รอดโดยพระคุณ แต่พังเพราะการโอ้อวด
พระธรรม 2พงศ์กษัตริย์ 20:1-21
อ้างอิง 2พศด.32:24-26;32-33;อสย.38:1-8;39:1-8
บทนำ พระเจ้าทรงมีพระคุณแก่คนที่ติดตามพระองค์อยู่เสมอมา และเสมอไป แต่บางครั้งเราอาจนำเอาปัญหามาสู่ตัวเองอย่างไม่จำเป็น
ดังนั้น จงระวังไว้เสอมว่า ในยามที่พระเจ้าทรงอวยพรหรือช่วยเหลือเรา อย่าให้เราหลงระเริงจนประมาทขาดสติยั้งคิด เพราะว่า ผลลัพธ์หรือหายนะที่จะเกิดขึ้นตามมานั้นอาจหนักหนาสาหัสจนเกินกว่าที่เราจะรับได้!
บทเรียน
20:1 “ใน เวลานั้น เฮเซคียาห์ประชวรใกล้จะสิ้นพระชนม์ และผู้เผยพระวจนะอิสยาห์บุตรอามอสเข้ามาเฝ้าพระองค์และทูลพระองค์ว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า ‘จงจัดการบ้านเมืองของเจ้าให้เรียบร้อย เจ้ากำลังจะตายและไม่ฟื้น’ ”
(In those days Hezekiah became sick and was at the point of death. And Isaiah the prophet the son of Amoz came to him and said to him, “Thus says the Lord, ‘Set your house in order, for you shall die; you shall not recover.’” )
20:2 “แล้วเฮเซคียาห์หันพระพักตร์เข้าข้างฝา และอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า”
(Then Hezekiah turned his face to the wall and prayed to the Lord, saying, )
20:3 “ข้าแต่ พระยาห์เวห์ ขอทรงระลึกว่า ข้าพระองค์ดำเนินอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ด้วยความ ซื่อสัตย์ และด้วยความเต็มใจ และได้ทำสิ่งดีในสายพระเนตรของพระองค์” แล้วเฮเซคียาห์ทรงกันแสงมาก”
(“Now, O Lord, please remember how I have walked before you in faithfulness and with a whole heart, and have done what is good in your sight.” And Hezekiah wept bitterly. )
20:4 “และก่อนที่อิสยาห์จะออกไปถึงลานกลาง พระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงท่านว่า”
(And before Isaiah had gone out of the middle court, the word of the Lord came to him: )
20:5 “จงกลับไปบอกเฮเซคียาห์ผู้นำประชากรของเราว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของเจ้า ตรัสดังนี้ ว่า เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าแล้ว เราได้เห็นน้ำตาของเจ้าแล้ว ดูสิ เราจะรักษาเจ้า ในวันที่สาม เจ้าจะขึ้นไปยังพระนิเวศของพระยาห์เวห์”
(“Turn back, and say to Hezekiah the leader of my people, Thus says the Lord, the God of David your father: I have heard your prayer; I have seen your tears. Behold, I will heal you. On the third day you shall go up to the house of the Lord, )
20:6 และ เราจะเพิ่มชีวิตของเจ้าอีก 15 ปี เราจะช่วยกู้เจ้าและเมืองนี้จากมือของพระราชาแห่งอัสซีเรีย และจะป้อง กันเมืองนี้ไว้เพื่อเห็นแก่เราเอง และเพื่อเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา”
(and I will add fifteen years to your life. I will deliver you and this city out of the hand of the king of Assyria, and I will defend this city for my own sake and for my servant David’s sake.” )
20:7 “และอิสยาห์บอกว่า “พวกท่านจงเอาขนมมะเดื่อมาอันหนึ่ง” พวกเขาก็เอามาวางไว้บนพระยอดนั้น แล้ว เฮเซคียาห์ก็ทรงหายเป็นปกติ”
(And Isaiah said, “Bring a cake of figs. And let them take and lay it on the boil, that he may recover.”)
20:8 “และเฮเซคียาห์ตรัสกับอิสยาห์ว่า “อะไรเป็นหมายสำคัญที่แสดงว่าพระยาห์เวห์จะทรงรักษาข้า พเจ้า และที่ แสดงว่าข้าพเจ้าจะได้ขึ้นไปยังพระนิเวศของพระยาห์เว ห์ในวันที่สาม”
(And Hezekiah said to Isaiah, “What shall be the sign that the Lord will heal me, and that I shall go up to the house of the Lord on the third day?” )
20:9 “และอิสยาห์ทูลว่า “นี้เป็นหมายสำคัญสำหรับฝ่าพระบาทจากพระยาห์เวห์ ที่พระยาห์เวห์จะทรงทำตามที่พระองค์ตรัสไว้ คือจะให้เงาคืบหน้าไปสิบขั้น หรือจะให้ย้อนกลับมาสิบขั้นดี?”
(And Isaiah said, “This shall be the sign to you from the Lord, that the Lord will do the thing that he has promised: shall the shadow go forward ten steps, or go back ten steps?” )
20:10 “เฮเซคียาห์ตรัสตอบว่า “เป็นเรื่องง่ายที่เงาจะยาวออกไปอีกสิบขั้น แต่ขอให้เงาย้อนกลับมาสิบขั้น”
(And Hezekiah answered, “It is an easy thing for the shadow to lengthen ten steps. Rather let the shadow go back ten steps.” )
20:11 “และอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะได้ร้องทูลพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงนำเงาซึ่งเลยไปในนาฬิกาแดดของอาหัส ย้อนกลับ มาสิบขั้น”
(And Isaiah the prophet called to the Lord, and he brought the shadow back ten steps, by which it had gone down on the steps of Ahaz)
20:12 “คราวนั้น เมโรดัคบาลาดัน พระราชโอรสของบาลาดัน พระราชาแห่งบาบิโลน ทรงส่งพระราชสารและเครื่องบรรณาการมายังเฮเซคียาห์ เพราะพระองค์ทรงได้ยินว่าเฮเซคียาห์ประชวร”
(At that time Merodach-baladan the son of Baladan, king of Babylon, sent envoys with letters and a present to Hezekiah, for he heard that Hezekiah had been sick. )
20:13 “และเฮเซคียาห์ได้ทรงต้อนรับพวกเขา และทรงพาพวกเขาชมคลังทรัพย์ทั้งหมดของพระองค์ ให้ชมเงิน ทองคำ เครื่องเทศ น้ำมันอย่างดี และคลังพระแสง ของพระองค์ และทุกอย่างซึ่งมีในท้องพระคลัง ไม่มีสิ่งใดในพระราชวังหรือในราชอาณาจักรทั้งสิ้นของ พระองค์ ซึ่งเฮเซคียาห์ไม่ได้สำแดงแก่เขา”
(And Hezekiah welcomed them, and he showed them all his treasure house, the silver, the gold, the spices, the precious oil, his armory, all that was found in his storehouses. There was nothing in his house or in all his realm that Hezekiah did not show them. )
20:14 “แล้วอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะก็เข้าเฝ้ากษัตริย์เฮเซคียาห์ และทูลพระองค์ว่า “คนเหล่านี้ทูลอะไรบ้าง? และเขามาเฝ้าพระองค์จากที่ไหน?” และเฮเซคียาห์ตรัสว่า “เขามาจากเมืองไกลคือจากบาบิโลน”
(Then Isaiah the prophet came to King Hezekiah, and said to him, “What did these men say? And from where did they come to you?” And Hezekiah said, “They have come from a far country, from Babylon.” )
20:15 “ท่านทูลว่า “พวกเขาเห็นอะไรในพระราชวังของพระองค์บ้าง?” และเฮเซคียาห์ตรัสตอบว่า “เขาเห็นทุกอย่างในวังของเรา ไม่มีสิ่งใดในพระคลังของเราที่เราไม่ได้สำแดงแก่เขา”
(He said, “What have they seen in your house?” And Hezekiah answered, “They have seen all that is in my house; there is nothing in my storehouses that I did not show them.”)
20:16 “แล้วอิสยาห์ทูลเฮเซคียาห์ว่า “จงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์”
(Then Isaiah said to Hezekiah, “Hear the word of the Lord: )
20:17 “นี่แน่ะ วันเวลากำลังมาถึงเมื่อทุกสิ่งในวังของเจ้า และสิ่งที่บรรพบุรุษของเจ้าได้สะสมมาจนถึงทุกวันนี้ จะต้องถูกเอาไปยังบาบิโลน และไม่มีสิ่งใดเหลือเลย พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ”
(Behold, the days are coming, when all that is in your house, and that which your fathers have stored up till this day, shall be carried to Babylon. Nothing shall be left, says the Lord. )
20:18 “และลูกบางคนซึ่งถือกำเนิดจากเจ้า ผู้ซึ่งเกิดแก่เจ้า จะถูกนำเอาไป และพวกเขาจะไปเป็นขันทีในพระราชวังของพระราชาแห่งบาบิโลน”
(And some of your own sons, who shall be born to you, shall be taken away, and they shall be eunuchs in the palace of the king of Babylon.” )
20:19 “แล้วเฮเซคียาห์ตรัสกับอิสยาห์ว่า “พระวจนะของพระยาห์เวห์ซึ่งท่านกล่าวนั้นดีแล้ว” ที่ตรัสอย่างนี้เพราะทรงคิดว่า “ก็ดีแล้วมิใช่หรือ? ในเมื่อมีความอยู่เย็นเป็นสุขและความปลอดภัยในสมัยของเรา”
(Then Hezekiah said to Isaiah, “The word of the Lord that you have spoken is good.” For he thought, “Why not, if there will be peace and security in my days?”)
20:20 “ส่วนพระราชกิจอื่นๆ ของเฮเซคียาห์ และพระราชอำนาจทั้งสิ้นของพระองค์ และการที่พระองค์ทรงสร้างสระและรางระบายน้ำ นำน้ำเข้ามาในกรุงอย่างไร ได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารกษัตริย์แห่งยูดาห์ไม่ใช่หรือ?”
(The rest of the deeds of Hezekiah and all his might and how he made the pool and the conduit and brought water into the city, are they not written in the Book of the Chronicles of the Kings of Judah?
20:21 “และเฮเซคียาห์ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ และมนัสเสห์พระราชโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ แทน”
(And Hezekiah slept with his fathers, and Manasseh his son reigned in his place.)
ข้อมูลมีประโยชน์
20:1 “ในเวลานั้น” (In those days) = ช่วงเวลาที่กษัตริย์เฮเซคียาห์เจ็บป่วย (ข.1-11)
= อาการเจ็บป่วยนี้เกิดก่อนเขาเสียชีวิตประมาณ 15 ปี (ข.6) ดังนั้นในเวลานั้น เขาน่าจะอายุราว ๆ 37-38 ปี โดยสันนิษฐานว่า เขาเริ่มครองราชย์เพียงผู้เดียว เมื่ออายุ 25 ปี ในปี 715 ก.ค.ศ.
“อิสยาห์บุตรอามอส” (Isaiah the son of Amoz) –ถูกกล่าวถึงครั้งแรกใน 19:2
20:3 “ดำเนินอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ด้วยความซื่อสัตย์และด้วยความเต็มใจ”(walked before you in faithfulness and with a whole heart)
= เฮเซคียาห์ แสดงออกว่า เขารับรู้ว่า พระเจ้าเมตตาต่อผู้รับใช้พระองค์อย่างจริงใจ เขามิได้อ้อนวอนขอความช่วยเหลือเพื่อทดแทนความประพฤติดีของเขา (2ซมอ.22:21)
20:5 “เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าแล้ว” (I have heard your prayer) –1พกษ.9:3
“เราได้เห็นน้ำตาของเจ้าแล้ว” (I have seen your tears) –สดด.6:6,8;39:12;56:8
“เราจะรักษาเจ้า” (I will heal you) = พระเจ้าเป็นผู้กำหนดทุกสิ่งที่เกิดขึ้น (สดด.139:16;อฟ.1:11)
การทูลขอของเฮเซคียาห์ และการตอบสนองของพระเจ้าแสดงว่า
- พระเจ้ามีฤทธิ์อำนาจสูงสุด และอำนาจยิ่งใหญ่สูงสุดของพระเจ้านั้นเป็นพื้นฐานแห่งคำอธิษฐานของเขา
- ทั้งคำอธิษฐานด้วยความถ่อมใจ/กลับใจและการตอบสนองของพระเจ้าต่อการสำนึกผิดบาปมีผลกระทบต่อชีวิตของเขา (1พกษ.21:29;อสค.33:13-16)
20:6 “เราจะเพิ่มอายุของเจ้าอีก 15 ปี” (I will add fifteen years to your life) = เฮเซคียาห์เสียชีวิตในปี 686 ก.ค.ศ. ดังนั้น จุดเริ่มต้นของการต่ออายุของเขาจึงไม่เกินปี 702 ก.ค.ศ.
“เพื่อเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา” (for my servant David’s sake) –19:34;1พกษ.11:13
20:7 “พวกท่านจงเอาขนมมะเดื่อมาอันหนึ่ง” (Bring a cake of figs) = เตรียมยาพอกจากมะเดื่อมาพอกที่ฝี (อพย.9:9) = พระเจ้าทรงรักษาเขาให้หายโดยใช้ยาที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว
20:9 “ขั้น” (steps) –ดู ข.11 ;ปท.อสย.38:8
20:10 “เป็นเรื่องง่ายที่เงาจะยาวออกไปอีกสิบขั้น” (It is an easy thing for the shadow to lengthen ten steps) = เงาเคลื่อนไปข้างหน้าเป็นเรื่องปกติ เพราะเงาทอดไปทิศนั้นตามธรรมชาติ
“แต่ขอให้เงาย้อนกลับมาสิบขึ้น” (or go back ten steps?)
=เฮเซคียาห์ ขอหมายสำคัญ (ที่ยากกว่าเรื่องปกติ) ในเรื่องทิศทาง การเคลื่อนที่ของเงาที่ยากกว่าการเป็นเรื่องง่าย ๆ หรือบังเอิญ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นหมายสำคัญมาจากพระเจ้า
20:11 “เงา…นาฬิกาแดดของอาหัส” (shadow…on the steps of Ahaz) = เครื่องมือที่ใช้วัดหรือบอกเวลาในสมัยโบราณ ปท.ยชว.10:13;2พศด.32:31
20:12 “เมโรดัคบาลาดัน” (Merodach-baladan) = “(พระ) มาร์ดุคได้ประทานบุตรชายแก่เรา”
= ปกครองบาบิโลนในช่วง 721 – 710 ก.ค.ศ. ก่อนถูกบีบบังคับให้ยอมอยู่ใต้การปกครองของซาร์กอนที่ 2 แห่งอัสซีเรีย
-หลังจากที่ซาร์กอนเสียชีวิตในปี 705 ก.ค.ศ. เมโรดัคบาลาดันได้ปลดปล่อยบาบิโลนเป็นอิสระในช่วงเวลาสั้น ๆ และปกครองบาบิโลนจนกระทั่งเซนนาเคอริบบังคับให้เขาต้องหนีไปในปี 703 ก.ค.ศ.
“ส่งพระราชสารและเครื่องบรรณาการ” (sent envoys with letters and a present) = ส่งสาส์นและของกำนัลมาให้
= เป็นไปได้ว่า เขาพยายามจะดึงเฮเซคียาห์ให้มาเป็นพันธมิตรต่อต้านอัสซีเรีย แม้ว่าเฮเซคียาห์จะปฏิเสธนโยบายสนับสนุนอัสซีเรียของอาหัสผู้เป็นบิดา (16:7) และกบฏต่ออัสซีเรีย (18:7) แต่เขาก็ผิดพลาดที่คิดว่าอิสราเอลจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยการผูกมิตรกับบาบิโลนและอียิปต์ (2พศด.32:31;อสย.30:31;1ซมอ.17:1; 1พกษ.15:19)
20:13 “ต้อนรับ…พาพวกเขาชมคลังสมบัติทั้งหมดของพระองค์” (welcomed them, and he showed them all his treasure house) = เฮเซคียาห์ ต้อนรับคณะฑูตจากบาบิโลนดีเกินไป อาจต้องการสร้างความประทับใจในความมั่งคั่งและอำนาจของยูดาห์ เพื่อเป็นพื้นฐานการร่วมมือในการต่อต้านอัสซีเรีย แต่ก็เป็นการปฏิเสธพื้นฐานความจริงที่ว่า กษัตริย์อิสราเอลนั้นอยู่ใต้พันธสัญญากับพระเจ้า (2ซมอ.24:1)
“เงิน…น้ำมันอย่างดี” (the silver… the precious oil) = การที่สมบัติเหล่านี้ยังอยู่แสดงว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนการถวายบรรณาการให้แก่เซนนาเคอริบในปี 701 ก.ค.ศ. (18:15-16)
20:14 “คนเหล่านั้นทูลอะไรบ้าง” (What did these men say?) = เฮเซคียาห์ ไม่ได้ตอบคำถามอิสยาห์ว่า คณะฑูตบาบิโลนมีเป้าหมายอะไรในทางการทูต
20:17 “จะต้องถูกกวาดไปยังบาบิโลน” (shall be carried to Babylon) = การที่เฮเซคียาห์ต้อนรับพวกบาบิโลนจะส่งผลตรงกันข้ามกับที่เขาต้องการและคาดหวังไว้ อิสยาห์ได้พยากรณ์ไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 115 ปี ถึงการตกเป็นเชลยที่บาบิโลน ซึ่งเป็นคำทำนายที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะว่าในเวลานั้นอัสซีเรียมีอำนาจมากที่สุดในโลกและยูดาห์ก็กลัวอัสซีเรียไม่ใช่บาบิโลน
20:18 “ลูกบางคน…ผู้ซึ่งเกิดแก่เจ้าจะถูกนำเอาไป” (some of your own sons, who shall be born to you, shall be taken away) = “วงศ์วานของเจ้าบางคนจะถูกกวาดต้อนไป”
= มนัสเสห์ บุตรชายของเฮเซคียาห์เองถูกอัสซีเรียจับไปเป็นนักโทษอยู่ระยะหนึ่งในบาบิโลน (2พศด.33:11) และต่อมาภายหลังวงศ์วานของดาวิดอีกหลายคนก็ถูกกวาดต้อนไปด้วย (24:15;25:7;ดนล.1:3)
20:19 “พระวจนะของพระยาห์เวห์ซึ่งท่านกล่าวนั้นดีแล้ว” (The word of the Lord that you have spoken is good.) = ถึงแม้จะเข้าใจได้ว่า เฮเซคียาห์พูดเช่นนั้นด้วยความโล่งใจอย่างเห็นแก่ตัว ว่าตัวเองไม่ต้องประสบกับเรื่องร้ายตามคำพยากรณ์ด้วยตัวเองแต่ก็มองได้อีกแง่ถึงความถ่อมใจในการยอมรับการพิพากษาของพระเจ้า (2พศด.32:26) และซาบซึ้งในพระคุณของพระเจ้าที่ประทานช่วงเวลาแห่งความสงบสุขช่วงหนึ่งให้แก่ชนชาติยูดาห์
20:20 “สร้างสระและรางระบายน้ำ” ( made the pool and the conduit) = สระน้ำและท่อส่งน้ำ, เฮเซคียาห์ได้สร้างท่อส่งน้ำจากน้ำพุกีโฮน (1พกษ.1:33,38) ไปยังสระน้ำ(2พศด.32:30) ภายในกำแพงเมือง ท่อส่งน้ำนี้ทำให้เยรูซาเล็มยังคงเข้มแข้งในยามที่ถูกล้อม เพราะมีน้ำใช้อยู่เสมอ
-ในปี ค.ศ. 1880 ปี มีการค้นพบจารึก (จารึกสิโลอัม) บนกำแพงหินที่ปากทางของท่อส่งน้ำนี้ บรรยายถึงวิธีการก่อสร้าง ท่อน้ำนี้ตัดผ่านหินทึบ มีความยาวประมาณ 534 เมตร ความสูงมีตั้งแต่ 12 เมตร ถึง 3.5 เมตร และโดยเฉลี่ยแล้วกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร (1พกษ.14:29)
คำถามนำอภิปราย
- คุณเคยป่วยหรือประสบเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณกำลังจะตายบ้างหรือไม่? อย่างไรบ้าง? (แบ่งปัน)
- คุณเคยรู้สึกว่า คุณทุ่มเทในทางดี(หรือทางของพระเจ้า)อย่างซื่อสัตย์ แต่ได้รับผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามและ คุณเสียใจบ้างหรือไม่? อย่างไร?
- คุณเคยมีประสบการณ์กับการที่พระเจ้าทรงสดับคำอธิษฐานด้วยน้ำตาของคุณและตอบคำทูลขอนั้นบ้างหรือไม่? อย่างไร?
- คุณเคยได้รับการรักษาหรือการยืดชีวิตจากพระเจ้าบ้างหรือไม่? อย่างไร?
…..1) โดยตรงจากพระเจ้า ที่ไม่ผ่านใคร?
…..2) โดยอ้อมจากพระเจ้า โดยผ่านมือหมอหรือยา?
- คุณเคยทูลขอหมายสำคัญอะไรจากพระเจ้าบ้าง? ในเรื่องอะไร? แล้วพระเจ้าตอบหรือไม่? อย่างไร?
- คุณเคยโอ้อวดในสิ่งใดบ้าง ที่นำความทุกข์ยากลำบากมาสู่คุณหรือลูกหลานของคุณและอย่างไร? คุณรู้สึกอย่างไร?
- คุณเคยทำอะไรที่เข้าข่ายสะเพร่า ประมาท หรือหลงตนจนนำความเสียหายมาสู่คุณอย่างใหญ่หลวงบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร?
- คุณเคยเสียใจหรือสำนึกผิดกับสิ่งที่คุณทำความเดือดร้อนให้แก่คนรอบตัวของคุณอย่างจริงใจหรือไม่? ในเรื่องอะไร? และคุณทำอะไรบ้าง?
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์