ทำให้คุณอกสั่นขวัญแขวนมากที่สุดในชีวิตบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? และทำไม? แล้วคุณทำอะไรบ้าง? และผลเป็นอย่างไร?

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.