Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

2 พงศ์กษัตริย์ บทเรียนที่ 21

ผู้ปกครองชั่วทำแผ่นดินมัวหมอง

พระธรรม        2พงศ์กษัตริย์ 21:1-26
อ้างอิง           2พศด.33:1-20,21-25;ยรม.3:6;ฉธบ.4:25;2พกษ.3:27;12:20;14:5;16:3;18:4,12;19:4;  21:2,11,26;23:4,12,26-27;24:4;อสย.62:4

บทนำ            ผู้ใดมีอำนาจปกครองอยู่ในมือ ก็เท่ากับว่า เขาได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจนั้นเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า และนำคนอื่นให้กระทำเช่นเดียวกัน แต่หากผู้ใดใช้อำนาจที่ได้รับมานั้นกบฏต่อพระเจ้า ผู้นั้นจะต้องได้รับผลกรรมแห่งความหายนะอย่างไม่สมควร!

บทเรียน

21:1 “มนัสเสห์​มี​พระชนมายุ 12 พรรษา​เมื่อ​ทรง​เป็น​กษัตริย์ และ​ทรง​ครองราชย์​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม 55 ปี พระมารดา​ของ​พระองค์​มี​พระนาม​ว่า​เฮฟซีบาห์”
         (Manasseh was twelve years old when he began to reign, and he reigned fifty-five years in Jerusalem. His mother’s name was Hephzibah.)

21:2 “พระองค์​ทรง​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์ ตาม​การ​กระทำ​ที่​น่า​เกลียด​น่า​ชัง​ของ​ประชาชาติ​ทั้งหลาย ซึ่ง​พระยาห์เวห์​ทรง​ขับไล่​ไป​ให้​พ้นหน้า​ประชาชน​อิสราเอล”

        (And he did what was evil in the sight of the Lord, according to the despicable practices of the nations whom the Lord drove out before the people of Israel. )

21:3 “พระองค์​ทรง​สร้าง​ปูชนียสถาน​สูง ซึ่ง​เฮเซคียาห์​พระราชบิดา​ของ​พระองค์​ได้​ทรง​ทำลาย​นั้น​ขึ้น​ใหม่ และ​พระองค์​ทรง​ตั้ง​แท่น​บูชา​ต่างๆ แด่​พระบาอัล และ​ทรง​สร้าง​พระอาเช-ราห์​เหมือน​ที่​อาหับ​พระราชา​แห่ง​อิสราเอล​ทรง​กระทำ และ​ทรง​นมัสการ​บริวาร​ทั้งหมด​ของ​ฟ้า​สวรรค์ และ​ปรนนิบัติ​สิ่ง​เหล่า​นั้น”

     (For he rebuilt the high places that Hezekiah his father had destroyed, and he erected altars for  Baal and made an Asherah, as Ahab king of Israel had done, and worshiped all the host of     heaven and served them.)

21:4 “และ​พระองค์​ทรง​สร้าง​แท่น​บูชา​ใน​พระนิเวศ​ของ​พระยาห์เวห์ ซึ่ง​พระยาห์เวห์​ตรัส​ว่า “เรา​จะ​ใส่​ชื่อ​ของ​เรา​ไว้​ใน​ เยรูซาเล็ม

               (And he built altars in the house of the Lord, of which the Lord had said, “In Jerusalem will I put  my name.” )

21:5 “และ​พระองค์​ทรง​สร้าง​แท่น​บูชา​ต่างๆ แด่​บริวาร​ทั้งหมด​ของ​ฟ้า​สวรรค์​ใน​ลาน​ทั้งสอง​แห่ง​ของ​พระนิเวศ​ของ​พระยาห์เวห์”

     (And he built altars for all the host of heaven in the two courts of the house of the Lord.)

21:6 “และ​พระองค์​ได้​ทรง​ให้​พระราชโอรส​ลุย​ไฟ ทรง​ดู​ฤกษ์ยาม ทรง​ทำ​เวทมนตร์ และ​ทรง​ติด​ต่อ​กับ​คนทรง​และ​พ่อมด​แม่มด พระองค์​ทรง​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​มาก​มาย​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์ ทำ​ให้​พระองค์​ทรง​พระพิโรธ”

  (And he burned his son as an offering and used fortune-telling and omens and dealt with  mediums and with necromancers. He did much evil in the sight of the Lord, provoking him to  anger. )

21:7 “ส่วน​รูปเคารพ​ของ​พระ​อาเช-ราห์​ที่​พระองค์​ทรง​สร้าง​นั้น ทรง​ตั้ง​ไว้​ใน​พระนิเวศ​ซึ่ง​พระยาห์เวห์​ตรัส​กับ​ดาวิด​  และ​ ซาโลมอน​พระราชโอรส​ของ​ดาวิด​ว่า “ใน​นิเวศ​นี้ และ​ใน​เยรูซาเล็ม ซึ่ง​เรา​ได้​เลือก​ออก​จาก​เผ่า​ทั้งหมด​ของ​อิสราเอล เรา​จะ​ใส่​ชื่อ​ของ​เรา​ไว้​เป็น​นิตย์”

           (And the carved image of Asherah that he had made he set in the house of which the Lord said  to David and to Solomon his son, “In this house, and in Jerusalem, which I have chosen out of all   the tribes of Israel, I will put my name forever.)

21:8 “เรา​จะ​ไม่​ให้​เท้า​ของ​อิสราเอล​พเนจร​ออก​จาก​แผ่นดิน​ที่​เรา​ให้​กับ​ บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เขา​อีก ถ้า​เพียง​แต่​พวกเขา​ระมัดระวัง​ที่​จะ​ทำ​ตาม​ทุก​สิ่ง​ซึ่ง​เรา​ได้​ บัญชา​เขา และ​ทำ​ตาม​ธรรม​บัญญัติ​ทั้งสิ้น​ที่​โมเสส​ผู้​รับใช้​ของ​เรา​บัญชา​เขา

          (And I will not cause the feet of Israel to wander anymore out of the land that I gave to their  fathers, if only they will be careful to do according to all that I have commanded them, and          according to all the Law that my servant Moses commanded them.” )

21:9 “แต่​พวกเขา​ไม่​ฟัง และ​มนัสเสห์​ทรง​นำ​พวก​เขา​ให้​หลง​ทำ​ชั่ว​ยิ่ง​กว่า​บรรดา ประชาชาติ ซึ่ง​พระยาห์เวห์​ทรง​ทำ‍ลาย​ให้​พ้น​หน้า​ประชาชน​อิสราเอล”

           (But they did not listen, and Manasseh led them astray to do more evil than the nations had done  whom the Lord destroyed before the people of Israel. Manasseh’s Idolatry Denounced)

21:10 “และ​พระยาห์เวห์​ตรัส​ทาง​พวก​ผู้​เผย​พระวจนะ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​ว่า”

                 (And the Lord said by his servants the prophets, )

21:11 “เพราะ​มนัสเสห์​พระราชา​แห่ง​ยูดาห์​ทำ​สิ่ง​ที่​น่า​เกลียด​น่า​ชัง​เหล่านี้ และ​ทำ​ชั่ว​ยิ่งกว่า​ที่​คน​อาโมไรต์​ผู้​อยู่​ก่อน​ เขา​ได้​ทำ​ทั้งหมด อีก​ทั้ง​ยัง​ทำ​ให้​ยูดาห์​ทำ​บาป​ด้วย​บรรดา​รูปเคารพ​ของ​เขา”

           (“Because Manasseh king of Judah has committed these abominations and has done things more evil than all that the Amorites did, who were before him, and has made Judah also to sin     with his idols, )

21:12 “เพราะ​ฉะนั้น พระยาห์เวห์​พระเจ้า​แห่ง​อิสราเอล​ตรัส​ดังนี้​ว่า นี่แน่ะ เรา​กำลัง​นำ​เหตุร้าย​มา​เหนือ​เยรูซาเล็ม​  และ​ยูดาห์อย่าง​ที่​ทุก​คน​ซึ่ง​ได้​ยิน​แล้วหู​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​จะ​อื้อ​ไป”

          (therefore thus says the Lord, the God of Israel: Behold, I am bringing upon Jerusalem and  Judah such disaster that the ears of everyone who hears of it will tingle. )

21:13 “และ​เรา​จะ​วัด​กรุง​เยรูซาเล็ม​โดย​ใช้​เชือก​เส้น​เดียว​กับ​ที่​เรา​วัดกรุง​สะมาเรีย และ​ใช้​ลูกดิ่ง​อัน​เดียว​กับ​ที่​วัด​ราชวงศ์​อาหับ และ​เรา​จะ​ล้าง​เยรูซาเล็ม​อย่าง​เขา​ล้าง​ชาม คือ​ล้าง​แล้ว​ก็​คว่ำ​ลง”

         (And I will stretch over Jerusalem the measuring line of Samaria, and the plumb line of the  house of Ahab, and I will wipe Jerusalem as one wipes a dish, wiping it and turning it upside       down. )

21:14 “และ​เรา​จะ​ทิ้ง​มรดก​ส่วน​ที่​เหลือ​ของ​เรา​เสีย และ​มอบ​พวกเขา​ไว้​ใน​มือ​ศัตรู​ของ​เขา และ​เขา​จะ​เป็น​เหยื่อ​และ​ เป็น​ของ​ริบ​ของ​ศัตรู​ทั้งหมด​ของ​เขา”

     (And I will forsake the remnant of my heritage and give them into the hand of their enemies, and  they shall become a prey and a spoil to all their enemies, )

21:15 “เพราะ​พวกเขา​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​ใน​สายตา​ของ​เรา และ​ทำ​ให้​เรา​โกรธตั้งแต่​วัน​ที่​บรรพบุรุษ​ของ​เขา​ออก​จาก​อียิปต์​จน​ถึง​ทุก​วันนี้

             (because they have done what is evil in my sight and have provoked me to anger, since the  day their fathers came out of Egypt, even to this day.”)

21:16 “ยิ่งกว่า​นั้น​อีก มนัสเสห์​ทรง​ทำ​ให้​โลหิต​ไร้​ความ​ผิด​ตก​เป็น​อัน​มากจน​เต็ม​กรุง​เยรูซาเล็ม​จาก​ด้าน​หนึ่ง​ถึง​อีก​ด้าน​หนึ่งนอกเหนือ​จาก​บาป​ที่​ทรง​ทำ​ให้​ยูดาห์​ทำ​ผิด​ด้วย โดย​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์”

        (Moreover, Manasseh shed very much innocent blood, till he had filled Jerusalem from one end  to another, besides the sin that he made Judah to sin so that they did what was evil in the sight  of the Lord.)

21:17 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​มนัสเสห์ และ​ทุกสิ่ง​ที่​ทรง​กระทำ และ​บาป​ซึ่ง​ทรง​กระทำได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​ พงศาวดาร​กษัตริย์แห่ง​ยูดาห์​ไม่​ใช่​หรือ
           (Now the rest of the acts of Manasseh and all that he did, and the sin that he committed, are  they not written in the Book of the Chronicles of the Kings of Judah? )

21:18 “และ​มนัสเสห์​ทรง​ล่วงหลับ​ไป​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ และ​ทรง​ถูก​ฝัง​ไว้​ใน​พระอุทยาน​ของ​พระราชวัง​ของ​พระองค์​ใน​สวน​ของ​อุสซา และ​อาโมน​พระราชโอรส​ของ​พระองค์​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​แทน”

          (And Manasseh slept with his fathers and was buried in the garden of his house, in the garden  of Uzza, and Amon his son reigned in his place. Amon Reigns in Judah)

21:19 “อาโมน​มี​พระชนมายุ 22 พรรษา​เมื่อ​ทรง​เป็น​กษัตริย์ และ​ทรง​ครองราชย์​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม 2 ปี พระมารดา​ของ​พระองค์​มี​พระนาม​ว่า เมชุลเลเมทบุตร​หญิง​ของ​ฮารูส​ชาว​โยทบาห์”

         (Amon was twenty-two years old when he began to reign, and he reigned two years in  Jerusalem. His mother’s name was Meshullemeth the daughter of Haruz of Jotbah. )

21:20 “พระองค์​ทรง​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์เหมือน​มนัสเสห์​พระราชบิดา​ของ​พระองค์​ทรง​กระทำ”

                 (And he did what was evil in the sight of the Lord, as Manasseh his father had done. )

21:21 “พระองค์​ทรง​ดำเนิน​ใน​ทาง​ทั้งสิ้น​ที่​พระราชบิดา​ของ​พระองค์​ทรง​ดำเนิน และ​ปรนนิบัติ​รูปเคารพ​ซึ่ง​พระราชบิดา​ของ​พระองค์​ทรง​ปรนนิบัติ และ​นมัสการ​รูป​เหล่านั้น”

         (He walked in all the way in which his father walked and served the idols that his father served  and worshiped them. )

21:22 “พระองค์​ทรง​ละทิ้ง​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​แห่ง​บรรพบุรุษ​ของ​พระองค์ และ​ไม่ได้​ทรง​ดำเนิน​ใน​มรรคา​ของ​พระยาห์เวห์”

                  (He abandoned the Lord, the God of his fathers, and did not walk in the way of the Lord. )

21:23 “ข้า​ราชการ​ของ​อาโมน​ได้​ร่วม​กัน​คิด​กบฏ และ​ปลง​พระชนม์​พระราชา​ใน​พระราชวัง​ของ​พระองค์”

                 (And the servants of Amon conspired against him and put the king to death in his house.)

21:24 “แต่​ประชาชน​ใน​แผ่นดิน​ได้​ฆ่า​ทุก​คน​ที่​ร่วม​กัน​คิด​กบฏ​ต่อ​กษัตริย์​อาโมน แล้ว​ประชาชน​ใน​แผ่นดิน​ตั้ง​โยสิยาห์​พระราชโอรส​ของ​พระองค์​ให้​เป็น​พระราชา​แทน”

                  (But the people of the land struck down all those who had conspired against King Amon, and  the people of the land made Josiah his son king in his place. )

21:25 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​อาโมน​ที่​ทรง​กระทำได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​ยูดาห์​ไม่​ใช่​ หรือ?”

                 (Now the rest of the acts of Amon that he did, are they not written in the Book of the Chronicles  of the Kings of Judah? )

21:26 “และ​พระองค์​ทรง​ถูก​ฝัง​ไว้​ใน​อุโมงค์​ฝังศพ​ของ​พระองค์​ใน​สวน​ของ​อุสซา และ​โยสิยาห์​พระราชโอรส​ของ​พระองค์​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​แทน”

                 (And he was buried in his tomb in the garden of Uzza, and Josiah his son reigned in his place.)

 

ข้อมูลมีประโยชน์

21:1.    “มนัสเสห์” ( Manasseh) = โอรสของเฮเซคียาห์ เปรียบเหมือนอาหับแห่งยูดาห์ (1พกษ.16:30-33)

“มีพระชนมายุ 12 พรรษา” (was twelve years old) = เกิดหลังจากที่เฮเซคียาห์ป่วยหนัก (20:6)

“ครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 55 ปี” (he reigned fifty-five years in Jerusalem) = 697-642 ก.ค.ศ. รวมช่วงเวลาที่ปกครองร่วมกับบิดา (697-686 ก.ค.ศ.)

= ปกครองยาวที่สุดมากกว่ากษัตริย์องค์ใดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอลหรือยูดาห์

21:2     “ทรงทำสิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์” (he did what was evil in the sight of theLord)

=มนัสเสห์กระทำตัวตรงข้ามกับเฮเซคียาห์ในเรื่องนโยบายทางศาสนา (18:3-5) และย้อนกลับไปทำเหมือนอาหัส (16:3)

21:3     “ปูชนียสถานสูง” (the high places) -18:4;2พศด.31:1 = สร้างปูชนียสถานสูงซึ่งเฮเซคียาห์บิดาได้ทำลายทิ้ง

“พระอาเชราห์” (Asherah) –1พกษ.14:15;23;15:13;16:33

“นมัสการบริวารทั้งหมดของฟ้าสวรรค์” (worshiped all the host of heaven ) -17:16

21:4     “สร้างแท่นบูชาในพระนิเวศของพระยาห์เวห์” (built altars in the house of theLord) –อสย.66:4; ยรม.4:1;7:30;23:11;32:34;อสค.23:39

“เราจะใส่ชื่อของเราไว้ในเยรูซาเล็ม” (In Jerusalem will I put my name) -1พกษ.8:20,29;9:3; อพย.20:24;2ซมอ.7:17

21:5     “แด่บริวารทั้งหมดของฟ้าสวรรค์”(all the host of heaven) –21:3;ปท.1พกษ.7:12;2พกษ.23:12

21:6     “ให้พระราชโอรสลุยไฟ”(burned his son) -3:27;16:3;17:17;ลนต.18:21;ฉธบ.18:20

“ดูฤกษ์ยาม”(used fortune-telling ) และ “ทำเวทมนตร์” (omen) -16:15;17:17;ฉธบ.18:14

“ติดต่อกับคนทรงและพ่อมดแม่มด” (dealt with mediums and with necromancers) –ลนต.19:31; ฉธบ.18:11;1ซมอ.28:3,7-9

21:7     “รูปเคารพของพระอาเชราห์” (carved image of Asherah) –1พกษ.14:15;ฉธบ.16:21;2พกษ.23:4

21:9     “บรรดาประชาชาติซึ่งพระยาห์เวห์ทรงทำลายให้พ้นหน้าประชาชนอิสราเอล” (the nations had done whom the Lord destroyed before the people of Israel.)–1พกษ.14:24;ฉธบ.12:29-31;31:3

21:10   “ผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์” (servants the prophets) –1พศด.33:10,18

21:11   “ทำชั่วยิ่งกว่าชาวอาโมไรต์” ( has done things more evil than all that the Amorites did) –1พกษ.21:26

“บรรดารูปเคารพ” (with his idols) –ลนต.26:30

21:12   “เหตุร้ายมาเหนือเยรูซาเล็ม” (bringing upon Jerusalem) = กลายเป็นจริงเมื่อบาบิโลนทำลายเยรูซาเล็มครั้งสุดท้ายใน 586 ก.ค.ศ. (บทที่ 25)

ทุกคนที่ได้ยินแล้ว…หูทั้งสองข้างของเขาจะอื้อไป” (that the ears of everyone who hears of it will tingle. ) –ยรม.19:3

21:13   “จะวัดกรุงเยรูซาเล็มโดยใช้เชื่อกเส้นเดียวกับที่เราวัดกรุงสะมาเรีย…”( will stretch over Jerusalem the measuring line of Samaria…)= เครื่องมือที่ใช้ในการก่อสร้างถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ถึงการทำลายล้าง

“เราจะล้างเยรูซาเล็มอย่างเขาล้างชาม” (will wipe Jerusalem as one wipes a dish) –อสย.34:11; อมส.7:7-9,17

21:14   “เราจะทิ้ง” (will forsake            ) = ในแง่ของการปล่อยให้ถูกพิพากษา (ยรม.12:7), ไม่ใช่การเลิกล้มพันธสัญญา (1ซมอ.12:22;อสย.43:1-7)

“มรดกส่วนที่เหลือของเรา” (the remnant of my heritage) = ชนชาติที่เหลือที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระเจ้า

= เมื่ออาณาจักรเหนือถูกทำลายล้าง ยูดาห์ก็คือมรดกหรือกลุ่มชนที่เหลืออยู่ของพระเจ้า (1พกษ.8:51;ฉธบ.4:20;1ซมอ.10:1;สดด.28:9;2พกษ.19:4)

21:15   “ทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของเรา” (done what is evil in my sight) = ตลอดประวัติศาสตร์ของอิสราเอล คือ ประวัติศาสตร์ของการละเมิดพันธสัญญา

-ในรัชกาลมนัสเสห์พระพิโรธของพระเจ้าและการพิพากษาก็มาถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะบาปที่เขาทำ (24:1-4)

นั่นคือ การถูกกวาดต้อนไปจากดินแดนแห่งพระสัญญา (17:7-23)

21:16   “ทำให้โลหิตไร้ความผิดตกเป็นอันมาก” (shed very much innocent blood, )

= ประหารคนบริสุทธิ์ผู้ที่เป็นประชากรที่ยำเกรงพระเจ้า (อาจรวมถึงผู้เผยพระวจนะ) เพราะพวกเขาต่อต้านความชั่วร้ายของมนัสเสห์ (ข้อ 10-11)

-ตามตำนานเล่าว่า อิสยาห์ถูกเลื่อยเป็น 2 ท่อนในรัชกาลของนมัสเสห์ (ฮบ.11:37)

21:17   “พระราชกิจอื่นๆ ของมนัสเสห์” (the rest of the acts of Manasseh) –2พศด.33:12-19

“พงศาวดารกษัตริย์แห่งยูดาห์” ( the Chronicles of the Kings of Judah) –1พกษ.14:29

21:18   “ล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ” (slept with his fathers ) -1พกษ.1:21

“อุสซา” (Uzza) = อาจเป็นชื่อย่อของอุสซียาห์ อาจแปลได้ว่า พระราชวังของอุสซียาห์ (14:21;2พศด.26:1)

21:19   “ 2 ปี” ( two years) = 642-640 ก.ค.ศ.

“โยทบาห์” (Jotbah) อาจ = โยทบาราห์ ใน กดว.33:33-34;ฉธบ.10:7 , ใกล้เอซีโอนเกเบอร์ (แต่บางคนรวมทั้ง เจโรม บรรพชนของคริสตจักรยุคแรกระบุว่า อยู่ในยูดาห์)

21:20   “ทำสิ่งชั่วร้าย” (did what was evil ) = อาโมนไม่ได้กลับใจเหมือนกันที่มนัสเสห์ผู้เป็นบิดาให้กลับใจในช่วงบั้นปลายชีวิต (2พศด.33:12-19)

-อาโมน คงฟื้นฟูธรรมเนียมการกราบไว้รูปเคารพที่มนัสเสห์ล้มล้างไปขึ้นมาใหม่ เพราะธรรมเนียมเหล่านี้กลับมาปรากฏอีกครั้งในรัชกาลโยสิยาห์ (23:5-7,12)

21:23   “ร่วมกันคิดกบฏ และปลงพระชนม์พระราชา” (conspired against him and put the king to death) –2พกษ.12:20

21:24   “ประชาชนในแผ่นดิน” (the people of the land) = ประชาชนทั่วไป (11:14,18;14:21;23:30)

21:25   “หนังสือพงศาวดารกษัตริย์แห่งยูดาห์” ( the Book of the Chronicles of the Kings of Judah) –1พกษ.14:29

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยแปลกใจไหมว่า ทำไมคนชั่วจึงอายุยืน และคนดีอายุสั้น? แล้วคุณได้ข้อคิดอะไรบ้าง?
  2. มนัสเสห์กระทำสิ่งชั่วใดบ้าง ที่คุณคิดว่า เขาไม่น่าทำเช่นนั้น? มีอะไรบ้าง? และทำไม?
  3. ถ้าคุณเป็นมนัสเสห์ คุณจะทำอะไรที่แตกต่างจากที่เขากระทำบ้าง? ทำไม?
  4. ทำไมอิสราเอลประชากรของพระเจ้าจึงไม่ปฏิบัติตามคำสอนและบัญญัติของพระเจ้า? มีอะไรบ้างที่คุณก็ทำคล้าย ๆ กับพวกเขา?
  5. คุณเคยเห็นภัยพิบัติใดที่เกิดขึ้นกับผู้เชื่อที่คุณคิดว่า น่ากลัวที่สุด? ทำไมจึงเกิดขึ้น? (อะไรคือสาเหตุ) และคุณได้รับบทเรียนอะไรจากสิ่งที่เห็นบ้าง?
  6. เคยมีใครชักจูงคุณให้ทำบาปบ้าง ในเรื่องอะไร? หรือคุณเคยชักจูงใครให้ทำผิดบาปบ้าง? ในเรื่องอะไร? และผลเป็นอย่างไร?
  7. คุณเคยละทิ้งพระเจ้าหรือเคยเห็นผู้ใดละทิ้งพระองค์บ้างหรือไม่? อะไรคือสาเหตุ และมีอะไรเกิดขึ้นตามมาบ้าง? มีบทเรียนสำคัญอะไรต่อคุณบ้าง?

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.