Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

2 พงศ์กษัตริย์ บทเรียนที่ 7

เราทำไม่ถูกเสียแล้ว วันนี้เป็นวันข่าวดี!

พระธรรม        2พงศ์กษัตริย์ 7:1-20

อ้างอิง           ปฐก.7:11;สดด.78:23;ลนต.13:45-46;2พกษ.5:18;7:16-19;กดว.5:1-4

บทนำ           ไม่ว่าในยามปกติหรือในท่ามกลางวิกฤติ พระเจ้าทรงสถิตกับเราอยู่เสมอ เพียงแต่ในยามที่เราจนหนทาง พระเจ้าทรงมีโอกาสสำแดงฤทธิ์เดชของพระองค์ด้วยความรักเมตตามากขึ้น แล้วเราล่ะ มีใจเมตตาผู้อื่นบ้างหรือไม่?

บทเรียน

7:1 “แต่​เอลีชา​ทูล​ว่า “ขอ​ฟัง​พระวจนะ​ของ​พระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์​ตรัส​ดังนี้​ว่า พรุ่งนี้​ประมาณ​เวลา​นี้ แป้ง​อย่าง​ดี​ถัง​หนึ่ง​เขา​จะ​ขาย​กัน​หนึ่ง​เชเขล และ​ข้าว​บาร์เลย์​สอง​ถัง​หนึ่ง​เชเขล​ที่​ประตู​เมือง​สะมาเรีย

      (But Elisha said, “Hear the word of the Lord: thus says the Lord, Tomorrow about this time a seah  of fine flour shall be sold for a shekel, and two seahs of barley for a shekel, at the gate of

     Samaria.” )

7:2 “แล้ว​นายทหาร​คน​สนิท​ของ​พระราชา​ตอบ​คน​ของ​พระเจ้า​ว่า “ถ้าแม้​พระยาห์เวห์​ทรง​สร้าง​หน้าต่าง​ใน​ฟ้า​สวรรค์   สิ่ง​นี้​จะ​เกิด​ขึ้น​ได้​หรือ?” แต่​เอลีชา​บอก​ว่า “ดูสิ ท่าน​จะ​เห็น​กับ​ตา​ของ​ท่าน​เอง แต่​จะ​ไม่ได้​กิน

     (Then the captain on whose hand the king leaned said to the man of God, “If the Lord himself  should make windows in heaven, could this thing be?” But he said, “You shall see it with your own

     eyes, but you shall not eat of it.”)

7:3 “มี​คน​โรคเรื้อน​สี่​คน​อยู่​ที่​ทางเข้า​ประตู​เมือง พวกเขา​พูด​กัน​ว่า “เรา​จะ​นั่ง​ที่นี่​จน​ตาย​ทำไม​เล่า?”

      (Now there were four men who were lepers at the entrance to the gate. And they said to one  another, “Why are we sitting here until we die? )

7:4 “ถ้า​เรา​พูด​ว่า ‘ให้​เรา​เข้า​ไป​ใน​เมือง’ การ​กันดาร​อาหาร​ก็​อยู่​ใน​เมือง และ​เรา​ก็​จะ​ตาย​ที่นั่น และ​ถ้า​เรา​นั่ง​ที่นี่​เรา​ก็​ตาย​เหมือน​กัน ฉะนั้น​จง​มา​เถิด ให้​เรา​เข้า​ไป​ใน​ค่าย​ของ​คน​ซีเรีย ถ้า​เขา​ไว้​ชีวิต​ของ​เรา เรา​ก็​จะ​รอด​ตาย ถ้า​เขา​ฆ่า​เรา ก็​ได้​แต่​ตาย​เท่านั้น​เอง

      (If we say, ‘Let us enter the city,’ the famine is in the city, and we shall die there. And if we sit here,   we die also. So now come, let us go over to the camp of the Syrians. If they spare our lives we shall  live, and if they kill us we shall but die.” )

7:5 “ดังนั้น ​พวก​เขา​จึง​ลุกขึ้น​ใน​เวลา​โพล้เพล้ เพื่อ​จะ​ไป​ยัง​ค่าย​ของ​คน​ซีเรีย แต่​เมื่อ​เขา​มา​ถึง​ริม​ค่าย​ของ​คน​ซีเรีย​แล้ว      ดูสิ ไม่มี​ใคร​ที่นั่น​สัก​คน”

     (So they arose at twilight to go to the camp of the Syrians. But when they came to the edge of the camp of the Syrians, behold, there was no one there. )

7:6 “เพราะ​องค์​เจ้านาย​ ได้​ทรง​ทำ​ให้​กองทัพ​ของ​คน​ซีเรีย​ได้​ยิน​เสียง​รถรบ เสียง​ม้า และ​เสียง​กองทัพ​ใหญ่ เขา​จึง​พูด​กัน​ว่า “ดูสิ พระราชา​แห่ง​อิสราเอล​ได้​จ้าง​บรรดา​พระราชา​แห่ง​คน​ฮิตไทต์ และ​บรรดา​พระราชา​แห่ง​อียิปต์​มา​รบ​กับ​เรา​แล้ว

      (For the Lord had made the army of the Syrians hear the sound of chariots and of horses, the sound of a great army, so that they said to one another, “Behold, the king of Israel has hired      against us the kings of the Hittites and the kings of Egypt to come against us.” )

7:7 “เขา​จึง​ลุกขึ้น​หนี​ไป​ใน​เวลา​โพล้เพล้ และ​ทิ้ง​เต็นท์ ม้า และ​ลา​ของ​เขา ทิ้ง​ค่าย​ไว้​อย่าง​นั้น​เอง และ​หนี​เอา​ชีวิต​รอด”

                (So they fled away in the twilight and abandoned their tents, their horses, and their donkeys,   leaving the camp as it was, and fled for their lives. )

7:8 “เมื่อ​คน​โรคเรื้อน​เหล่านี้​มา​ถึง​ริม​ค่าย เขา​ก็​เข้า​ไป​ใน​เต็นท์​หนึ่ง กิน​และ​ดื่ม และ​ขน​เงิน ทองคำ และ​เสื้อผ้า​จาก​ที่​นั่น​เอา​ไป​ซ่อน​ไว้ แล้ว​เขา​ก็​กลับ​มา​เข้า​ไป​ใน​อีก​เต็นท์​หนึ่ง ขน​เอา​ข้าวของ​ออก​ไป​จาก​ที่นั่น​ด้วย​เอา​ไป​ซ่อน​ไว้”

         (And when these lepers came to the edge of the camp, they went into a tent and ate and drank,  and they carried off silver and gold and clothing and went and hid them. Then they came back

               and entered another tent and carried off things from it and went and hid them.)

7:9 “แล้ว​เขา​พูด​กัน​ว่า “เรา​ทำ​ไม่​ถูก​เสีย​แล้ว วันนี้​เป็น​วัน​ข่าวดี ถ้า​เรา​นิ่ง​อยู่ และ​คอย​จน​แสงอรุณ​ขึ้น โทษ​จะ​ตก​อยู่​ กับ​เรา เพราะ​ฉะนั้น มา​เถิด ให้​เรา​ไป​บอก​สำนัก​พระราชวัง

      (Then they said to one another, “We are not doing right. This day is a day of good news. If we are  silent and wait until the morning light, punishment will overtake us. Now therefore come; let us go   and tell the king’s household.” )

7:10 “พวกเขา​จึง​มา​เรียก​นายประตู​เมือง และ​บอก​เรื่องราว​แก่​เขา​ทั้งหลาย​ว่า “เรา​ได้​ไป​ค่าย​ของ​คน​ซีเรีย และ​ดูสิ  เรา​ไม่​เห็น​ใคร​และ​ไม่ได้​ยิน​เสียง​ใคร​ที่นั่น มี​แต่​ม้า​ผูก​อยู่ และ​ลา​ผูก​อยู่ และ​เต็นท์​ตั้ง​อยู่​อย่างนั้น​เอง

      (So they came and called to the gatekeepers of the city and told them, “We came to the camp of   the Syrians, and behold, there was no one to be seen or heard there, nothing but the horses tied     and the donkeys tied and the tents as they were.” )

7:11 “แล้ว​บรรดา​นายประตู​ก็​ตะโกน​บอก​ไป และ​พวกเขา​ก็​บอก​กัน​ไป​ถึง​สำนัก​พระราชวัง”

        (Then the gatekeepers called out, and it was told within the king’s household. )

7:12 “พระราชา​ตื่น​บรรทม​ตอน​กลางคืน และ​ตรัส​กับ​ข้า​ราชการ​ว่า “เรา​จะ​บอก​ให้​ว่า​คน​ซีเรีย​เตรียม​สู้รบ​กับ​เรา​อย่างไร? เขา​ทั้งหลาย​รู้​ว่า​เรา​หิว เขา​จึง​ออก​นอก​ค่าย​ไป​ซ่อน​ตัว​ที่​กลางทุ่ง​คิด​ว่า ‘เมื่อ​อิสราเอล​ออก​จาก​เมือง เรา​จะ​ จับ​เขา​ทั้ง​เป็น แล้ว​จะ​เข้า​ไป​ใน​เมือง

    (And the king rose in the night and said to his servants, “I will tell you what the Syrians have done       to us. They know that we are hungry. Therefore they have gone out of the camp to hide                themselves in the open country, thinking, ‘When they come out of the city, we shall take them   alive and get into the city.’” )

7:13 “และ​ข้าราชการ​คน​หนึ่ง​ทูล​ว่า “ขอ​รับสั่ง​ให้​คน​เอา​ม้า​ที่​เหลือ​อยู่​ใน​เมือง​สัก​ห้า​ตัว แล้ว​ส่ง​ออก​ไป​และ​สังเกต​ดู นี่ แน่ะ บางที​ม้า​เหล่านั้น​จะ​ยัง​เป็น​อยู่​อย่าง​คน​อิสราเอล​ที่​เหลือ​ อยู่​ใน​เมือง หรือ​จะ​เป็น​อย่าง​คน​อิสราเอล​ที่​ได้​ พินาศ​แล้ว​ก็​ช่างเถิด

   (And one of his servants said, “Let some men take five of the remaining horses, seeing that   those who are left here will fare like the whole multitude of Israel who have already perished. Let         us send and see.” )

7:14 “พวกเขา​จึง​เอา​รถรบ​สอง​คัน​พร้อม​กับ​ม้า และ​พระราชา​ทรง​ส่ง​ให้​ไป​ติดตาม​กองทัพ​ของ​คน​ซีเรีย ตรัส​ว่า “จง​ไปดู

                 (So they took two horsemen, and the king sent them after the army of the Syrians, saying, “Go  and see.” )

7:15 “เขา​ทั้งหลาย​จึง​ติดตาม​ไป​จน​ถึง​แม่น้ำ​จอร์แดน และ​นี่แน่ะ ตลอด​ทาง​มี​เสื้อผ้า​และ​เครื่องใช้​ซึ่ง​คน​ซีเรีย​ทิ้ง เมื่อ​ เขา​รีบ​หนี​ไป ผู้​สื่อสาร​ก็​กลับ​มา​ทูล​กษัตริย์”

        (So they went after them as far as the Jordan, and behold, all the way was littered with garments   and equipment that the Syrians had thrown away in their haste. And the messengers returned  and told the king.)

7:16 “แล้ว​ประชาชน​ก็​ยก​ออก​ไป​ปล้น​ค่าย​ของ​คน​ซีเรีย แป้ง​อย่าง​ดี​จึง​ขาย​กัน​ถัง​ละ​เชเขล และ​ข้าว​บาร์เลย์​สอง​ถัง​  หนึ่ง​เชเขล ตาม​พระวจนะ​ของ​พระยาห์เวห์”

        (Then the people went out and plundered the camp of the Syrians. So a seah of fine flour was  sold for a shekel, and two seahs of barley for a shekel, according to the word of the Lord. )

7:17 “ส่วน​พระราชา​ทรง​แต่งตั้ง​นายทหาร​คน​สนิท​ให้​ไป​เฝ้า​ดูแล​ประตู​เมือง และ​ประชาชน​ก็​เหยียบ​ไป​บน​เขา​ตรง​ ประตู เขา​จึง​สิ้น​ชีวิต​ตาม​ที่​คน​ของ​พระเจ้า​ได้​กล่าว​ไว้ เมื่อ​พระราชา​เสด็จ​ลง​มา​หา​ท่าน”

        (Now the king had appointed the captain on whose hand he leaned to have charge of the gate.  And the people trampled him in the gate, so that he died, as the man of God had said when the      king came down to him. )

7:18 “และ​เป็น​ไป​ตาม​ที่​คน​ของ​พระเจ้า​ทูล​พระราชา​ว่า “ข้าวบาร์เลย์​สอง​ถัง​จะ​ขาย​หนึ่ง​เชเขล และ​แป้ง​อย่าง​ดี​หนึ่ง​  ถัง​หนึ่ง​เชเขล ประมาณ​เวลา​นี้​ใน​วัน​พรุ่งนี้​ที่​ประตู​เมือง​สะมาเรีย

       (For when the man of God had said to the king, “Two seahs of barley shall be sold for a shekel,    and a seah of fine flour for a shekel, about this time tomorrow in the gate of Samaria,” )

7:19 “และ​นายทหาร​คน​สนิท​ก็​ได้​ตอบ​คน​ของ​พระเจ้า​ว่า “ถ้า​แม้​พระยาห์เวห์​ทรง​สร้าง​หน้าต่าง​ใน​ฟ้า​สวรรค์ สิ่ง​นี้​จะ​เกิด​ขึ้น​ได้​หรือ?” และ​ท่าน​ได้​ตอบ​ว่า “ดูสิ ท่าน​จะ​เห็น​กับ​ตา​ของ​ท่าน​เอง แต่​จะ​ไม่ได้​กิน

        (the captain had answered the man of God, “If the Lord himself should make windows in heaven,  could such a thing be?” And he had said, “You shall see it with your own eyes, but you shall not  eat of it.”)

7:20 “และ​มัน​ก็​เกิด​ขึ้น​จริง​กับ​ตัว​เขา เพราะ​ประชาชน​เหยียบ​เขา​จน​ตาย​ที่​ประตู​เมือง”

        (And so it happened to him, for the people trampled him in the gate and he died.)

 

ข้อมูลมีประโยชน์

7:1       “แป้งอย่างดีถังหนึ่ง” (fine flour)

1 ถัง = 7.3 ลิตร, ดู ข้อ 16,18 (ภาษาฮีบรูคือ ซีห์)

“ขายกันหนึ่งเชเขล” (sold for a shekel) = 1 เชเขล คือเงินหนักประมาณ 11.5 กรัม มีค่าเท่ากับค่าแรง    สี่วัน (เช่นเดียวกับข้อ 16 และ 18)

= ข้าวบาร์เลย์สองถังหนึ่งเชเขล

= ค่าแป้งขึ้นเป็นประมาณ 2 เท่าของราคาปกติ แต่ยังดีกว่าราคาที่เฟ้อสูงขึ้น เพราะการกันดารอาหาร     –2พกษ.7:16

7:2       “นายทหารคนสนิท” (the captain on whose hand the king leaned) = นายทหารที่ติดตามกษัตริย์ –2พกษ.5:18

“สร้างหน้าต่างในฟ้าสวรรค์” (make windows in heaven) –ข้อ 19; ปฐก.8:2;อสย.24:18

= ทรงเปิดฟ้าสวรรค์ (ปฐก.7:11;2พกษ.7:19;สดด.78:23;มลค.7:17)

7:3       “คนโรคเรื้อน” ( who were lepers) –ลนต.13:45-46;กดว.5:1-4

           “ทางเข้าประตูเมือง” (at the entrance to the gate) = กฎบัญญัติในเบญจบรรณห้ามคนที่เป็นโรคผิวหนังอาศัยอยู่ในชุมชน (ลนต.13:46;กดว.5:2-3)

7:6       “ได้ยินเสียงรถรบ….” ( the sound of a great army) = พระเจ้าทรงบันดาลให้กองทัพของซีเรียได้ยินเสียงต่าง ๆ เช่น เสียงม้าศึก, เสียงควบม้าและเสียงกองทัพใหญ่ – 2ซมอ.5:24;อพย.14:24;อสค.1:24

           “ได้จ้าง” (hired against ) –2ซมอ.10:6;ยรม.46:21

          “คนฮิตไทต์” (the Hittites) = เมืองอิสระเล็ก ๆ ที่ปกครองโดยราชวงศ์ที่สืบเชื้อสายมาจากชาวฮิตไทต์ซึ่งรวมตัวกันอยู่ทางตอนเหนือของซีเรีย หลังจากที่อาณาจักรล่มสลายประมาณปี 1200 ก.ค.ศ. –กดว.13:29

7:7       “ลุกขึ้นหนี” (fled away) = เตลิดหนี – วนจ.7:21;สดด.48:4-6;สภษ.28:1;อสย.30:17

7:8       “คนโรคเรื้อน” ( lepers) –อสย.33:23;35:6

7:9       “โทษจะตกอยู่กับเรา” (  punishment will overtake us.) = พวกเขาทำดีเพราะกลัวถูกลงโทษหากไม่กระทำและแม้เป็นแรงจูงใจที่ต่ำ แต่ก็ยังมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพวกเขา

7:12     “เราจะบอกให้ว่า คนซีเรียเตรียมสู้รบกับเราอย่างไร?” (I will tell you what the Syrians have done to us) = เราจะบอกพวกท่านว่า นี่เป็นแผนของพวกซีเรีย

= ความไม่เชื่อของโยรัม ทำให้เขาสรุปเอาเองว่า รายงานของคนโรคเรื้อนนั้นเป็นแผนกลยุทธในการทำสงครามของพวกซีเรียมากกว่าที่จะเชื่อว่า นี่เป็นหลักฐานว่า คำพยากรณ์ของเอลีชาเกิดขึ้นจริง (7:1)

        “ไปซ่อนตัวที่กลางทุ่ง” ( hide themselves in the open country,  ) – ยชว.8:4

7:15     “เมื่อเขารีบหนีไป” (in their haste) = รีบหนีเตลิดอย่างชุลมุน –โยบ 27:22

7:16-20 “ตามพระวจนะของพระยาเวห์ …เป็นไปตามที่คนของพระเจ้าทูลพระราชา…มันก็เกิดขึ้นจริงกับตัวเขา” (according to the word of the Lord. …For when the man of God had said to the king, …And so it happened to him,)  = การเน้นให้เห็นว่าคำพยากรณ์ของเอลีชานั้นเชื่อถือได้เพื่อสำเร็จตามคำพยากรณ์ พวกอิสราเอลก็ได้รับการเตือนย้ำว่า การช่วยกู้พวกเขาจากศัตรูนั้นเป็นของขวัญมาจากพระเจ้าอันเป็นพระคุณ  แม้ว่าพวกเขาจะปฏิเสธพระเจ้าและยั่วยุพระองค์ให้ทรงพิโรธเสมอมา

7:16     “ยกออกไปปล้นค่าย” (went out and plundered the camp) = กูรกันออกไปยึดข้าวของ  –อสย.33:4,23

“หนึ่งเชเขล” (a shekel, ) –2พกษ.7:1

7:17    “ประชาชนเก็เหยียบไปบนเขาตรงประตู เขาจึงสิ้นชีวิต” (the people trampled him in the gate, so that he died) –2พกษ.7:2

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่มีทางออกบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร? และคุณรับมือกับมันอย่างไร?
  2. คุณเคยได้รับความช่วยเหลือให้พ้นวิกฤติอะไรบ้าง  ที่คุณไม่มีวันลืมตลอดชีวิต? ใครเป็นผู้ช่วยเหลือคุณ? และอย่างไร?
  3. คุณได้รับบทเรียนอะไรบ้างจากวิกฤติชีวิตในครั้งนั้น? และได้เปลี่ยนแปลงอะไรในตัวของคุณบ้าง?
  4. คุณเคยมีประสบการณ์กับการช่วยเหลือของพระเจ้าในเรื่องใดในชีวิตที่คุณประทับใจมากที่สุด? ผ่านผู้ใด? และอย่างไร?
  5. ในชีวิตของคุณ คุณเคยช่วยผู้ใดให้รอดทางด้าน   1)      กาย หรือ  2)  จิตวิญญาณ บ้าง?  (แบ่งปัน)
  6. คุณเคยมีความระแวงมากเกินไป จนไม่กล้าทำอะไรหรือทำอะไรผิดพลาดบ้างหรือไม่?  เรื่องอะไร และอย่างไร ผลที่ตามมาคืออะไร?
  7. คุณเคยมีประสบการณ์กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายในข้ามคืนบ้างหรือไม่? ในเรื่องใด?  และส่งผลกระทบอะไรตามมาบ้าง? พระเจ้าสอนอะไรคุณเป็นพิเศษสำหรับเหตุการณ์นั้น ๆ ?

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.