แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “การที่มีคุณของเราก็พอแก่เจ้าแล้ว เพราะความอ่อนแอมีที่ไหน เดชของเราก็มีฤทธิ์ขึ้นเต็มขนาดที่นั่น” เหตุฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงภูมิใจในบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้า เพื่อฤทธิ์เดชของพระคริสต์จะได้อยู่ในข้าพเจ้า (2โครินธ์ 12:9)
ชายคนหนึ่งกลับมาถึงบ้านตอนเย็น เล่าให้ภรรยาฟังถึงไอเดียโครงการพันล้านที่เขาคิดขึ้นมา บอกกับภรรยาว่ามันได้กำไรแน่นอน แต่ก่อนอื่นต้องขอสักห้าหมื่นเพื่อไปลงทุน ภรรยาลังเลไม่แน่ใจ ในที่สุดก็ยอมเสี่ยงและหวังว่าจะได้กำไร
หกอาทิตย์ต่อมา ชายผู้นั้นกลับมาและพูดว่า “ที่รัก ผมมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวร้ายคือไอเดียผมไม่ทำกำไร เราเสียเงินลงทุนไปหมด แต่ข่าวดีคือตอนนี้ผมมีไอเดียโครงการพันล้านใหม่ที่ต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง”
คุณอาจเคยสังเกตุว่าส่วนใหญ่เราเรียนรู้จากความพ่ายแพ้มากกว่าจากชัยชนะ ที่จริงความพ่ายแพ้จะไม่มีความหมายเลยเว้นแต่เราเรียนรู้บางสิ่ง แก้ไขวิธีคิดและตัดสินใจ ถ้ามองความพ่ายแพ้ด้วยวิธีนี้ ก็จะได้คุณค่าบางอย่างกลับคืนมา
ยิ่งอยากชนะแค่ไหน ก็ไม่ควรท้อใจในความพ่ายแพ้เท่านั้น เวลาเช่นนี้แหละเราจะได้เรียนบทเรียนที่มีค่าของชีวิต และบทเรียนที่มีค่าคือ – เราต่างต้องพึ่งพิงพระเจ้าไม่ว่าชนะหรือแพ้ เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ มองไปข้างหน้า และพึ่งพิงองค์พระผู้เป็นเจ้า
เมื่อเผชิญความพ่ายแพ้ เรียนรู้ที่จะมองไปข้างหน้า และพึ่งพิงองค์พระผู้เป็นเจ้า
อนุญาตโดย : Pastor Jack Graham
Jack Graham Power Point Ministries : www.jgrahampowerpoint.org