Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

2 พงศ์กษัตริย์ (บทเรียนที่ 15)

สารพัดกษัตริย์

พระธรรม        2พงศ์กษัตริย์ 15:1-38

อ้างอิง           1พกษ.4:24;13:32;14:8;15:20-31;2พกษ.8:12;10:39;12:18-20,5-7;14:21;15:1-5,32,16:7;17:1-6; 1พศด.5:6,26;2พศด.27:1;28:6,20

บทนำ           กษัตริย์หรือผู้ปกครองประเทศมีทั้งดี และไม่ดี ผู้ใดทำหน้าที่ได้ดีตามพระประสงค์ของพระเจ้า พระองค์ก็ทรงอวยพร  ผู้ใดกระทำสิ่งเลวร้ายก็จะได้รับคำสาปแช่งเป็นการตอบสนอง ซึ่งจะส่งผลกระทบในทางเลวร้ายต่อทุกคนในครอบครัวด้วย ดังนั้นไม่ว่าเราจะทำหน้าที่อะไรขอให้เรากระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระเจ้าเสมอไป !

บทเรียน

15:1 “ใน​ปี​ที่ 27 แห่ง​รัชกาล​เยโรโบอัม พระราชา​แห่ง​อิสราเอล อาซาริยาห์​พระราชโอรส​ของ​อามาซิยาห์ พระราชา​แห่ง​ยูดาห์​ได้​ ขึ้น​ครองราชย์”

        (In the twenty-seventh year of Jeroboam king of Israel, Azariah the son of Amaziah, king of Judah, began  to reign. )

15:2 “เมื่อ​พระองค์​ทรง​เป็น​กษัตริย์​นั้น​มี​พระชนมายุ 16 พรรษา และ​พระองค์​ทรง​ครองราชย์​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม 52 ปี พระราช มารดา​ของ​พระองค์​มี​พระนาม​ว่า เยโคลียาห์​ชาว​เยรูซาเล็ม”

              (He was sixteen years old when he began to reign, and he reigned fifty-two years in Jerusalem. His  mother’s name was Jecoliah of Jerusalem. )

15:3 “พระองค์​ทรง​ทำ​สิ่ง​ชอบ​ธรรม​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์ เหมือน​ทุก​อย่าง​ที่​อามาซิยาห์​พระราชบิดา​ของ​พระองค์​ทรง​กระทำ”

      (And he did what was right in the eyes of the Lord, according to all that his father Amaziah had   done.)

15:4 “เว้นแต่​ปูชนียสถาน​สูง​ยัง​ไม่​ถูก​กำจัด​เสีย ประชาชน​ยัง​ถวาย​สัตวบูชา​และ​เผา​เครื่อง​หอม​บน​ปูชนียสถาน​สูง​เหล่า​นั้น”

             (Nevertheless, the high places were not taken away. The people still sacrificed and made  offerings on the  high places.)

15:5 “และ​พระยาห์เวห์​ทรง​ลงโทษ​พระราชา พระองค์​ก็​ทรง​เป็น​โรคเรื้อน​จน​ถึง​วัน​สิ้นพระชนม์ และ​พระองค์​ประทับ​ใน​วัง​ต่างหาก  และ​โยธาม​พระราชโอรส​ของ​พระราชา​ทรง​ดู​แล​ควบคุม​สำนัก​ พระราชวัง และ​ทรง​ปกครอง​ประชาชน​ของ​แผ่นดิน”

   (And the Lord touched the king, so that he was a leper to the day of his death, and he lived in a separate  house. And Jotham the king’s son was over the household, governing the people of the land. )

15:6 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​อาซาริยาห์​และ​ทุก​สิ่ง​ที่​ทรง​กระทำ ได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​ยูดาห์​ไม่​ใช่​ หรือ?”

       (Now the rest of the acts of Azariah, and all that he did, are they not written in the Book of the  Chronicles of the Kings of Judah? )

15:7 “และ​อาซาริยาห์​ทรง​ล่วงหลับ​ไป​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ และ​พวกเขา​ก็​ฝัง​พระศพ​ไว้​กับ​บรรพบุรุษใน​นคร​ดาวิด และ​โยธาม​  พระราชโอรส​ของ​พระองค์​ได้​ขึ้น​ครอง​ราชย์​แทน”

            (And Azariah slept with his fathers, and they buried him with his fathers in the city of David, and Jotham his  son reigned in his place.)

15:8 “ใน​ปี​ที่ 38 แห่ง​รัชกาล​อาซาริยาห์​พระราชา​แห่ง​ยูดาห์ เศคาริยาห์​พระราชโอรส​ของ​เยโรโบอัม​ทรง​ครอง​อิสราเอล​ใน​กรุง​ สะมาเรีย 6 เดือน”

       (In the thirty-eighth year of Azariah king of Judah, Zechariah the son of Jeroboam reigned over Israel in Samaria six months. )

15:9 “และ​ทรง​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​ใน​สาย​พระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์ ดังที่​บรรพบุรุษ​ของ​พระองค์​ทรง​กระทำ พระองค์​ไม่ได้​ทรง​หัน​จาก​บาป​ทั้งหลาย​ของ​เยโรโบอัม​บุตร​เนบัท ผู้​ได้​นำ​อิสราเอล​ให้​ทำ​บาป​ด้วย”

   (And he did what was evil in the sight of the Lord, as his fathers had done. He did not depart from the  sins of Jeroboam the son of Nebat, which he made Israel to sin. )

15:10 “ชัลลูม ​บุตร​ยาเบช​ก่อ​การ​กบฏ​ต่อ​พระองค์ โค่น​พระองค์​ลง​ต่อ​หน้า​ประชาชน​และ​ประหาร​พระองค์​เสีย และ​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​แทน”

(Shallum the son of Jabesh conspired against him and struck him down at Ibleam and put him to death and reigned in his place. )

15:11 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​เศคาริยาห์ นี่แน่ะ ได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล”

   (Now the rest of the deeds of Zechariah, behold, they are written in the Book of the Chronicles of the  Kings of Israel. )

15:12 “(เหตุ​การณ์​นี้​เป็น​ไป​ตาม​พระวจนะ​ที่​พระยาห์เวห์​ตรัส​แก่​เยฮู​ว่า “เชื้อสาย​ของ​เจ้า​จะ​นั่ง​บน​บัลลังก์​ของ​อิสราเอล​ถึง​สี่​ชั่ว​อายุ​คน” และ​ก็​เป็น​ดังนั้น)”

 (This was the promise of the Lord that he gave to Jehu, “Your sons shall sit on the throne of Israel to the  fourth generation.” And so it came to pass.))

15:13 “ชัลลูม​บุตร​ยาเบช​ได้​ขึ้น​ครอง​ราชย์​ใน​ปี​ที่ 39 แห่ง​รัชกาล​อุสซียาห์​พระราชา​แห่ง​ยูดาห์ และ​พระองค์​ทรง​ครอง​ราชย์​ใน สะมาเรีย​หนึ่ง​เดือน”

(Shallum the son of Jabesh began to reign in the thirty-ninth year of Uzziah king of Judah, and he reigned one month in Samaria. )

15:14 “แล้ว​เมนาเฮม​บุตร​กา​ดี​ได้​ขึ้น​มา​จาก​เมือง​ทีรซาห์​ไป​ยัง​กรุง​ สะมาเรีย ท่าน​ได้​โค่น​ล้ม​ชัลลูม​บุตร​ยาเบช​ใน​สะมาเรีย และ​ ประหาร​พระองค์​เสีย และ​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​แทน”

(Then Menahem the son of Gadi came up from Tirzah and came to Samaria, and he struck down  Shallum the son of Jabesh in Samaria and put him to death and reigned in his place. )

15:15 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​ชัลลูม และ​การ​กบฏ​ที่​พระองค์​ทรง​ทำ นี่แน่ะ ได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล”

   (Now the rest of the deeds of Shallum, and the conspiracy that he made, behold, they are  written in the   Book of the Chronicles of the Kings of Israel. )

15:16 “ใน​เวลา​นั้น เมนาเฮม​โจม​ตี​ทิฟสาห์ และ​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใน​เมือง​นั้น​และ​ชาย​แดน​ของ​เมือง​นั้น​ตั้งแต่​ทีรซาห์​ไป เพราะ​เขา​ไม่​เปิด​ประตู​เมือง​ให้​ท่าน ท่าน​โจม​ตี​เมือง​นั้น และ​ผ่า​ท้อง​หญิง​มี​ครรภ์​ของ​เมือง​นั้น​ทุก​คน”

 (At that time Menahem sacked Tiphsah and all who were in it and its territory from Tirzah on,  because they did not open it to him. Therefore he sacked it, and he ripped open all the women        in it who were pregnant.)

15:17 “ใน​ปี​ที่ 39 แห่ง​รัชกาล​อาซาริยาห์​พระราชา​แห่ง​ยูดาห์ เมนาเฮม​บุตร​กาดี​ทรง​ครอง​อิสราเอล​ใน​กรุง​สะมาเรีย 10 ปี”

         (In the thirty-ninth year of Azariah king of Judah, Menahem the son of Gadi began to reign over Israel,  and he reigned ten years in Samaria. )

15:18 “พระองค์ ​ทรง​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์ และ​ตลอด​รัชกาล​ของ​พระองค์​ก็​ไม่ได้​ทรง​หัน​ จาก​บาป​ทั้งหลาย​ของ​ เยโรโบอัม​บุตร​เนบัท ผู้​ได้​นำ​อิสราเอล​ให้​ทำ​บาป​ด้วย”

          (And he did what was evil in the sight of the Lord. He did not depart all his days from all the sins of  Jeroboam the son of Nebat, which he made Israel to sin. )

15:19 “ทิกลัทปิเลเสอร์​พระราชา​แห่ง​อัสซีเรีย​ได้​ยก​ขึ้น​มา​ต่อสู้​แผ่นดิน​นั้น และ​เมนาเฮม​ได้​ถวาย​เงิน 1,000 ตะลันต์​ แก่​ทิกลัทปิเลเสอร์ เพื่อ​ให้​พระองค์​ช่วย​ให้​ท่าน​กุม​อาณาจักร​ไว้​ได้”

         (Pul the king of Assyria came against the land, and Menahem gave Pul a thousand talents of silver, that  he might help him to confirm his hold on the royal power. )

15:20 “เมนาเฮม​ได้​รีด​เงิน​จาก​อิสราเอล​คือ จาก​คน​มั่งมี​ทุก​คน คน​ละ 50 เชเขล เพื่อ​ถวาย​พระราชา​แห่ง​อัสซีเรีย ดังนั้น​พระราชา​แห่ง​อัสซีเรีย​จึง​ยก​ทัพ​กลับ และ​ไม่ได้​ทรง​ยับยั้ง​อยู่​ใน​แผ่นดิน​นั้น”

  (Menahem exacted the money from Israel, that is, from all the wealthy men, fifty shekels of silver from  every man, to give to the king of Assyria. So the king of Assyria turned back and did not stay there in the land.)

15:21 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​เมนาเฮม และ​ทุกสิ่ง​ที่​ทรง​กระทำ ได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​ไม่​ใช่​ หรือ?”

         (Now the rest of the deeds of Menahem and all that he did, are they not written in the Book of  the   Chronicles of the Kings of Israel? )

15:22 “และ​เมนาเฮม​ทรง​ล่วงหลับ​ไป​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ และ​เปคาหิยาห์​พระราชโอรส​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​แทน”

           (And Menahem slept with his fathers, and Pekahiah his son reigned in his place.)

15.23 “ใน​ปี​ที่ 50 แห่ง​รัชกาล​อาซาริยาห์​พระราชา​แห่ง​ยูดาห์ เปคาหิยาห์​พระราชโอรส​ของ​เมนาเฮม​ทรง​ครอง​อิสราเอล​ใน​กรุง​ สะมาเรีย 2 ปี”

         (In the fiftieth year of Azariah king of Judah, Pekahiah the son of Menahem began to reign over Israel in   Samaria, and he reigned two years. )

15:24 “และ​พระองค์​ทรง​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์ พระองค์​ไม่ได้​ทรง​หัน​จาก​บาป​ทั้งหลาย​ของ​เยโรโบอัม​  บุตร​เนบัท ผู้​ได้​นำ​อิสราเอล​ให้​ทำ​บาป​ด้วย”

         (And he did what was evil in the sight of the Lord. He did not turn away from the sins of Jeroboam the   son of Nebat, which he made Israel to sin. )

15:25 “และ​เปคาห์​บุตร​เรมาลิยาห์ แม่ทัพ​ของ​พระองค์​ได้​ก่อ​การ​กบฏ​ต่อ​พระองค์ และ​ได้​ประหาร​พระองค์​ใน​กรุง​สะมาเรีย​ใน​ ป้อม​ของ​พระราชวัง พร้อม​กับ​อารโกบ​และ​อารีเอห์ และ​มี​คน​กิเลอาด 50 คน​ร่วม​กัน​คิด​กบฏ​กับ​ท่าน ท่าน​ได้​ประหาร​       พระองค์​และ​ได้​ขึ้น​ครอง​ราชย์​แทน”

   (And Pekah the son of Remaliah, his captain, conspired against him with fifty men of the people of Gilead,  and struck him down in Samaria, in the citadel of the king’s house with Argob and Arieh; he put him to  death and reigned in his place. )

15:26 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​เปคาหิยาห์ และ​ทุก​สิ่ง​ที่​ทรง​กระทำ นี่แน่ะ มี​บันทึก​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล”

        (Now the rest of the deeds of Pekahiah and all that he did, behold, they are written in the Book of the   Chronicles of the Kings of Israel.)

15:27 “ใน​ปี​ที่ 52 แห่ง​รัชกาล​อาซาริยาห์​พระราชา​แห่ง​ยูดาห์ เปคาห์​บุตร​เรมาลิยาห์​ทรง​ครอง​อิสราเอล​ใน​สะมาเรีย 20 ปี”

      (In the fifty-second year of Azariah king of Judah, Pekah the son of Remaliah began to reign over Israel in  Samaria, and he reigned twenty years. )

15:28 “พระองค์​ทรง​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์ พระองค์​ไม่ได้​ทรง​หัน​จาก​บาป​ทั้งหลาย​ของ​เยโรโบอัม​บุตร​ เนบัท ผู้​ได้​นำ​อิสราเอล​ให้​ทำ​บาป​ด้วย”

          (And he did what was evil in the sight of the Lord. He did not depart from the sins of Jeroboam the son  of Nebat, which he made Israel to sin.)

15:29 “ใน​รัชกาล​ของ​เปคาห์​พระราชา​แห่ง​อิสราเอล ทิกลัทปิเลเสอร์​พระราชา​แห่ง​อัสซีเรีย​ทรง​ยก​มา​ยึด​เมือง​อิโยนอาเบลเบธมาอาคาห์ ยาโนอาห์ คาเดช ฮาโซร์ กิเลอาด กาลิลี แผ่นดิน​นัฟทาลี​ทั้งหมด และ​ทรง​กวาด​ ต้อน​ประชาชน​ไป​เป็น​เชลย​ยัง​ อัสซีเรีย”

  (In the days of Pekah king of Israel, Tiglath-pileser king of Assyria came and captured Ijon, Abel-beth- maacah, Janoah, Kedesh, Hazor, Gilead, and Galilee, all the land of Naphtali, and he carried the people  captive to Assyria. )

15:30 “แล้ว​โฮเชยา​บุตร​เอลาห์​ได้​ร่วม​กัน​คิด​กบฏ​ต่อ​เปคาห์​บุตร​เรมาลิยาห์ และ​โค่น​พระองค์​ลง และ​ประหาร​พระองค์​เสีย และ​ ขึ้น​ครองราชย์​แทน​ใน​ปี​ที่ 20 แห่ง​รัชกาล​โยธาม​พระราชโอรส​ของ​อุสซียาห์”

     (Then Hoshea the son of Elah made a conspiracy against Pekah the son of Remaliah and struck him  down and put him to death and reigned in his place, in the twentieth year of Jotham the son of Uzziah. )

15:31 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​เปคาห์​และ​ทุก​สิ่ง​ที่​ทรง​กระทำ นี่แน่ะ มี​บันทึก​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล”

          (Now the rest of the acts of Pekah and all that he did, behold, they are written in the Book of the  Chronicles of the Kings of Israel.)

15:32 “ใน​ปี​ที่ 2 แห่ง​รัชกาล​เปคาห์​บุตร​เรมาลิยาห์ พระราชา​แห่ง​อิสราเอล โยธาม​พระราชโอรส​ของ​อาซาริยาห์​พระราชา​แห่ง​ยูดาห์ ได้​ขึ้น​ครองราชย์

          (In the second year of Pekah the son of Remaliah, king of Israel, Jotham the son of Uzziah, king of  Judah, began to reign. )

      15:33 “เมื่อ​พระองค์​ทรง​เป็น​กษัตริย์​นั้น​มี​พระชนมายุ 25 พรรษา และ​พระองค์​ทรง​ครองราชย์​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม 16 ปีพระมารดา​ของ​พระองค์​มี​พระนาม​ว่า เยรูชา​บุตร​หญิง​ของ​ศาโดก”

         (He was twenty-five years old when he began to reign, and he reigned sixteen years in Jerusalem. His      mother’s name was Jerusha the daughter of Zadok.)

     15:34 “และ​พระองค์​ทรง​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยาห์เวห์ ตาม​ทุก​อย่าง​ที่​อาซาริยาห์​พระราชบิดา​ ของ​พระองค์​ทรง​กระทำ”

         (And he did what was right in the eyes of the Lord, according to all that his father Uzziah had done.)

15:35 “เว้นแต่​ปูชนียสถาน​สูง​ยัง​ไม่ได้​ถูก​กำจัด​เสีย ประชาชน​ยัง​ถวาย​สัตวบูชา​และ​เผา​เครื่อง​หอม​บน​ปูชนียสถาน​สูง​ เหล่านั้น พระองค์​ทรง​สร้าง​ประตู​บน​ของ​พระนิเวศ​แห่ง​พระยาห์เวห์”

     (Nevertheless, the high places were not removed. The people still sacrificed and made offerings on the high places. He built the upper gate of the house of the Lord. )

15:36 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​โยธาม และ​ทุก​สิ่ง​ที่​ทรง​กระทำ ได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​ยูดาห์​ไม่​ใช่​ หรือ?”

         (Now the rest of the acts of Jotham and all that he did, are they not written in the Book of the Chronicles  of the Kings of Judah? )

15:37 “ใน​เวลา​นั้น​พระยาห์เวห์​ได้​ทรง​ใช้​เรซีน พระราชา​แห่ง​ซีเรีย และ​เปคาห์​บุตร​เรมาลิยาห์​ให้​มา​สู้​กับ​ยูดาห์”

          (In those days the Lord began to send Rezin the king of Syria and Pekah the son of Remaliah against   Judah. )

15:38 “โยธาม​ทรง​ล่วงหลับ​ไป​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ และ​ทรง​ถูก​ฝัง​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ใน​นคร​ดาวิด ผู้​เป็น​บรรพบุรุษ​ของ​พระองค์ แล้ว​อาหัส​พระราชโอรส​ของ​พระองค์​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​แทน”

         (Jotham slept with his fathers and was buried with his fathers in the city of David his father, and Ahaz his   son reigned in his place.)

ข้อมูลมีประโยชน์

15:1     “ปีที่ 27 แห่งรัชกาลเยโรโบอัม” ( In the twenty-seventh year of Jeroboam) = ปี 767 ก.ค.ศ. (คำนวณจากเวลาที่เยโรโบอัมที่ 2 เริ่มสำเร็จราชการร่วมกับเยโฮอาช ในปี 793 ก.ค.ศ. (14:23)

“อาซาริยาห์” (   Azariah            ) –2พกษ.14:21;15:32

“ได้ขึ้นครองราชย์” (began to reign)  = เริ่มครองราชย์โดยลำพัง หลังจากสำเร็จราชการร่วมกับอามาซิยาห์   ผู้เป็นบิดา 24 ปี (ข.2;14:2,21) (ปีที่ครองราชย์จริงน้อยกว่าปีที่เป็นทางการ 1 ปี)

15:2     “ครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 52 ปี” (reigned fifty-two years in Jerusalem) =  792-740 ก.ค.ศ. (โดยครองราชย์ร่วมกับอามาซิยาห์ ในปี 792-767)

15:3    “เหมือนทุกอย่างที่อามาซิยาห์….ทรงกระทำ” (according to all that his father Amaziah had done) -14:3

15:4     “เว้นแต่ปูชนียสถานสูงยังไม่ถูกกำจัดเสีย” (Nevertheless, the high places were not taken away)   -14:4;1พกษ.15:14

15:5     “เป็นโรคเรื้อนจนถึงวันสิ้นพระชนม์” (he was a leper to the day of his death) = อาซาริยาห์ ถูกลงโทษที่เข้าไปเผาเครื่องหอมในพระวิหารซึ่งเป็นหน้าที่ของปุโรหิต (2พศด.26:16-21; ปท.ลนต.13:46)

“โยธาม….ทรงดูแลควบคุมสำนักพระราชวัง…ปกครองประชาชนของแผ่นดิน” (Jotham  was over the household, governing the people of the land) =สำเร็จราชการแทนบิดาตลอดช่วงชีวิตที่เหลือของอาซาริยาห์   (ปี   750-740 ก.ค.ศ)

15:6     “ส่วนพระราชกิจอื่นๆ ของอาซาริยาห์” (the rest of the acts of Azariah) –2พศด.26:1-15

15:8     “ในปีที่ 38 แห่งรัชกาลอาซาริยาห” (In the thirty-eighth year of Azariah ) = ปี 753 ก.ค.ศ.

15:9     “บาปทั้งสิ้นของเยโรโบอัม” ( the sins of Jeroboam)  -1พกษ.12:26-32;13:33-34;14:16

15:12   “เหตุการณ์นี้เป็นไปตามพระวจนะที่พระยาห์เวห์ตรัส” (This was the promise of the Lord)

= ความตกต่ำของราชวงศ์เยฮูทำให้การเมืองในอาณาจักรเหนือตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ (ฮชย.1:4)

กษัตริย์ 5 องค์ที่เหลือของอาณาจักรเหนือล้วนถูกปลงพระชนม์ ยกเว้น เมนาเฮม ที่ครองราชย์อยู่ 10 ปี  และโฮเชยาที่ถูกคุมขังโดย อัสซีเรีย

-อาณาจักรเหนือตกต่ำและล่มสลายลงอย่างรวดเร็ว หลังจากยุคของเยโรโบอัมที่ 2

15:13   “ปีที่ 39 แห่งรัชกาลอุสซียาห์” (  in the thirty-ninth year of Uzziah) = 752 ก.ค.ศ.

“อุสซียาห์”  เป็นอีกชื่อหนึ่งของ อาซาริยาห์ (14:21)

15:14   “เมนาเฮม” (Menahem)  = คงเป็นผู้บัญชาการกองทหารรักษาการณ์ที่ ทีรซาห์ (ซึ่งเป็นอดีตเมืองหลวงของอาณาจักรเหนือ – 1พกษ.14:17;15:21,33)

15:16  “ทิฟสาห์” (Tiphsah) –มีเมืองที่ชื่อเดียวกันนี้ และตั้งอยู่ทางเหนือของฮามัท (14:21) บนแม่น้ำยูเฟรติส (1พกษ.4:24) แต่ไม่น่าจะเป็นเมืองเดียวกัน (นักวิชาการบางคนเลือกอ่านชื่อเมืองนี้ว่า “ทัปปูวาห์”  ตามฉบับเซปตัวจิ้น ซึ่งหมายถึงเมืองที่ตั้งอยู่ตรงเขตแดนระหว่างเอฟราอิมและมนัสเสห์-(ยชว.16:8;17:7-8)

15:17   “ในปีที่ 39 แห่งรัชกาลอาซาริยาห์” (In the thirty-ninth year of Azariah) = 752 ก.ค.ศ.

“10 ปี” ( ten years) = 752 – 742 ก.ค.ศ.

15:19   “ทิกลัทปิเลเสอร์” (Pul   ) –ในภาษาฮีบรูใช้คำว่า “ปูล” ที่เป็นชื่อภาษาบาบิโลน (1พศด.5:26) ของกษัตริย์อัสซีเรีย ที่มีนามว่า ทิกลัทปิเลเสอร์ ที่ 3  (745-727 ก.ค.ศ.)

“ยกขึ้นมาต่อสู้” (came against ) = รุกราน

-ในจดหมายเหตุของทิกลัทปิเลเสอร์  ที่ 3 แห่งอัสซีเรีย ระบุว่า เขาเคลื่อนทัพมาทางทิศตะวันตกในปี 743 ก.ค.ศ และรับบรรณาการจากที่ต่าง ๆ อาทิ คารเคมิช, ฮามัท, ไทระ, ไบบลอส, ดามัสกัส และเมนาเฮม แห่งอิสราเอล

“1000 ตะลันต์” = ประมาณ 34 ตัน ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่

“เพื่อให้พระองค์ช่วยให้ท่านกุมอาณาจักรไว้ได้” (that he might help him to confirm his hold on the royal power.) = ให้สามารถครอบครอง/ปกครองอาณาจักรได้มั่นคง เพราะว่า เมนาเฮมแย่งชิงบัลลังก์มาจึงรู้สึกไม่มั่นคง เกรงว่า คนที่ต่อต้านการปกครองของเขาอาจติดตามเปคาห์ ซึ่งเลือกเป็นพันธมิตรกับซีเรีย เพื่อต่อต้านการรุกรานของอัสซีเรีย (ข.27)

-ผู้เผยพระวจนะโฮเชยา ประณามนโยบายการขอความช่วยเหลือจากอัสซีเรีย และพยากรณ์ว่า การทำเช่นนั้นจะล้มเหลว (ฮชย.5:13-15)

15:20   “50 เชเขล” ( fifty shekels) = ต้องใช้รายได้ของคนประมาณ 60,000 คน เพื่อให้ได้เงินบรรณาการ 1,000ตะลันต์ และเป็นตัวชี้ให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรเหนือในช่วงรัชกาลเยโรโบอัมที่ 2

15:23   “ปีที่ 50 แห่งรัชกาลอาซาริยาห์” ( the fiftieth year of Azariah) = ปี 742 ก.ค.ศ.

“2 ปี” ( two years) = ปี 742-740 ก.ค.ศ.

15:25   “เปคาห์” (Pekah) = แม่ทัพหรือผู้บัญชาการซึ่งมียศสูงสุดในอีกฟากของแม่น้ำจอร์แดน

คิดกบฏ” (conspired against) = เปคาห์ สมคบกับชาวเกลิอาด 50 คน  ก่อการกบฏและสังหาร

เปคาหิยาห์ อาจมีปัญหามาจากนโยบายต่างประเทศ – เปคาริยาห์ดำเนินตามนโยบายของเมนาเฮมบิดา ในการเป็นพันธมิตรกับอัสซีเรีย (ข.20) แต่เปคาห์ต้องการเป็นพันธมิตรกับซีเรีย (16:1-9;อสย.7:1-2,4-6)

15:27   “ปีที่ 52 แห่งรัชกาลอาซาริยาห์” (In the fifty-second year of Azariah) = ปี 740 ก.ค.ศ

“ 20 ปี” ( twenty years) = ปี 752 – 732 ก.ค.ศ. –สันนิฐานว่า เปคาห์อาจตั้งรัฐบาลคู่แข่งในอีกฟากหนึ่ง ของแม่น้ำจอร์แดน เมื่อตอนเมนาเฮมประหารชัลลูม (ข.17,19,25) และจำนวนปีครองราชย์ที่ระบุในที่นี้ได้รวมช่วงเวลาที่เป็นรัฐบาลคู่แข่งด้วย

15:29   “ทิกลัทปิเลเสอร์” (Tiglath-pileser) –ข.19;16:5-9;2พศด.28:16-21;อสย.7:17

“อิโยน อาเบลเบธมาอาคาห์…นัฟทาลี” (Ijon, Abel-beth-maacah…Naphtali) = กว่า 150 ปีก่อน

เบนฮาดัดที่ 1 แห่งดามัสกัส ได้ชิงดินแดนเดียวกันนี้จากอาณาจักรเหนือ ตามคำขอร้องของกษัตริย์ยูดาห์ (1พกษ.15:19-20)

“กวาดต้อนประชาชนไปเป็นเชลยยังอัสซีเรีย” (he carried the people captive to Assyria)

–1พศด.5:26 –ชาวอิสราเอลถูกเนรเทศไปจากบ้านเกิดเมืองนอนสำเร็จตามคำสาปแช่งของพันธสัญญา (10:32)

15:30   “โฮเชยา…กบฏต่อเปคาห์ บุตรเรมาลิยาห์ และโค่นพระองค์ลงและประหารพระองค์เสีย”

(Hoshea …made a conspiracy against Pekah the son of Remaliah and struck him down and put him to death)

-โฮเชยาน่าจะเป็นผู้สนับสนุนการร่วมมือกับอัสซีเรีย ในจดหมายเหตุฉบับหนึ่งของทิกลัทปิเลเสอร์ที่ 3 อ้างว่า เขาแต่งตั้งโฮเชยาให้ครองบัลลังก์อิสราเอล และได้รับบรรณาการเป็นทอง 100 ตะลันต์และเงิน 1000 ตะลันต์

“ในปีที่ 20 แห่งรัชกาลโยธาม”( in the twentieth year of Jotham            ) = ปี 732 ก.ค.ศ. –โยธามโอรสของอาซาริยาห์  -แท้จริงแล้วน่าจะเป็นปีที่ 19 (ปท. ข.32-33)

15:32   “ในปีที่ 2 แห่งรัชกาลเปคาห์” (In the second year of Pekah) = 750 ก.ค.ศ. (ข.7)

15:33   “16 ปี”  (sixteen years) = ปี 750-735 ก.ค.ศ. = โยธามสำเร็จราชการร่วมกับบิดาในช่วง 750-740 ก.ค.ศ. (ข.5) รัชกาลโยธามสิ้นสุดลงในปี 735 ก.ค.ศ. และอาหัสบุตรชายขึ้นครองราชย์แทน แต่โยธามยังคงมีชีวิตอยู่อย่างน้อยจนถึงปี 732 (ข.30,37)

15:34   “อาซาริยาห์” (Uzziah)  -ในภาษาฮีบรูใช้คำว่า “อุสซียาห์” (ข.3;2พศด.27:2)

15:35   “ปูชนียสถานสูงยังไม่ได้ถูกกำจัด” ( the high places were not removed  ) –ข.4;1พกษ.15:14

          “ประตูบนของพระนิเวศ” (the upper gate of the house of the Lord.) –2พศด.23:20;ยรม.20:2; อสค.9:2,  ปท.2พศด.27:1-6

15:37   -มีการทับซ้อนกันของรัชกาลโยธามและอาหัส (ข.33) -ใน 16:5-12 และ 2พศด.28:5-21;อสย.7:1-17 ล้วนระบุว่า เรซีน และเปคาห์ยกทีมมาในรัชกาลของอาหัส

คำถามนำอภิปราย

  1.  คุณสามารถสรุป “นิยามชีวิต” ของคุณว่า ได้ “ทำสิ่งชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า” มาตลอดชีวิตของคุณหรือไม่?  ทำไมคุณคิดเช่นนั้น?
  2. มีอะไรบ้างที่เป็นสิ่งที่คุณมองข้ามในชีวิตของคุณ ที่สงผลกระทบในเชิงลบต่อชีวิตและการงานของคุณในภายหลัง? แล้วคุณจัดการกับมันอย่างไร?
  3. มีบาปอะไรบ้างที่คุณตั้งใจทำ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้า? แล้วมีผลอะไรเกิดขึ้นบ้าง?
  4. คุณเคยพบ/ประสบหรือเผชิญกับเหตุการณ์ที่โหดร้ายหรือโหดเหี้ยมมากที่สุดในชีวิตบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? และเกิดขึ้นได้อย่างไร?
  5. คุณเคยยอมจำนนต่อสิ่งใดหรือคนใดและต้องชดใช้ความเสียหายอย่างมากมายบ้างหรือไม่?
  6. คุณเคยพบใครที่ทำบาปและยังชักชวนผู้อื่นให้ทำบาปบ้างหรือไม่? แล้วผลที่ตามมาคืออะไร?
  7. คุณเคยประสบกับการสูญเสียที่ใหญ่หรือมากที่สุดในชีวิตหรือไม่?  เรื่องอะไร? อย่างไรและทำไม?

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.