ประกาศ – ชั้นเรียนพระคัมภีร์วันพฤหัสฯที่ 29 พฤษภาคม ขอปรับเวลาดังนี้
06.45-07.15 นมัสการ และอธิษฐาน
07.15-08.15 ชั้นเรียนพระคัมภีร์ 2พงศ์กษัตริย์ บทที่ 25
ผู้นำซึ่งไร้จุดยืน!
พระธรรม 2พงศ์กษัตริย์ 16:1-20
อ้างอิง 2พศด.28:1-27;4:1;ฉธบ.12:31;อสย.7:1;อพย.27:1-2
บทนำ คนบางคนเป็นผู้นำ แต่เพื่อความอยู่รอดสามารถกระทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตนอยู่ในตำแหน่งต่อไป โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของส่วนรวมหรือแม้แต่เกียรติและศักดิ์ศรี ยอมขายหรือสละได้หมดทุกอย่าง แม้แต่ความเชื่อศรัทธาในองค์พระผู้เป็นเจ้า คุณเองล่ะ เป็นคนเช่นนั้นหรือไม่?
บทเรียน
16:1 “ในปีที่ 17 แห่งรัชกาลเปคาห์บุตรเรมาลิยาห์ อาหัสพระราชโอรสของโยธามพระราชาแห่งยูดาห์ได้ขึ้นครอง ราชย์”
(In the seventeenth year of Pekah the son of Remaliah, Ahaz the son of Jotham, king of Judah, began to reign.)
16:2 “เมื่ออาหัสทรงเป็นกษัตริย์นั้น มีพระชนมายุ 20 พรรษา และพระองค์ทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 16 ปี และพระองค์ไม่ทรงทำสิ่งที่ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระยา ห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ ไม่เหมือนอย่างดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์”
(Ahaz was twenty years old when he began to reign, and he reigned sixteen years in Jerusalem. And he did not do what was right in the eyes of the Lord his God, as his father David had done,)
16:3 “แต่ทรงดำเนินตามทางของพระราชาแห่งอิสราเอล ถึงกับทรงให้พระราชโอรสของพระองค์ลุยไฟ ตามการกระทำอันน่าเกลียดน่าชังของประชาชาติทั้งหลาย ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงขับไล่ไปให้พ้นหน้าคนอิสราเอล”
(but he walked in the way of the kings of Israel. He even burned his son as an offering, according to the despicable practices of the nations whom the Lord drove out before the people of Israel.)
16:4 “อาหัสทรงถวายสัตวบูชา และเผาเครื่องหอมที่ปูชนียสถานสูง และบนเนินเขารวมทั้งใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น”
(And he sacrificed and made offerings on the high places and on the hills and under every green tree.)
16:5 “แล้วเรซีน พระราชาแห่งซีเรียกับเปคาห์บุตรเรมาลิยาห์ พระราชาแห่งอิสราเอลทรงยกขึ้นมาทำสงครามกับ กรุงเยรูซา เล็ม และได้ล้อมอาหัสไว้แต่ไม่ทรงสามารถเอาชัยชนะได้”
(Then Rezin king of Syria and Pekah the son of Remaliah, king of Israel, came up to wage war on Jerusalem, and they besieged Ahaz but could not conquer him. )
16:6 “เวลานั้นเรซีนพระราชาแห่งซีเรียตีเมืองเอลัทคืนให้ซีเรีย และทรงขับไล่ประชาชนยูดาห์ออกจากเอลัท แล้วคนซีเรียมาที่เอลัทและอยู่ที่นั่นจนทุกวันนี้”
(At that time Rezin the king of Syria recovered Elath for Syria and drove the men of Judah from Elath, and the Edomites came to Elath, where they dwell to this day.)
16:7 “อาหัสจึงทรงส่งคณะทูตไปเฝ้าทิกลัทปิเลเสอร์พระราชาแห่ง อัสซีเรีย ให้กราบทูลว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนรับใช้ ของท่าน และเป็นบุตรของท่าน ขอเสด็จขึ้นมาช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากมือของพระราชาแห่ง ซีเรีย และจากมือของพระราชาแห่งอิสราเอล ผู้ลุกขึ้นต่อสู้ข้าพเจ้า”
(So Ahaz sent messengers to Tiglath-pileser king of Assyria, saying, “I am your servant and your son. Come up and rescue me from the hand of the king of Syria and from the hand of the king of Israel, who are attacking me.” )
16:8 “อาหัสทรงนำเงินและทองคำซึ่งพบในพระนิเวศแห่งพระยาห์เวห์ และในคลังสำนักพระราชวัง และส่งไปเป็นเครื่องบรรณาการแก่พระราชาแห่งอัสซีเรีย”
(Ahaz also took the silver and gold that was found in the house of the Lord and in the treasures of the king’s house and sent a present to the king of Assyria. )
16:9 “พระราชา แห่งอัสซีเรียก็ทรงฟังอาหัส พระราชาแห่งอัสซีเรียก็ทรงยกทัพขึ้นไปยังกรุงดามัสกัสและ ยึดได้ ทั้งกวาดต้อนประชาชนเมืองนั้นไปเป็นเชลยยังเมืองคีร์ และทรงประหารเรซีนเสีย”
(And the king of Assyria listened to him. The king of Assyria marched up against Damascus and took it, carrying its people captive to Kir, and he killed Rezin.)
16:10 “เมื่อกษัตริย์อาหัสเสด็จไปกรุงดามัสกัสเพื่อพบทิกลัทปิเลเสอร์ กษัตริย์แห่งอัสซีเรีย พระองค์ทรงเห็นแท่นบูชาที่อยู่ในดามัสกัส และกษัตริย์อาหัสทรงส่งแบบจำลองแท่นบูชาไปยังอุรียาห์ ปุโรหิต พร้อมทั้งแบบ แปลนของแท่นนั้นตามลักษณะการสร้างอย่างละเอียด”
(When King Ahaz went to Damascus to meet Tiglath-pileser king of Assyria, he saw the altar that was at Damascus. And King Ahaz sent to Uriah the priest a model of the altar, and its pattern, exact in all its details.)
16:11 “แล้วอุรียาห์ปุโรหิตก็สร้างแท่นบูชานั้น ตามแบบทุกอย่างที่กษัตริย์อาหัสได้ส่งมาจากดามัสกัส ดังนั้นอุรียาห์ ปุโรหิตจึงทำแท่นบูชาขึ้นก่อนที่กษัตริย์ อาหัสเสด็จกลับมาจากดามัสกัส”
(And Uriah the priest built the altar; in accordance with all that King Ahaz had sent from Damascus, so Uriah the priest made it, before King Ahaz arrived from Damascus.)
16:12 “และเมื่อพระราชาเสด็จกลับจากดามัสกัส พระราชาทรงเห็นแท่นบูชา แล้วพระราชาทรงเข้ามาใกล้แท่นบูชา และถวายเครื่องบูชาบนแท่นนั้น”
(And when the king came from Damascus, the king viewed the altar. Then the king drew near to the altar and went up on it )
16:13 “และทรงเผาเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และธัญบูชาและทรงเทเครื่องดื่มบูชา และทรงพรมเลือดแห่งเครื่องศานติ บูชาของพระองค์ลงบนแท่นนั้น”
(and burned his burnt offering and his grain offering and poured his drink offering and threw the blood of his peace offerings on the altar.)
16:14 “และพระองค์ทรงย้ายแท่นบูชาทองสัมฤทธิ์ ซึ่งอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ออกเสียจากข้างหน้าพระนิเวศ บริเวณระหว่างแท่นบูชาใหม่กับพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และตั้งไว้ทางด้านเหนือของแท่นบูชานั้น”
(And the bronze altar that was before the Lord he removed from the front of the house, from the place between his altar and the house of the Lord, and put it on the north side of his altar.)
16:15 “และกษัตริย์อาหัสทรงบัญชาอุรียาห์ปุโรหิตว่า “บนแท่นใหญ่นี้ ท่านจงเผาเครื่องบูชาเผาทั้งตัวตอนเช้า และ ธัญบูชาตอนเย็น และเครื่องบูชาเผาทั้งตัวของพระราชา และเครื่องธัญบูชาของพระองค์ พร้อมกับเครื่องบูชาเผาทั้งตัวของประชาชนทั้งหมดในแผ่นดิน รวมทั้งธัญบูชา และเครื่องดื่มบูชาของเขาทั้งหลาย และจงพรมเลือดทั้งหมดของเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและของเครื่อง สัตวบูชาบนแท่นนั้น แต่แท่นบูชาทองสัมฤทธิ์ให้เป็นที่ที่เราจะทูลถามพระเจ้า”
(And King Ahaz commanded Uriah the priest, saying, “On the great altar burn the morning burnt offering and the evening grain offering and the king’s burnt offering and his grain offering, with the burnt offering of all the people of the land, and their grain offering and their drink offering. And throw on it all the blood of the burnt offering and all the blood of the sacrifice, but the bronze altar shall be for me to inquire by.” )
16:16 “อุรียาห์ปุโรหิตทำทุกอย่างตามพระบัญชาของกษัตริย์อาหัส”
(Uriah the priest did all this, as King Ahaz commanded.)
16:17 “และกษัตริย์อาหัสทรงตัดแผงแท่นนั้นออก และทรงยกขันออกไปจากแท่นเสีย และพระองค์ทรงเอาอ่างสาครลงมาจากวัวทองสัมฤทธิ์ที่รองอยู่นั้น ทรงวางไว้บนพื้นหิน”
(And King Ahaz cut off the frames of the stands and removed the basin from them, and he took
down the sea from off the bronze oxen that were under it and put it on a stone pedestal. )
16:18 “ส่วนศาลาวันสะบาโตซึ่งพวกเขาสร้างไว้ในพระนิเวศ และทางเข้าชั้นนอกสำหรับพระราชานั้น พระองค์ทรงย้ายจากพระนิเวศของพระยาห์เวห์ เพราะเห็นแก่พระราชาแห่งอัสซีเรีย”
(And the covered way for the Sabbath that had been built inside the house and the outer entrance for the king he caused to go around the house of the Lord, because of the king of Assyria.)
16:19 “ส่วนพระราชกิจอื่นๆ ของอาหัสที่ทรงกระทำ ได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารกษัตริย์แห่งยูดาห์ไม่ใช่หรือ?”
(Now the rest of the acts of Ahaz that he did, are they not written in the Book of the Chronicles of the Kings of Judah? )
16:20 “และอาหัสทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ และทรงถูกฝังไว้กับบรรพบุรุษในนครดาวิด และเฮเซคียาห์ พระราชโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แทน”
(And Ahaz slept with his fathers and was buried with his fathers in the city of David, and Hezekiah his son reigned in his place.)
ข้อมูลมีประโยชน์
16:1 “ในปีที่ 17 แห่งรัชกาลเปคาห์” (In the seventeenth year of Pekah) = ปี 735 ก.ค.ศ. –(15:27)
“อาหัสพระราชโอรสของโยธาม” (Ahaz the son of Jotham) –รัชกาลของอาหัสซ้อนทับกับโยธาม (ราชบิดา) โดยอาหัสเริ่มเป็นผู้นำในตอนต้นปี 735 ก.ค.ศ. (15:33,37;17:1)
-ในปี 1996 มีการค้นพบตราประทับบนดินเหนียวสลักว่า “เป็นของอาหัสบุตรของโยธามกษัตริย์แห่ง ยูดาห์” เขียนเป็นภาษาฮีบรูโบราณในยุคที่มี 2 อาณาจักร และเป็นตราประทับดั้งเดิมชิ้นแรกที่เชื่อมโยงได้กับกษัตริย์ยูดาห์
16:2 “มีพระชนมายุ 20 พรรษา” (was twenty years old ) = อาจเป็นอายุของอาหัสในตอนขึ้นเป็นผู้นำในการสำเร็จราชการร่วมกับโยธาม บิดาของเขาในปี 735 ก.ค.ศ.
“16 ปี”(sixteen years)=ช่วงเวลาที่อาหัสครองราชย์หลังจากโยธามเสียชีวิต(732-715 ก.ค.ศ.) – 15:30,33
“ไม่ทรงทำสิ่งที่ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์” (did not do what was right in the eyes of the Lord his God) –1พกษ.14:8
= อาหัสไม่ได้รับคำชมเชยแม้แต่นิดเหมือนอย่างที่อามาซิยาห์ (14:3), อาซาริยาห์ (15:3) และโยธาม (15:34) ก่อนหน้านี้เคยได้รับ
16:3 “ดำเนินตามทางของพระราชาแห่งอิสราเอล” (he walked in the way of the kings of Israel) = นมัสการพระบาอัลตามอย่างอาหับ (1พกษ.16:31-33;2พศด.28:2)
“ทรงให้พระราชโอรสของพระองค์ลุยไฟ” (He even burned his son as an offering) = นำโอรสมาบูชายัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่โมเสสเคยห้ามไว้ก่อนแล้ว (ลนต.18:21;ฉธบ.18:10)
แต่ทุกครอบครัวในอิสาเอลต้องถวายบุตรหัวปีให้แก่พระเจ้าและไถ่คืนด้วยการชำระเงิน 5 เชเขลให้กับปุโรหิต (อพย.13:1,11-13;กดว.18:16; ปท.3:27;17:17;21:6;23:10;2พศด.28:3;ยรม.7:31;32:35
16:4 “ปูชนียสถานสูง” (the high places) -15:4,30;1พกษ.15:14
= สถานที่บูชาบนที่สูงเหล่านี้มาจากการนมัสการพระบาอัลของคนต่างชาติ และถูกใช้เป็นที่นมัสการ พระบาอัลและพระเจ้าด้วย
“ใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น” (under every green tree) = คนในคานาอันก่อนชาวอิสราเอล มองดูต้นไม้ใหญ่เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์เป็นเทวสถาน แม้โมเสสจะห้าม (17:10;1พกษ.14:23; ฉธบ.12:2;ยรม.2:20;3:6;17:2;อสค.6:13;20:28;ฮชย.4:13-14)
16:5 “เรซีน พระราชาแห่งซีเรีย” ( Then Rezin king of Syria) 2พกษ.15:37
“ไม่ทรงสามารถเอาชัยชนะได้” (could not conquer him) –เรซีน แห่งซีเรียและเปคาห์แห่งอิสราเอลยกทัพมารบกับยูดาห์ แต่เอาชนะไม่ได้ –2พศด.28:5-21;อสย.7:1-17
= ต้องการบีบยูดาห์ให้ร่วมเป็นพันธมิตรในการสู้รบกับอัสซีเรีย แต่พระเจ้าทรงช่วยกอบกู้ยูดาห์แม้ว่าอาหัสจะยังทำสิ่งที่ชั่วร้ายเพราะเห็นแก่พันธสัญญาที่มีต่อดาวิด (1พกษ.11:36;2ซมอ.7:13;อสย.7:3-7,14)
16:6 “ตีเมืองเอลัทคืนให้ซีเรีย” (recovered Elath for Syria) –อาซาริยาห์เป็นผู้บูรณะเมืองเอลัท และยึดคืนมาเป็นของยูดาห์ (14:22) หลังจากอามาซิยาห์(บิดา) ได้ตั้งต้นไว้ในการยึดครองเอโดม (14:7) แต่เวลานี้ซีเรียยึดคืน
“คนซีเรียมาที่เอลัท และอยู่ที่นั่นจนทุกวันนี้” (the Edomites came to Elath, where they dwell to this day.) –2พศด.28:17 –ในบางฉบับบอกว่าเป็นชาวเอโดม (ฟิลิสเตีย) ฉวยโอกาสแก้แค้นและเข้าไปอยู่ในเอลัท (2พศด.26:5-7;28:18)
16:7 “ทิกัลปิเลเสอร์ พระราชาแห่งอัสซีเรีย” (Tiglath-pileser king of Assyria) -15:19,29
“ข้าพเจ้าเป็นคนรับใช้ของท่าน” (I am your servant) = อาหัสเลือกจะทำให้ยูดาห์อยู่รอดโดยทำ สนธิสัญญากับอัสซีเรีย แทนที่จะเชื่อฟังและพึ่งวางใจในพระเจ้า และพระสัญญาของพระองค์ (อพย.23:22;อสย.7:10-16)
16:8 “นำเงินและทองคำซึ่งพบในพระนิเวศแห่งพระยาห์เวห์” (the silver and gold that was found in the house of the Lord ) = สมบัติในพระวิหารน่าจะมีเพิ่มขึ้นจากเดิมระดับหนึ่งโดยโยธาม (12:18;14:14)
-ในบันทึกของทิกลัทปิเลเสอร์ มีรายนามของบรรดาผู้นำ(รวมทั้ง จากฟิลิสเตีย, อัมโมน, โมอับ และเอโดม) มีชื่อ “เยโฮอาหาสแห่งยูดาห์” หรือ อาหัส อยู่ด้วย ซึ่งนำเครื่องบรรณาการมาถวายให้ในปี 734 ก.ค.ศ.
16:9 “ยกทัพขึ้นไปยังกรุงดามัสกัสและยึดได้” (marched up against Damascus and took it) –ทิกลัทปิเลเสอร์ที่ 3 ได้ยกทัพโจมตีและทำลายดามัสกัสในปี 732 ก.ค.ศ.
-ดูคำพยากรณ์ใน อสย.7:16;อมส.1:3-5
“กวาดต้อนประชาชนเมืองนั้นไปเป็นเชลยยังเมืองคีร์” (carrying its people captive to Kir)
=ชาวซีเรีย(อารัม)ถูกส่งกลับไปยังที่ๆ พวกเขาจากมา(อมส.9:7)เป็นไปตามคำพยากรณ์ของอาโมส(อมส.1:5)
16:10 “…กษัตริย์อาหัสเสด็จไปกรุงดามัสกัสเพื่อพบทิกลัทปีเลเสอร์กษัตริย์แห่งอัสซีเรีย” (King Ahaz went to Damascus to meet Tiglath-pileser king of Assyria)
= เขาไปในฐานะกษัตริย์เมืองขึ้น เพื่อแสดงความขอบคุณและความจงรักภักดีต่อกษัตริย์อัสซีเรียที่ปราบซีเรียให้
“แท่นบูชาที่อยู่ในดามัสกัส” (the altar that was at Damascus)= อาจเป็นของเทพเจ้าริมโมน (5:15;2พศด.28:23) และอาจเป็นแท่นบูชาหลวงของทิกลัทปีเลเสอร์
16:13 “เครื่องบูชาเผาทั้งตัวและธัญบูชา…เครื่องดื่มบูชา …เครื่องศานติบูชา” (burned his burnt offering and his grain offering… drink offering … peace offerings on the altar)
= เครื่องบูชาทั้งหมดนี้เป็นเครื่องบูชาที่ใช้ในการถวายพระวิหาร ยกเว้นเครื่องดื่มบูชา (1พกษ.8:64)
16:14 “ด้านเหนือของแท่นบูชานั้น”( the north side of his altar) = อาหัสย้ายแท่นบูชาทองสัมฤทธิ์จากตำแหน่งที่มีเกียรติหน้าพระวิหารไปวางข้างแท่นบูชาหินแท่นใหม่
16:15 “บนแท่นใหญ่นี้” (On the great altar ) = บนแท่นบูชาใหม่
-แม้ว่าพระเจ้าจะส่งไฟจากสวรรค์ลงมาชำระแท่นบูชาทองสัมฤทธิ์ เพื่อการนมัสการพระองค์ในคราวซาโลมอนมอบถวายพระวิหารแล้วก็ตาม (2พศด.7:1) แต่ตอนนี้ อาหัสได้แทนที่แท่นบูชาเดิม ด้วยแท่นบูชาที่สร้างตามแบบอย่างของชาวต่างชาติจากดามัสกัส
-แม้ว่าแท่นบูชาทองสัมฤทธิ์เดิมจะมีขนาดใหญ่ (2พศด.4:1) แต่แท่นใหม่นี้ใหญ่กว่าอีก
“เครื่องบูชาเผาทั้งตัวตอนเช้า” ( the morning burnt offering) -3:20;อพย.29:38-39;กดว.28:3-4
“ธัญบูชาตอนเย็น” (the evening grain offering) –1พกษ.18:27
“เครื่องบูชาเผาทั้งตัวของพระราชา และเครื่องธัญบูชาของพระองค์” ( the king’s burnt offering and his grain offering) = ไม่มีการอ้างอิงถึงการถวายบูชาพิเศษของกษัตริย์ในที่อื่นๆ ในพระคัมภีร์เดิม
(โดยอาจมีข้อยกเว้นในภาพการถวายเครื่องบูชาของเจ้านายในอนาคตที่เอเสเคียล บรรยายไว้–อสค.46:12)
“ให้เป็นที่ที่เราจะทูลถามพระเจ้า” (shall be for me to inquire by) = หาลางบอกเหตุ โดยดูจากเครื่องในสัตว์ที่ถูกเผาถวายบูชาเป็นวิธีปฏิบัติที่พบกันทั่วไปในงานเขียนแถบตะวันออกใกล้
-ในที่นี้อาหัสบ่งบอกเจตนาที่จะใช้วิธีการทำนายโชคชะตาแบบชาวอัสซีเรียเพื่อขอคำแนะนำจากพระเจ้า
16:17 “ทรงตัดแผงแท่นนั้นออก และทรงยกขันออกไปจากแท่นเสีย” ( King Ahaz cut off the frames of the stands and removed the basin from them) = ย้ายแผงด้านข้างของแท่น เคลื่อนที่ทองสัมฤทธิ์และ
ย้ายขันบรรจุน้ำออกไป –1พกษ.7:27-39
“เอาอ่างสาครลงมาจากวัวทองสัมฤทธิ์ที่รองอยู่นั้น” (took down the sea from off the bronze oxen that were under it) –1พกษ.7:23-26
–อาจเป็นเพราะต้องนำทองสัมฤทธิ์ไปเป็นเครื่องบรรณาการสำหรับทิกลัทปิเลเสอร์ที่ 3
16:18 “ทางเข้าชั้นนอกสำหรับพระราชานั้นพระองค์ทรงย้าย…เพราะเห็นแก่พระราชาแห่งอัสซีเรีย”
( the outer entrance for the king he caused to go around the house of the Lord, because of the king of Assyria)= เพื่อเอาใจกษัตริย์อัสซีเรียในฐานะเมืองขึ้น อาหัสอาจถูกบังคับหรือบีบให้ต้องสละสัญลักษณ์บางอย่างที่แสดงอำนาจของกษัตริย์
16:19 “ส่วนพระราชกิจอื่น ๆ ของอาหัสที่ทรงกระทำ” (rest of the acts of Ahaz that he did) –2พศด.28 รวมทั้งที่อาหัสปิดประตูพระวิหาร (2พศด.28:24)
16:20 “ทรงล่วงหลับไป” ( Ahaz slept) –1พกษ.1:21;2พศด.28:27
“เฮเซคียาห์พระราชโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แทน” (Hezekiah his son reigned in his place) 2พกษ.18:1-20:21
คำถามนำอภิปราย
- คุณเคยเห็นคนที่ดำรงตำแหน่งผู้นำ(ผู้ปกครอง/หัวหน้า) แต่ไม่ได้ทำสิ่งที่ถูกต้องคู่ควรกับตำแหน่งบ้างหรือไม่? เขาคือใคร? และทำอะไรยาวนานแค่ไหน?
- สิ่งที่บุคคลคนนั้นกระทำได้ส่งผลกระทบอะไรต่อส่วนรวม(ประเทศชาติ/องค์กร) บ้าง? และอย่างไร?
- คุณเคยวิตกกังวลหรือหวาดกลัวกับภัยคุกคามบางอย่างจนต้องยอมสวามิภักดิ์ต่อผู้ใดบ้างหรือไม่? ทำไมจึงเลือกกระทำเช่นนั้น? (หรือคุณเคยเห็นผู้ใดกระทำเช่นนั้น?)
- คุณเคยเลือกข้างบ้างหรือไม่? คุณเลือกใคร? และทำไมคุณจึงเลือกเช่นนั้น? ผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร? (คุณคิดว่าคุณเลือกถูกข้างหรือไม่? ) ทำไม?
- คุณเคยลอกเลียนแบบผู้ใดบ้าง? ในเรื่องอะไร? และทำไมคุณจึงทำเช่นนั้น? และส่งผลดีผลเสียอย่างไรต่อการกระทำเช่นนั้น ?
- คุณเคยกระทำสิ่งใดที่แสดงออกถึงการไม่ให้เกียรติพระเจ้าและขาดความเชื่อศรัทธาในพระเจ้ามากที่สุด? ผลที่ตามเป็นอย่างไร?
- คุณเคยเอาใจผู้ใดจนออกหน้าบ้างหรือไม่? กับใคร? ในเรื่องอะไร? หรือคุณเห็นใครบางคนทำเช่นนั้นบ้าง? แล้วคุณรู้สึกอย่างไร?
- คุณเคยกระทำทุกสิ่งเพื่อความอยู่รอด รวมทั้งการละทิ้งพระเจ้าบ้างหรือไม่? (แบ่งปัน) แล้วผลที่ตามมาคืออะไร?
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์