การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
พระธรรม 2พงษ์กษัตริย์ 10:1-36
อ้างอิง 1พกษ.2:19;12:30;15:31;16:32;13:32;18:19;19:17;2พกษ.21:1,21,29;8:24-29;9:7-10;10:5, 11-14;11:18;13:25;2พศด.2:25;22:8
บทนำ ความ ชั่วร้ายของผู้มีอำนาจปกครองและเกมแย่งชิงอำนาจได้ทำร้ายและเข่นฆ่าผู้ บริสุทธิ์มากมายมาตลอดประวัติศาสตร์ และประวัติศาสตร์ก็ยังคงซ้ำรอยอยู่เสมอ เพราะเเมื่อกำจัดทรราชย์หนึ่งลงไปก็มักปรากฎทรราชย์ใหม่ที่เลวร้ายมากกว่า เดิมปรากฎให้เห็นอยู่เสมอมา
บทเรียน
10:1 “อาหับมีโอรส 70 องค์ในกรุงสะมาเรีย เยฮูจึงทรงพระอักษรส่งไปสะมาเรีย ถึงบรรดาผู้ปกครองเมืองยิสเรเอลพวกผู้้ใหญ่ และบรรดาพี่เลี้ยงของโอรสของอาหับว่า”
(Now Ahab had seventy sons in Samaria. So Jehu wrote letters and sent them to Samaria, to the rulers of the city, to the elders, and to the guardians of the sons of Ahab, saying, )
10:2 “ในเมื่อบรรดาโอรสของนายของพวกท่านอยู่กับท่าน และท่านมีรถรบกับม้า และเมืองที่มีป้อม และอาวุธ พอจดหมายนี้มาถึงท่าน”
(“Now then, as soon as this letter comes to you, seeing your master’s sons are with you, and there are with you chariots and horses, fortified cities also, and weapons, )
10:3 “จงคัดเลือกโอรสนายของท่านองค์ที่ดีที่สุด และเหมาะสมที่สุด แล้วตั้งองค์นั้นไว้บนบัลลังก์ของพระราชบิดาและจงสู้ รบเพื่อราชวงศ์นายของท่าน”
(select the best and fittest of your master’s sons and set him on his father’s throne and fight for your master’s house.” )
10:4 “แต่พวกเขากลัวมาก และพูดว่า “ดูสิ พระราชาสองพระองค์ยังทรงต้านทานเยฮูไม่ได้ แล้วเราจะต้านทานได้อย่างไร?”
(But they were exceedingly afraid and said, “Behold, the two kings could not stand before him. How then can we stand?” )
10:5 “ดังนั้น ผู้ดูแลพระราชวัง ผู้ดูแลเมือง พวกผู้ใหญ่และพวกพี่เลี้ยง ส่งสารไปถึงเยฮูว่า “พวกข้าพระบาทเป็นผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท และจะทำทุกอย่างที่ฝ่าพระบาทตรัสสั่ง พวกข้าพระบาทจะไม่ตั้งผู้ใดเป็นกษัตริย์ ขอทรงทำตามที่ทรง เห็นว่าดีเถิด”
(So he who was over the palace, and he who was over the city, together with the elders and the guardians, sent to Jehu, saying, “We are your servants, and we will do all that you tell us. We will not make anyone king. Do whatever is good in your eyes.” )
10:6 “แล้วพระองค์ทรงพระอักษรเป็นฉบับที่สองถึงพวกเขาว่า “พรุ่งนี้เวลานี้ ถ้าท่านทั้งหลายอยู่ฝ่ายเรา และพร้อมจะเชื่อฟังเรา จงนำศีรษะของบรรดาโอรสนายของท่านมาหาเราที่ยิสเรเอล” บรรดาโอรส 70 องค์ของพระราชาอยู่กับคน ใหญ่คนโตในเมือง ผู้ได้ชุบเลี้ยงพวกเขามา”
(Then he wrote to them a second letter, saying, “If you are on my side, and if you are ready to obey me, take the heads of your master’s sons and come to me at Jezreel tomorrow at this time.” Now the king’s sons, seventy persons, were with the great men of the city, who were bringing them up. )
10:7 “ต่อมาเมื่อจดหมายมาถึงพวกเขา เขาก็จับโอรสของพระราชาทั้ง 70 องค์ประหารเสีย แล้วเอาศีรษะใส่ตะกร้าส่งไปให้พระองค์ที่ยิสเรเอล”
(And as soon as the letter came to them, they took the king’s sons and slaughtered them, seventy persons, and put their heads in baskets and sent them to him at Jezreel. )
10:8 “เมื่อผู้สื่อสารมาทูลพระองค์ว่า “พวกเขานำศีรษะโอรสของกษัตริย์มาแล้ว พ่ะย่ะค่ะ” พระองค์ตรัสว่า “จงกองไว้เป็น สองกองตรงทางเข้าประตูเมืองจนถึงรุ่งเช้า”
(When the messenger came and told him, “They have brought the heads of the king’s sons,” he said, “Lay them in two heaps at the entrance of the gate until the morning.” )
10:9 “พอรุ่งเช้าพระองค์เสด็จออกไป ทรงยืน และตรัสกับประชาชนทั้งปวงว่า “ท่านทั้งหลายเป็นผู้ไร้ความผิด ส่วนเราได้ กบฏต่อนายของเราและประหารพระองค์เสีย แต่ใครเล่าที่ฆ่าคนเหล่านี้?”
(Then in the morning, when he went out, he stood and said to all the people,“You are innocent. It was I who conspired against my master and killed him, but who struck down all these? )
10:10 “จงทราบเถิดว่า พระวจนะของพระยาห์เวห์ ซึ่งพระยาห์เวห์ตรัสเกี่ยวกับราชวงศ์ของอาหับจะไม่ตกดินแต่อย่างใด เลย เพราะพระยาห์เวห์ทรงทำตามที่ตรัสทางเอลียาห์ผู้รับใช้ของ พระองค์”
(Know then that there shall fall to the earth nothing of the word of the Lord, which the Lord spoke concerning the house of Ahab, for the Lord has done what he said by his servant Elijah.”)
10:11 “เยฮูทรงประหารทุกคนที่เหลืออยู่ในราชวงศ์ของอาหับในเมืองยิสเรเอล อีกทั้งคนใหญ่คนโตทุกคนของพระองค์ สหายสนิทของพระองค์ และปุโรหิตของพระองค์ จนไม่เหลือรอดชีวิตสักคนเดียวเลย”
(So Jehu struck down all who remained of the house of Ahab in Jezreel, all his great men and his close friends and his priests, until he left him none remaining.)
10:12 “แล้วเยฮูทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังสะมาเรีย ในระหว่างทาง พระองค์ประทับที่เบธเอเขดหมู่บ้านของผู้เลี้ยงแกะ”
(Then he set out and went to Samaria. On the way, when he was at Beth-eked of the Shepherds,)
10:13 “เยฮูทรงพบพระญาติของอาหัสยาห์พระราชาแห่งยูดาห์ และพระองค์ตรัสถามว่า “พวกท่านเป็นใคร?” พวกเขาทูล ตอบว่า “พวกเราเป็นญาติของอาหัสยาห์ และลงมาเยี่ยมบรรดาโอรสของกษัตริย์และของพระราชชนนี”
(Jehu met the relatives of Ahaziah king of Judah, and he said, “Who are you?” And they answered, “We are the relatives of Ahaziah, and we came down to visit the royal princes and the sons of the queen mother.” )
10:14 “พระองค์ รับสั่งว่า “จับพวกเขาทั้งเป็น” เขาทั้งหลายก็จับคนเหล่านั้นทั้งเป็น และประหารทั้ง 42 คนที่บ่อเบธเอเขด ไม่เหลือไว้สักคนเดียว”
(He said, “Take them alive.” And they took them alive and slaughtered them at the pit of Beth- eked, forty-two persons, and he spared none of them.)
10:15 “และเมื่อพระองค์เสด็จจากที่นั่น ก็ทรงพบเยโฮนาดับบุตรเรคาบมาหาพระองค์ พระองค์ทรงต้อนรับเขา และตรัสกับเขาว่า “จิตใจของท่านซื่อตรงต่อจิตใจของเรา อย่างที่จิตใจของเราซื่อตรงต่อจิตใจของท่านหรือ?” เยโฮนาดับทูลว่า “ซื่อตรง พ่ะย่ะค่ะ” เยฮูตรัสว่า “ถ้าซื่อตรงก็ยื่นมือมาให้เรา” เขาจึงยื่นมือของเขา และเยฮูก็ทรงดึงเขาขึ้นมาบนรถรบ”
(And when he departed from there, he met Jehonadab the son of Rechab coming to meet him. And he greeted him and said to him, “Is your heart true to my heart as mine is to yours?” And Jehonadab answered, “It is.” Jehu said, “If it is, give me your hand.” So he gave him his hand. And Jehu took him up with him into the chariot. )
10:16 “พระองค์ตรัสว่า “มากับเราเถิด และดูความกระตือรือร้นของเราเพื่อพระยาห์เวห์” พระองค์จึงให้เขานั่งรถรบ ของพระองค์ไป”
(And he said, “Come with me, and see my zeal for the Lord.” So he had him ride in his chariot.)
10:17 “เมื่อมาถึงสะมาเรีย พระองค์ทรงประหารทุกคนในราชวงศ์ของอาหับที่เหลืออยู่ใน สะมาเรียจนหมด ตามพระวจนะ ของพระยาห์เวห์ซึ่งตรัสกับเอลียาห์”
(And when he came to Samaria, he struck down all who remained to Ahab in Samaria, till he had wiped them out, according to the word of the Lord that he spoke to Elijah.)
10:18 “แล้วเยฮูทรงเรียกประชุมประชาชนทั้งหมด และตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “อาหับปรนนิบัติพระบาอัลนิดหน่อยแต่เยฮู จะปรนนิบัติพระองค์มากกว่า”
(Then Jehu assembled all the people and said to them, “Ahab served Baal a little, but Jehu will serve him much. )
10:19 “ฉะนั้น จงเรียกผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลมาให้หมด ทั้งผู้นมัสการและปุโรหิตทั้งหมดของพระบาอัล อย่าให้ใคร ขาดไปเลย เพราะเราจะมีการถวายสัตวบูชาครั้งใหญ่แก่พระบาอัล ใครขาดก็จะไม่ให้มีชีวิตอยู่” แต่เยฮูทรงทำเป็น อุบายเพื่อจะทำลายผู้นมัสการพระบาอัล”
(Now therefore call to me all the prophets of Baal, all his worshipers and all his priests. Let none be missing, for I have a great sacrifice to offer to Baal. Whoever is missing shall not live.” But Jehu did it with cunning in order to destroy the worshipers of Baal. )
10:20 “และเยฮูตรัสว่า “จงจัดประชุมเพื่อนมัสการพระบาอัล” เขาก็ป่าวร้องเรียกประชุมดังกล่าว”
(And Jehu ordered, “Sanctify a solemn assembly for Baal.” So they proclaimed it. )
10:21 “และเยฮูทรงส่งข่าวไปทั่วอิสราเอล ผู้นมัสการพระบาอัลก็มาทั้งหมด จึงไม่มีเหลือสักคนหนึ่งที่ไม่ได้มา และเขาทั้งหลายก็เข้าไปในนิเวศของพระบาอัล แล้วนิเวศของพระบาอัลก็เต็มแน่นขนัดจากข้างหนึ่งถึงอีกข้างหนึ่ง”
(And Jehu sent throughout all Israel, and all the worshipers of Baal came, so that there was not a man left who did not come. And they entered the house of Baal, and the house of Baal was filled from one end to the other. )
10:22 “เยฮูตรัสสั่งผู้ดูแลตู้เสื้อว่า “จงเอาเสื้อสำหรับผู้นมัสการพระบาอัลออกมา” เขาก็เอาเสื้อออกมาให้เขาทั้งหลาย”
(He said to him who was in charge of the wardrobe, “Bring out the vestments for all the worshipers of Baal.” So he brought out the vestments for them. )
10:23 “แล้วเยฮูเสด็จเข้าไปในนิเวศของพระบาอัล พร้อมกับเยโฮนาดับบุตรเรคาบ พระองค์ตรัสกับผู้นมัสการพระบาอัลว่า “จงค้นดู ดูให้ดีว่าไม่มีผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์อยู่กับพวกท่าน ให้มีแต่ผู้นมัสการพระบาอัลเท่านั้น”
(Then Jehu went into the house of Baal with Jehonadab the son of Rechab, and he said to the worshipers of Baal, “Search, and see that there is no servant of the Lord here among you, but only the worshipers of Baal.” )
10:24 “แล้วเขาทั้งหลายเข้าไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเครื่องบูชาเผาทั้ง ตัว เยฮูทรงวางคน 80 คนไว้ภายนอก และตรัสว่า “คนไหนปล่อยให้คนหนึ่งคนใดซึ่งเรามอบไว้ในมือพวกเจ้าหนี รอดไปได้ เขาต้องเสียชีวิตของเขาแทน”
(Then they went in to offer sacrifices and burnt offerings. Now Jehu had stationed eighty men outside and said,“The man who allows any of those whom I give into your hands to escape shall forfeit his life.)
10:25 “ต่อมาเมื่อเสร็จการถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว เยฮูรับสั่งแก่ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารว่า “จงเข้าไปฆ่าพวกเขาเสีย อย่าให้รอดสักคนเดียว” เมื่อฆ่าเขาทั้งหลายด้วยคมดาบแล้ว ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารก็โยนศพออกไปข้างนอก แล้วก็เข้าไปที่แท่นบูชาในนิเวศพระบาอัล”
(So as soon as he had made an end of offering the burnt offering, Jehu said to the guard and to the officers, “Go in and strike them down; let not a man escape.” So when they put them to the sword, the guard and the officers cast them out and went into the inner room of the house of Baal, )
10:26 “และนำเอาเสาศักดิ์สิทธิ์แห่งนิเวศของพระบาอัลออกมาเผาเสีย”
(and they brought out the pillar that was in the house of Baal and burned it.)
10:27 “อีกทั้งทลายเสาศักดิ์สิทธิ์ของพระบาอัล และทลายนิเวศของพระบาอัล แล้วทำให้เป็นส้วมจนทุกวันนี้”
(And they demolished the pillar of Baal, and demolished the house of Baal, and made it a latrine to this day.)
10:28 “ดังนั้นเยฮูทรงกวาดล้างพระบาอัลออกจากอิสราเอล”
(Thus Jehu wiped out Baal from Israel.)
10:29 “แต่เยฮูไม่ได้ทรงหันจากบาปของเยโรโบอัมบุตรเนบัท ผู้ได้นำอิสราเอลให้ทำบาปด้วย คือลูกวัวทองคำซึ่งอยู่ ในเมืองเบธเอลและในเมืองดาน”
(But Jehu did not turn aside from the sins of Jeroboam the son of Nebat, which he made Israel to sin—that is, the golden calves that were in Bethel and in Dan. )
10:30 “พระยาห์เวห์ตรัสกับเยฮูว่า “เพราะเจ้าได้ทำดีโดยทำสิ่งที่ชอบในสายตาของเรา และได้ทำต่อราชวงศ์อาหับตามทุกอย่างที่อยู่ในใจของเรา เชื้อสายของเจ้าสี่ชั่วอายุคนจะได้นั่งบนบัลลังก์ของ อิสราเอล”
(And the Lord said to Jehu, “Because you have done well in carrying out what is right in my eyes, and have done to the house of Ahab according to all that was in my heart, your sons of the fourth generation shall sit on the throne of Israel.” )
10:31 “แต่เยฮูไม่ทรงระมัดระวังที่จะดำเนินตามธรรมบัญญัติของพระยา ห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลด้วยสุดพระทัยของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงหันจากบาปของเยโรโบอัม ผู้นำอิสราเอลให้ทำบาปด้วย”
(But Jehu was not careful to walk in the law of the Lord, the God of Israel, with all his heart. He did not turn from the sins of Jeroboam, which he made Israel to sin.)
10:32 “ในสมัยนั้น พระยาห์เวห์ทรงเริ่มตัดดินแดนของอิสราเอลออก ส่วนฮาซาเอลก็รบชนะทั่วดินแดนอิสราเอล”
(In those days the Lord began to cut off parts of Israel. Hazael defeated them throughout the territory of Israel: )
10:33 “ตั้งแต่แม่น้ำจอร์แดนฟากตะวันออก ทั่วแผ่นดินกิเลอาด คนกาด คนรูเบน และคนมนัสเสห์ ตั้งแต่อาโรเออร์ ซึ่งอยู่ข้างที่ลุ่มแม่น้ำอารโนน คือกิเลอาดและบาชาน”
(from the Jordan eastward, all the land of Gilead, the Gadites, and the Reubenites, and the Manassites, from Aroer, which is by the Valley of the Arnon, that is, Gilead and Bashan. )
10:34 “ส่วนพระราชกิจอื่นๆ ของเยฮู และทุกสิ่งที่ทรงกระทำ และพระราชอำนาจทั้งสิ้นของพระองค์ ได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารกษัตริย์แห่งอิสราเอลไม่ใช่ หรือ?”
(Now the rest of the acts of Jehu and all that he did, and all his might, are they not written in the Book of the Chronicles of the Kings of Israel?)
10:35 “เยฮูจึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ และเขาก็ฝังพระองค์ไว้ในกรุงสะมาเรีย และเยโฮอาหาสพระราชโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แทน”
(So Jehu slept with his fathers, and they buried him in Samaria. And Jehoahaz his son reigned in his place.)
10:36 “เวลาที่เยฮูทรงครองอิสราเอลในสะมาเรียนั้นคือ 28 ปี”
(The time that Jehu reigned over Israel in Samaria was twenty-eight years.)
ข้อมูลมีประโยชน์
10:1 “โอรส 70 องค์” (seventy sons in Samaria) = รวมทั้งบุตรชายและหลานชายของอาหับ
“สะมาเรีย” (Samaria) –เยฮูต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ในการยึดป้อมปราการของสะมาเรียที่โจมตีได้ยาก (1พกษ.16:24) และต้องทำลายราชวงศ์ของอาหับให้หมดสิ้น
“บรรดาผู้ปกครองเมือง” (to the rulers of the city) = เจ้าหน้าที่กษัตริย์แต่งตั้งขึ้น (1พกษ.4:1-6)
“พวกผู้ใหญ่” (to the elders) = ผู้อาวุโส ผู้นำท้องถิ่น ตามตำแหน่งในเผ่าและในครอบครัว (อพย.3:16; 2ซมอ.3:17)
“บรรดาพี่เลี้ยงของโอรส” (to the guardians of the sons ) = องครักษ์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์ของอาหับ
= ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลและเลี้ยงดูลูกหลานในราชวงศ์ของกษัตริย์ (อาหับ)
10:3 “จงสู้รบเพื่อราชวงศ์นายของท่าน” ( fight for your master’s house.) = กลยุทธของเยฮูคือ โน้มน้าวให้
ผู้นำของสะมาเรียยอมจำนนต่อเขา โดยขู่ให้ออกมาเผชิญหน้ากับเขาทางทหาร
10:4 “แต่พวกเขากลัวมาก” ( But they were exceedingly afraid) = พวกเขาหวาดหวั่นขวัญผวา
“พระราชาสองพระองค์” ( two kings) = โยรัมและอาหัสยาห์ (9:24,27)
10:5 “ผู้ดูแลพระราชวัง” (who was over the palace) = เจ้ากรมวัง – 1พกษ.4:6 “ผู้ดูแลเมือง” ( who was over the city) = เจ้ากรมเมือง
= เจ้าหน้าที่ซึ่งกษัตริย์แต่งตั้งให้มีหน้าที่ควบคุมกองทหารประจำเมืองหลวง
10:6 “จงนำศีรษะของบรรดาโอรสนายของท่านมาหาเราที่ยิสเรเอล” ( take the heads of your master’s sons and come to me at Jezreel) = แท้จริงแล้วภาษาที่ใช้ในตอนนี้เป็นคำสั่งที่กำกวม มีความหมายว่า “จงนำศีรษะเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่เป็นชายของเจ้านายของท่านมาให้เรา” = เยฮูจงใจให้ภาษาเหล่านี้เพราะอาจหมายรวมถึงคนสำคัญในบรรดาลูกหลาน 70 คนของอาหับ เช่น องค์รัชทายาท หรือคนอื่น ๆ ที่มีตำแหน่งหรือความสามารถเป็นพิเศษ หรือหมายถึงลูกหลานทั้ง 70 คนโดยตรงก็ได้
10:7 “เขาจับโอรสของพระราชาทั้ง 70 องค์ประหารเสีย” ( they took the king’s sons and slaughtered them, seventy persons)=เหล่าผู้นำในเมืองสะมาเรียทำตามคำสั่งในสารตรงตามตัวอักษร ดังที่เยฮูหวังไว้ “เอาศีรษะใส่ตะกร้าส่งไปให้พระองค์ที่ยิสเรเอล” (put their heads in baskets and sent them to him at Jezreel.) = พวกเขาไม่ได้นำศีรษะไปให้ด้วยตัวเอง (ตามคำสั่งในข้อ 6) อาจเพราะกลัวตาย
10:8 “จงกองไว้เป็นสองกองตรงทางเข้าประตูเมือง” (Lay them in two heaps at the entrance of the gate)
= ขั้นตอนอันน่าสยดสยองนี้เลียนแบบมาจากธรรมเนียมอันป่าเถื่อนของผู้ปกครองชาว อัสซีเรียผู้โหดร้ายที่มีนามว่า อาชูร์บานิปาล กับชัลมาเนเสอร์ที่ 3
10:9 “…แต่ใครเล่าที่ฆ่าคนเหล่านี้” (but who struck down all these?) = เยฮูยอมรับอย่างเปิดเผยว่า เขาเป็นคนโค่นล้มและฆ่าโยรัม แต่เขาปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ฆ่าลูกหลานทั้ง 70 คนของอาหับและกล่าวโทษผู้นำในเมืองสะมาเรีย (ทั้ง ๆ ที่เกิดมาจากคำพูดอันกำกวมของเขา) ว่า เป็นผู้กระทำ
10:10 “เพราะพระยาห์เวห์ทรงทำตามที่ตรัสทางเอลียาห์ผู้รับใช้ของพระองค์” (the Lord has done what he said by his servant Elijah.) = เยฮูสื่อเป็นนัยว่า พระเจ้าเป็นผู้กำหนดให้เป็นไปตามที่เกิดขึ้นผ่านทางเอลียาห์ ใน 1พกษ.21:20-24,29
10:11 “เยฮูทรงประหารทุกคนที่เหลืออยู่ในราชวงศ์ของอาหับ…อีกทั้งคนใหญ่คนโตทุกคนของพระองค์…จนไม่เหลือรอดชีวิตสักคนเดียวเลย” (Jehu struck down all who remained of the house of Ahab … all his great men and his close friends … until he left him none remaining.) = เยฮูกระทำเกินกว่าที่รับมอบหมาย (9:7;ฮชย.1:4) โดยอ้างนามพระเจ้าและทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวด้วยเหตุผลทางการเมืองล้วน ๆ (ปท.9:25)
10:13 “พวกเราเป็นญาติของอาหัสยาห์” ( the relatives of Ahaziah) = เชื้อพระวงศ์ของอาหัสยาห์ (2พศด.21:17) ใน 2พศด.21:17 กล่าวถึงพระราชวงศ์ของกษัตริย์และราชมารดา
=บรรดาสมาชิกในราชวงศ์จำนวน 42 คน จากยูดาห์ที่ไม่ได้ข่าวเรื่องการตายของโยรัมและเยเซเบล ถูกเยฮูสั่งประหารทั้งหมด
10:15 “เยโฮนาดับ บุตรเรคาบ” (Jehonadab the son of Rechab) = เป็นผู้นำกลุ่มอนุรักษ์นิยมในชาวอิสราเอลที่ ต่อต้านการนมัสการพระบาอัล และต่อต้านธรรมเนียมปฏิบัติอื่นๆ ในสังคมเกษตรแบบตั้งรกรากมั่นคงรวมทั้งการสร้างบ้านเรือน การหว่านเมล็ดพืช และการใช้ไวน์ พวกสาวกของเขาถือปฏิบัติตามแนวทางนี้ต่อไปอีกมากกว่า 20 ปี ภายใต้นามที่ถูกเรียกว่า “คนตระกูลเรคาบ” (Recabites) –ยรม.35:6-10
10:16 “จึงให้เขานั่งรถรบของพระองค์ไป” (ride in his chariot.) = การแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเยฮูกับเยโฮนาดับต่อหน้าบรรดาประชาชน และเป็นการช่วยรับรองเยฮูในท่ามกลางประชาชนที่ห่างไกลว่า เยฮูเป็นผู้ติดตามพระเจ้า
10:18 “อาหับปรนนิบัติพระบาอัลนิดหน่อย แต่เยฮูจะปรนนิบัติพระองค์มากกว่า” (Ahab served Baal a little, but Jehu will serve him much) = แผนการล่อพวกบูชาพระบาอัลทั้งหมดให้มาติดกับและฆ่าเสียจนหมดสิ้น (10:19.21.25)
10:26 “นำเอาเสาศักดิ์สิทธิ์แห่งนิเวศของพระบาอัลออกมาเผาเสีย” (brought out the pillar that was in the house of Baal and burned it.) = อาจเป็นเสาเจ้าแม่อาเชราห์ (1พกษ.14:15) ซึ่งมักอยู่คู่กับหินศักดิ์สิทธิ์ (1พกษ.16:32-33)
10:27 “เสาศักดิ์สิทธิ์ของพระบาอัล” (the pillar of Baal ) = หินศักดิ์สิทธิ์ –1พกษ.14:15; ปท.2พกษ.8:22
10:29 “บาปของเยโรโบอัม” (sins of Jeroboam ) –1พกษ.12:26-32;13:33-34;14:16 =เยฮูทำบาปและชักนำอิสราเอลให้ทำบาปตาม
10:31 “เยฮูไม่ทรงระมัดระวังที่จะดำเนินตามธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์” (Jehu was not careful to walk in the law of the Lord) = ไม่ได้ใส่ใจที่จะทำตามพระบัญญัติหรือหันจากบาป –ฉธบ.4:9;สภษ.4:23
10:32 “ตัดดินแดน” (cut off parts of Israel) –2พกษ.13:25;สดด.107:39
“ฮาซาเอล” (Hazael) –1พกษ.19:17
10:33 “อาโรเออร์” ( Aroer) –กดว.32:34;ฉธบ.2:26;วนฉ.11:26;อสย.17:2
“ที่ลุ่มแม่น้ำอารโนน”( Arnon) –กดว.21:13
คำถามนำอภิปราย
- คุณเคยถูกกดดันจนเกิดความตระหนกกลัวจนทำอะไรไม่ถูกบ้างหรือไม่? เรื่องราวเป็นอย่างไร?
- คุณเคยกระทำบางสิ่งที่ผิดพลาดหรือทำผิดศีลธรรมเพราะความกลัว (อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง)บ้างหรือไม่? เรื่องอะไรและผลเป็นอย่างไร?
- คุณมีใครที่ซื่อตรงต่อคุณที่คุณวางใจได้บ้าง? ทำไมคุณจึงวางใจเขาได้? ในเรื่องอะไร? และมากแค่ไหน?
- คุณเคยวางแผนจัดการกับผู้ใดหรือกลุ่มใด โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัวบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไรและอย่างไร? หรือกลับกัน คือคุณเคยถูกเล่นงานเพราะแผนการของคนอื่นบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร? และอย่างไร?
- คุณเคยกระทำอะไรที่เกินหน้าที่หรือเกินคำสั่ง(ของใคร?) บ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร? แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร?
- คุณเคยพบกับคนที่ทำสิ่งดีดังที่พระเจ้าทรงประสงค์ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำสิ่งที่เลวร้ายเกินกว่าที่พระเจ้าจะรับได้บ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไรและอย่างไร?
- คุณเคย “ดำเนินชีวิตอย่างไม่ระมัดระวัง” หรือ “ไม่ใส่ใจในพระบัญญัติของพระเจ้า” ในเรื่องใดบ้างหรือไม่? แล้วเกิดอะไร(เสียหาย) ขึ้นกับคุณตามมาบ้าง? (หรือคุณเคยเห็นผู้ใดที่กระทำเช่นนั้น?)
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์