สิ่งหนึ่งที่เราไม่ชอบเลย แต่ก็มักจะเจอ ก็คือ… ความขัดแย้ง!
ความขัดแย้งเป็นสิ่งที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ไม่ว่าจะพยายามหลบหลีกมาตลอด
บางทีตัวเราเองเป็นต้นเหตุ บางทีก็คนอื่นเป็นต้นเหตุ
บางที ทั้งเราและเขานั่นแหละมีส่วนร่วมกันเป็นต้นเหตุ
ดังนั้น การที่จะอยู่ในโลกนี้ ในสังคมนี้ หรือแม้แต่ในโบสถ์นี้ โดยที่คาดหวังหรือเรียกร้องขอไม่ให้มีความขัดหรือความแย้งใด ๆ เกิดขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียวคงเป็นความฝันที่ไม่มีทางเป็นไปได้ !
บางทีความขัดแย้งนั้นอาจเกิดขึ้นอยู่ในสมอง หรืออยู่ในใจ ถ้ายังไม่มีการกระทบกระทั่ง หรือการระบายออก ก็ยังดูเหมือนว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ ทุกอย่างดูปกติดี แต่เมื่อใดก็ตามที่มันหลุดรอดหรือหลั่งไหลออกมาจากปากของเรา เมื่อนั้นอาจมีอาการช็อคเกิดขึ้นได้!
อย่างไรก็ตาม เราคงไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบในการจัดการแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในท่ามกลางพวกเราได้ แต่คำถามคือ แล้วเราควรจะจัดการอย่างไรจึงจะก่อเกิดผลดีที่สุด หรือผลเสียหายน้อยที่สุด?
ปกติมีหลากหลายวิธีที่คนเราใช้ เวลาเกิดความขัดแย้ง อาทิ
-เอาชนะกันให้ได้ –พังเป็นพัง
-ยอมให้กัน –เสียเท่าไรก็เสียไปไม่อยากปะทะ
-แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ – ไม่มอง ไม่ฟังและไม่พูดถึงคล้ายปัดขยะไว้ใต้พรม
-โวยวายหาแพะ –ต้องการคนมารับผิดให้ได้ดังใจ
-หนีไปให้ไกล – ไม่ยอมอยู่ในสภาวะที่กดดัน จึงหาช่องทางหนีไปให้พ้น
-ประนีประนอมพบกันครึ่งทาง – แม้ไม่ได้ทุกอย่างแต่ก็ไม่อยากเสียทุกอย่างเช่นกัน ฯลฯ
แล้วพระเจ้าทรงประสงค์ให้เราแก้ไขความขัดแย้งที่มีอยู่อย่างไร
- ให้เรารักคนที่ขัดแย้งกับเราด้วยความรักที่มาจากพระเจ้า – อธิษฐานเผื่อเขาและอวยพรเขา
- ให้เราแสดงความรักนั้นออกมาต่อคู่กรณีของเราอย่างจริงใจ –ให้อภัยแก่เขาหรือให้โอกาสแก่เขา
- . ให้เราพยายามเข้าใจเขาและช่วยให้เข้าใจซึ่งกันและกัน โดยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกันเสมอ ไปในทุกเรื่อง
- ให้เราทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกันอย่างจริงใจและเปิดใจเพื่อสรุปประเด็นของปัญหาที่เข้าใจตรงกัน
- ให้เราต่างหนุนใจกัน ให้ร่วมมือกันแก้ปัญหานั้นตามวิถีทางของพระเจ้า – โดยถือว่า “คนที่ เป็นคู่กรณี” มีความสำคัญมากกว่า “ปัญหาที่ต้องแก้ไข”
- ให้เราตกลงในแนวทางและขั้นตอนในการแก้ไขปัญหานั้นด้วยกันตามหลักการของพระคัมภีร์
- ให้เราต่างร่วมมือกันปฏิบัติตามแนวทางที่ตกลงกัน โดยยึดความรักและความจริงเป็นพื้นฐาน ด้วยความหวังใจว่า ทุกอย่างจะดีขึ้น
- ให้เราต่างถ่อมใจเข้าหากัน สารภาพบาปของแต่ละฝ่ายทั้งต่อพระเจ้าและต่อกัน ให้เรา อธิษฐานเผื่อกันและอธิษฐานร่วมกันและขอพระเจ้าทรงนำในการแก้ไขปัญหานี้ให้สำเร็จตามพระประสงค์และในเวลาของพระองค์
- ให้เราอดทน อดกลั้น ไม่เร่งรัด ไม่เร่งรีบ ไม่กล่าวหา ไม่ตำหนิ ไม่ตัดสิน และไม่ซ้ำเติมไม่ทำ สิ่งใดที่จะยั่วยุกันและกันให้เกิดปัญหาเพิ่มซ้ำเข้าไปอีก
- ให้เราติดตามความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาและให้กำลังใจกันและกันอยู่เสมอจนกว่าจะเกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในระหว่างกัน และเกิดการกลับมาคืนดีและรัก กันดังเดิม อันเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้าและเกิดผลดีแก่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง
แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา จะสลายกลายเป็นศูนย์ไปในทันที หากว่าคู่กรณี ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย ไม่ยอมถ่อมใจลงจำเพาะพระเจ้าและต่อหน้ากันและกัน เพื่อขอร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนั้นด้วยกันอย่างจริงใจ และด้วยใจยำเกรงพระเจ้า!
หวังว่า คน ๆ นั้นไม่ใช่คุณก็แล้วกัน!
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์–
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer,